ส่งตัวนอนคุกมทบ.11 หลังศาลอนุมัติฝากขัง ลุงวัฒนามือบึ้มร.พ.พระมงกุฎฯ ผัดแรก 12 วันตร.ให้เหตุผลเพราะต้องสอบพยานอีก 14 ปาก รวมทั้งเป็นการกระทำโหดเหี้ยม ไร้มนุษย ธรรม ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ ขณะที่ลุงวัฒนา สีหน้าเรียบเฉย

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 มิ.ย. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.น.1 ควบคุมตัวนายวัฒนา หรือตุ่ม ภุมเรศ อายุ 61 ปี ภูมิลำเนา กทม. อดีตวิศวกรการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1408/2560 ลงวันที่ 16 มิ.ย. 2560 คดีระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย.-3 ก.ค. 2560 เนื่องจากการสอบสวนยัง ไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานบุคคลอีก 14 ปาก และรอผลการตรวจประวัติต้องโทษจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร กับพิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องหา รวมทั้งผลตรวจพิสูจน์ของกลางในคดีจากกองพิสูจน์หลักฐาน

โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการให้ประกันตัว เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ และมีอัตราโทษสูง เป็นคดีที่น่าสนใจของประชาชนทั่วไปและสื่อมวลชน ผู้ต้องหาก่อเหตุวางระเบิดในสถานโรงพยาบาล ซึ่งมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาจากแพทย์ และมานั่งรอรับยา ทำให้มีผู้ป่วยบาดเจ็บจำนวนมาก เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรม ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ ในเรื่องเกี่ยวกับการห้ามใช้โรงพยาบาลเป็นเป้าหมายการสู้รบ

นอกจากคดีนี้แล้วผู้ต้องหายังให้การรับสารภาพว่าเคยทำผิดลักษณะเดียวกันอีก 6 ครั้ง เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2550 ก่อเหตุที่บริเวณ ตู้โทรศัพท์สาธารณะ หน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์รัชโยธิน เขตจตุจักร ท้องที่ สน. พหลโยธิน, วันที่ 5 พ.ค. 2550 บริเวณตู้โทรศัพท์ปากซอยราชวิถี 24 เขตดุสิต ท้องที่ สน.ดุสิต วันที่ 30 ก.ย. 2550 ก่อเหตุบริเวณตู้โทรศัพท์สาธารณะหน้าบก.ทบ. เขตพระนคร ท้องที่ สน.นางเลิ้ง วันที่ 5 เม.ย. 2560 หน้ากองสลากกินแบ่งรัฐบาล ถ.ราช ดำเนิน เขตพระนคร ท้องที่ สน. ชนะสงคราม และวันที่ 15 เม.ย. 2560 ก่อเหตุหน้าโรงละครแห่งชาติ เขตพระนคร ท้องที่ สน. ชนะสงคราม หากผู้ต้องหาถูกปล่อยตัวเกรงว่าอาจก่อเหตุวางระเบิดในลักษณะเดียวกันอีก หรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือหลบหนีไปหลังจากได้รับการปล่อยชั่วคราว

โดยเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาฐานพยายามฆ่า ผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 289 (4) ฐานทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น ฐานกระทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและอันตรายสาหัส ฐานกระทำการเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหายเกิดอันตรายแก่โรงเรือนฯ มาตรา 218 (4), 221, 222, 224 ฐานมีและใช้วัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครอง และฐานมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 และพ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530

ด้านพล.ต.อ.ศรีวราห์ รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า พนักงานสอบสวนส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมยื่นคำร้องฝากขังเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคำร้องฝากขังจะเป็นเหตุการณ์วางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ส่วนการก่อเหตุอื่นที่มีการขอออกหมายจับรวมแล้ว 7 หมาย จะใช้การอายัดตัวทุกคดี พร้อมคัดค้านการประกันตัวด้วยเหตุผลเกรงจะหลบหนี และกลัวเรื่องการก่อเหตุซ้ำโดยเราอ้างไปทุกประเด็น

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวด้วยว่า ยืนยันว่าถ้าพบว่าพาดพิงถึงบุคคลอื่นอีก และมีพยานหลักฐานเราจะมาขออนุมัติหมายจับจากศาลแน่นอน ถ้ามีหลักฐานก็ขอหมายจับ ถ้าไม่มีพยานหลักฐานก็จะเป็นพยาน ถ้ามีหมายจับใครขึ้นมาเดี๋ยวสาธารณชนก็จะทราบเอง โดยเรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำชับมาในเรื่องของการขยายผลคดี แต่ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานจะไปคาดคะเนล่วงหน้าไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญาพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ และมีคำสั่งอนุญาตตามคำขอของพนักงานสอบสวน ให้ส่งตัว ผู้ต้องหาไปคุมขังที่เรือนจำชั่วคราวแขวง ถนนนครไชยศรี (มทบ.11) ตามกำหนด 12 วัน

ต่อมาเวลา 13.40 น. เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวนายวัฒนาขึ้นรถตู้ไปโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นั่งประกบไปด้วย ขณะที่นายวัฒนามีสีหน้าท่าทางปกติ สวมหน้ากากอนามัยปิดจมูกและปาก ในมือถือถุงใส่เสื้อผ้า อาหารและเป๊ปซี่ ติดตัวไปด้วย โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์สอบถามความสมัครใจนายวัฒนาแล้วไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนถ่ายภาพขณะถูกควบคุมตัวขึ้นรถเพื่อไปเรือนจำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน