ตร.แจ้งเอาผิด 3 ข้อหา”หนุ่มยาริส” ถือไม้เบสบอลทุบกระจกรถปิกอัพที่เฉี่ยวชนกัน ด้านคู่กรณีพร้อมเมียอุ้มลูกเข้าให้การเพิ่มเติม เผยไม่ติดใจแล้ว หลังหนุ่มยาริสยอมชดใช้ค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาลลูกสาวที่บาดเจ็บ พร้อมกล่าวขอโทษ บอกว่าขณะเกิดเหตุใจร้อน เลยขาดสติ ขณะที่สาวปิกอัพคู่กรณี อีกรายที่จอดข้างถนนแล้วถูกชนไปด้วย โร่ขึ้น โรงพักแจ้งความหนุ่มยาริส ทำให้เสียทรัพย์ ให้ชดใช้ค่าเสียหายด้วยเช่นกัน

จากกรณีมีผู้แชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ชายหนุ่มขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส จอดรถกลางถนน แล้วถือไม้เบสบอลทุบกระจกรถกระบะแตก ก่อนที่คนขับรถคู่กรณีรีบขับหลบหนีไป แต่หนุ่มรถเก๋งยาริสยังขับรถไล่ตาม และชนรถกระบะจนเสียหลักไปชนกับรถกระบะอีกคันที่จอดอยู่ข้างทางเสียหาย โดยขณะเกิดเหตุไล่ชนกัน ลูกของคนขับรถปิกอัพได้รับบบาดเจ็บร้องไห้เสียงดังเป็นที่ตกอกตกใจ ของผู้ที่ได้ดูและได้ยินเสียงในคลิปดังกล่าว ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 มิ.ย. นายอนุสรณ์ ศิริพลภักดี อายุ 24 ปี พร้อมด้วยน.ส.ธนิดา แซ่ลี้ อายุ 23 ปี และลูกสาววัย 2 ขวบ เข้าพบ พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี และให้ปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องค่าเสียหาย

นายอนุสรณ์กล่าวว่าคู่กรณีคือนายนิอับดุลอาชิส นิเงาะ อายุ 35 ปี ในเบื้องต้นได้เจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเสียหายกันแล้วตั้งแต่ช่วงเย็นวันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. นายนิอับดุล อาชิสตกลงยินยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด พร้อมกล่าวขอโทษว่า ขณะเกิดเหตุใจร้อนเลยขาดสติ ขณะนี้อยู่ระหว่างตกลงเรื่องค่าเสียหาย และค่าใช้จ่ายในการรักษา เนื่องจากลูกสาวได้รับบาดเจ็บบริเวณคาง โดยได้รับการติดต่อจาก ทางทนายความของคู่กรณีว่าให้รับเงินประกันของรถ ซึ่งตรงนี้เห็นว่าเป็นประกันอุบัติเหตุของรถตน ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ส่วนพ.ต.อ.สิงห์กล่าวว่า ตำรวจได้ภาพวงจรปิดและหลักฐานสำคัญเป็นที่เรียบร้อย เบื้องต้นแจ้งดำเนินคดี 3 ข้อหาแก่นายนิอับดุล อาชิส นิเงาะ อายุ 35 ปี คนขับรถเก๋งยาริส 1.ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย 2.ทำให้เสียทรัพย์ และ 3.ขับรถประมาททำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย ส่วนข้อหาพยายามฆ่านั้น พนักงานสอบสวนต้องตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนว่าเจตนาในขณะนั้นสอดคล้องกับความผิดหรือไม่ ขณะที่ค่าเสียหายต่างๆ ขึ้นอยู่กับทั้ง 2 ฝ่ายเจรจา และเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

ขณะที่นายอนุสรณ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่อยาก ให้คดียืดยาวไปมากกว่านี้ อยากกลับไปใช้เวลา ทำมาหากินหาเงินเลี้ยงครอบครัวมากกว่าต้องขึ้นโรงพัก หรือศาล โดยส่วนตัวไม่ได้ติดใจ เพราะหลังจากนายนิอับดุลอาชิสพุ่งชนรถก็เดิน เข้ามาขอโทษ ที่ทำไปเพราะใจร้อนไม่มีสติ ส่วนที่ตนกลับรถแล้วไปเฉี่ยวชนรถนายนิอับดุล อาชิสนั้นไม่ทราบจริงๆ ว่าเฉี่ยวหรือไม่ คดีจะ เป็นอย่างไรต่อไปขอให้ตำรวจเป็นผู้ตัดสิน

ต่อมาเวลา 14.30 น. น.ส.ปิยะวรรณ ปิรยาวรา อายุ 39 ปี ผู้เสียหายอีกรายเป็นเจ้าของกระบะที่จอดริมถนนแล้วถูกชนเดินทาง เข้าพบตำรวจ โดยระบุว่าตั้งแต่วันเกิดเหตุ 22 มิ.ย. นายนิอับดุลอาชิสคนขับรถเก๋งยาริสตกลง ว่าจะชดใช้ทั้งหมด แต่หลังจากวันที่ตกลง ก็ติดต่อนายนิอับดุลอาชิสไม่ได้ มีเพียงภรรยานายนิอับดุลอาชิสติดต่อผ่านไลน์ต่อรองค่าเสียหาย และบ่ายเบี่ยงมาตลอด

น.ส.ปิยะวรรณกล่าวว่า เตรียมหลักฐานเป็นข้อความทางไลน์มาให้ตำรวจดู และเตรียม แจ้งความนายนิอับดุลอาชิส ข้อหาทำให้ทรัพย์สินเสียหาย เพราะรถกระบะของตนต้องใช้ขนของ และขณะนี้ยังซ่อมอยู่ ไม่สามารถทำงานได้ ถ้าจำเป็นก็ต้องไปจ้างรถอีกทอดหนึ่ง ทำให้เดือดร้อนมาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน