จากกรณีพบซาก พี่เตี้ย มช. หมาเซเลบขวัญใจ นศ.ม.เชียงใหม่ ถูกทิ้งในป่าข้างทาง บริเวณถนนพระนาง หลังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ต.ช่างเคี่ยน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นตำรวจ ยศ. ส.ต.ท. สังกัด ตชด.จะเข้ามอบตัว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

อ่านข่าว ที่แท้เป็นตำรวจ พา เตี้ย มช. ออกไปข้างนอก เปิดปากเล่าสาเหตุ ตำรวจไม่เชื่อ พบพิรุธ

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 18 พ.ค. ที่ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก พร้อมพนักงานสอบสวน ได้เชิญตัวเจ้าหน้าที่มูลนิธิวอชด็อก และผู้ถูกล่าวหาซึ่งเป็นตำรวจ ตชด.ใน จ.เชียงใหม่ ยศ ส.ต.ท. อายุ 27 ปี มาสอบปากคำเพิ่มเติม

ผู้ถูกกล่าวหาเดินทางมาพร้อมกับพี่สาวและผู้บังคับบัญชา ก่อนเข้าไปห้องประชุมชั้น 3 โดยมี พ.ต.อ.กิตติพงษ์ และพนักงานสอบสวน พร้อมด้วยชุดสืบสวน นำมาสอบถามข้อมูลและสอบปากคำอีกครั้งต่อหน้ากันใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

หลังเสร็จสิ้นการสอบปากคำ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ ให้ผู้ถูกกล่าวหาเดินทางกลับไปก่อน เนื่องจากยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิวอชด็อกได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอเป็นผู้กล่าวโทษร้องทุกข์ ในข้อหา “ทารุณกรรมสัตว์” กับผู้ก่อเหตุ

พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เปิดเผยว่า ตำรวจพบผู้ต้องสงสัยที่มาให้การกับตำรวจว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้างในช่วงที่หลังจากมีการพบซาก พี่เตี้ย มช. โดยผู้ต้องสงสัยก็ได้ให้รายละเอียดในระดับหนึ่ง ซึ่งทางตำรวจพร้อมกับเจ้าหน้าที่ มช.ที่เป็นแอดมิดเฟซบุ๊ก และทางมูลนิธิวอชด็อกก็ได้ร่วมกันตรวจสอบ

และวันนี้เราก็ได้เอาข้อมูลต่างๆ ที่เกิดจากการให้การและจากการรวบรวมพยานหลักฐาน มาพิจารณาร่วมกันว่าหลักฐานต่างๆ สามารถที่จะดำเนินการกับผู้กระทำความผิดใดได้บ้าง

วันนี้มูลนิธิวอชด็อกประสงค์จะดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัย เชื่อว่ามีการร่วมกันกระทำความผิดในการทารุณสัตว์ในเขตพื้นที่ สภ.ช้างเผือก

ในเรื่องของคดีก็ต้องเป็นเรื่องของการทารุณกรรมสัตว์ พยานหลักฐานต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งฝ่ายสืบสวน และสอบสวน ก็คงประสานงานกันและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจะทำการแจ้งข้อกล่าวหาให้กับผู้ต้องสงสัย ก็ต้องว่าตามหลักฐานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ตอนนี้พยานหลักฐานต่างๆ ก็อยู่ระหว่างรวบรวม

พ.ต.อ.กิตติพงษ์ กล่าวต่อว่า จากคำให้การของผู้ต้องสงสัย ก็ยอมรับว่าเอาเตี้ยไปจริง และเกิดอุบัติเหตุ แต่ประเด็นที่จะเกิดจากการทารุณกรรมสัตว์หรือไม่ ตรงจุดนี้ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่จะต้องนำมาเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นกล้องวงจรปิด พยานในที่เกิดเหตุ พยานแวดล้อมต่างๆ หรือแม้กระทั่งข้อมูลจากแพทย์ผู้ชันสูตร

จุดนี้เองก็จะทราบได้ว่าในขณะที่เกิดขึ้น เป็นการหรือมีลักษณะที่บ่งชี้ว่าเป็นการทารุณกรรมหรือไม่ ตรงนี้เป็นหัวใจสำคัญ ตำรวจเองก็ต้องดำเนินการภายใต้กรอบของกฎหมายและหลักฐานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนำตัวผู้ต้องสงสัยมาในวันนี้เพื่ออะไร พ.ต.อ.กิตติพงษ์ ตอบว่า การเรียกตัวมาวันนี้ก็เพื่อเป็นการสอบถามพุดคุย หลังจากนั้นก็เป็นการเข้าสู่ขบวนการสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป วันนี้ยังคงไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ข้อหาประเด็นหรือหลักฐานพยานจุดไหนที่จะเป็นข้อกล่าวหากับผู้ต้องสงสัยได้ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ กล่าวว่า อาจจะเป็นกล้องวงจรปิด หรือประจักษ์พยานที่มาพบเห็นในการกระทำความผิด หรือคำให้การของผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะแพทย์, สัตวแพทย์

ว่าลักษณะดังกล่าวเป็นการตายโดยอุบัติเหตุหรือเป็นการตายอย่างทรมาน หรือการทำให้ตายแบบทันทีหรือไม่ทันที ซึ่งเป็นประเด็นนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ตำรวจจะต้องเอามาพิจารณาในการแจ้งข้อกล่าวหาได้

สำหรับโทษของคดีนี้ ในการทารุณกรรมสัตว์ มีโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในส่วนที่ผู้ต้องสงสัย หากเป็นข้าราชการตำรวจก็คงต้องมีรับโทษทางวินัยเป็นระเบียบมาตรฐานอยู่แล้วในแต่ละหน่วย

ทางด้านพนักงานสอบสวน ได้เปิดเผยว่า ตำรวจจะได้เรียกสอบพยานต่างๆ รวมทั้งแฟนของผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำด้วย โดยจะรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ให้มากที่สุดเพื่อให้ความจริงกระจ่าง

น.ส.ณภัทร นิธิวรภาส เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิวอชด็อก ได้เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ที่เราได้ร่วมกับตำรวจสอบสวนผู้ต้องสงสัย ซึ่งเขาได้ยอมรับว่าเขาได้เอาพี่เตี้ยออกไปจริง แต่เขาได้บอกว่าไม่ได้ทารุณ ฉะนั้นวันนี้ที่เขามาอีกครั้งเขาปฏิเสธว่า เขาไม่ได้ทารุณ คำให้การที่ผู้ต้องสงสัยเมื่อวานนี้ ขัดกันกับความจริงทั้งหมด เช่น เขาบอกเอาเตี้ยขึ้นไปข้างหน้าและเตี้ยกระโดดลง ถูกล้อหลังไปทับตายทันที ซึ่งเราไม่เชื่อ ไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูดจะเป็นความจริง เพราะว่าไม่มีรถจยย.ที่ไหนทับหมาแล้วตายทันที ขนาดรถชนหมายังไม่ตายทันทีเลย

ต่อข้อถามว่าในซากของเตี้ยมีร่องรอยอะไรบ้างที่ยืนยันว่าเป็นการทารุณ เจ้าหน้าที่วอชด็อก กล่าวว่า พบว่ามีรู 4 รู ในซากของเตี้ย ซึ่งชาวบ้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 4 นัด นอกจากนี้ยังมีคนเข้ามาให้ข้อมูลในเพจวอชด็อกว่า คนที่รับเตี้ยออกไปแต่งตัวแบบหนึ่ง แต่พอไปอีกนิดหนึ่งทางออกก็แต่งตัวอีกแบบหนึ่ง แสดงว่าต้องมีมากกว่า 1 คน ทำเป็นขบวนการ เราสงสัยว่า เอาหมาออกไปทำไมในช่วงสองทุ่มครึ่ง ในช่วงเคอร์ฟิว 4 ทุ่ม เอาหมาไปเที่ยวตามวิสัยของคน แค่ใน มช.ก็ได้ ทำไมต้องเอาออกข้างนอก เอาออกไปแล้ว มาบอกว่าประสบอุบัติเหตุขี่รถเร็ว พาหมาเที่ยวจี่รถเร็วเลยหรือ เราได้สอบถาม เขาก็ตอบไม่ได้ว่าตอนนั้นใช้ความเร็วเท่าไร

ส่วนแรงจูงใจที่ผู้ต้องสงสัยกระทำกับเตี้ยนั้น เรายังตอบไม่ได้ ต้องรอสอบอย่างเดียว วันนี้เราได้กล่าวโทษเขาแล้วว่าเขาคือผู้กระทำ ตอนนี้ประเด็นเป็นไปได้ทุกอย่าง เพราะเตี้ยนั้นมีทั้งคนรักคนเกลียดเยอะแยะ ที่เขาอ้างว่ารถล้ม พบว่าไม่มีเพราะเขาไม่มีบาดแผลอะไรเลย ปกติดีทุกอย่าง ชนหมาขนาดนั้นต้องล้ม ไม่มีอะไรเลย

ตอนนี้ก็คือต้องรอ ตนมั่นใจว่าตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานจนเข้าไปสู่ขบวนการยุติธรรมได้ในที่สุด มั่นใจว่าเตี้ยไม่ตายฟรี เราต้องการคำตอบว่าเขาทารุณกรรมเตี้ย ด้วยวิธีใด เตี้ยไม่สมควรที่จะต้องมาตายแบบนั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน