บินไทยเสี่ยงหนี้งอกขั้นต่ำ 2.3 พันล้าน เผยมีคดีคาศาลถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายอื้อ-กรมศุลจ้องรีดภาษีเพิ่ม หวั่นป่วนฟื้นฟูกิจการ
รายงานข่าวจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ณ สิ้นปี 2562 นอกจากการบินไทยจะมีภาระหนี้สินสะสมรวม 2.42 แสนล้านบาทแล้ว การบินไทยยังมีความเสี่ยงจากหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตที่ปัจจุบันยังไม่ได้แสดงในงบการเงินเพราะยังประเมินมูลค่าไม่ได้อีกด้วย ซึ่งประกอบด้วย3 กรณี คือ 1.กรณีร้องขอให้ธนาคารค้ำประกันเงินกู้ 2.กรณีที่อาจถูกเก็บภาษีเพิ่มและ3.กรณีที่บริษัทมีข้อพิพาทถูกฟ้องร้องในศาลเรียกค่าเสียหายในศาลทั้งในและต่างประเทศ จำนวน 7 คดี
- อ่าน การบินไทย ลั่นไม่มีเงิน ลูกค้าขอค่าตั๋วคืนแสนล้าน ไม่รับปากจะได้เงินหรือไม่!
- อ่าน ด่วน! ศาลล้มละลาย รับฟื้นฟู “การบินไทย” พักชำระหนี้ทันที
ทั้งนี้ กรณีขอให้ธนาคารค้ำประกันเงินกู้หากการบินไทยไทยไม่ชำระเงินกู้ผู้ค้ำจะกลับมาไล่บี้เรียกหนี้กับการบินไทยได้ กรณีการเก็บภาษีอาจจะถูกเก็บเพิ่มหากรัฐบาลพิสูจน์ได้ว่าการบินไทยเสียภาษีไม่ครบ และกรณีข้อพิพาทในศาล หากการบินไทยแพ้คดีต่างๆ จะทำให้การบินไทยจะมีภาระหนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งจากการประเมินผลกระทบของทั้ง 3 กรณีหากการบินไทยเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ คาดว่าการบินไทยจะต้องมีภาระหนี้ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นขั้นต่ำ2,300 ล้านบาท ที่สำคัญข้อพิพาทที่อยู่ในขั้นตอนของศาลหลายคดีนี้ยังจะเป็นอุปสรรคปัญหาใหญ่ที่ผู้บริหารแผนจะต้องเข้ามาแก้ไขภายใต้ขบวนการฟื้นฟูบริษัทผ่านศาลล้มละลาย เพื่อให้การดำเนินการฟื้นฟูการบินไทยสำเร็จ
สำหรับคดีข้อพิพาทต่างๆประกอบด้วย 1. บริษัทได้ขอให้ธนาคารในประเทศออกหนังสือค้ำประกันในวงเงิน 120 ล้านบาท และธนาคารต่างประเทศออกหนังสือค้ำประกัน ในวงเงิน 429 ล้านบาท โดยหากบริษัทผิดสัญญาเจ้าหนี้จะเรียกร้องกับธนาคารให้ชำระหนี้แทนโดยธนาคารจะมาไล่บี้บริษัทได้ภายหลัง
2. บริษัทถูกฟ้องร้องเป็นจำเลยในคดีพิพาทแรงงานเป็นจำนวน 13 คดี วงเงิน 103 ล้านบาทและถูกฟ้องร้องเป็นจำเลยในคดีเรียกค่าเสียหายในประเทศและต่างประเทศรวมวงเงิน 403 ล้านบาท
3. สำนักงานบริษัทสาขาพนมเปญกัมพูชามีภาษีที่ถูกประเมินเพิ่มจากสรรพากรกัมพูชา กรณีการตีความข้อกฎหมายที่แตกต่างกัน สำหรับปี2560 โดยประเมินจากภาษี 3 ประเภท ได้แ้ก่ Tax on Profit,Specific Tax และ Withholding Tax รวมภาษีที่ถูกประเมินเพิ่มพร้อมเบี้ยปรับและดอกเบี้ยเป็นจำนวนเงิน ประมาณ 80 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมสรรพากรกัมพูชา
4. บริษัทเป็นผู้ประกอบการในเขตปลอดอากรได้รับหนังสือขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงจากกรมศุลกากรที่ กค 0503(4)/621 ลงวันที่ 28 ส.ค. 2560 เกี่ยวกับความครบถ้วนของใบอนุญาตนำอาหารเข้ามาในราชอาณาจักร สำหรับสินค้าที่ควบคุมการนำเข้า โดยเจ้า้หน้าที่กรมศุลกากรได้ประเมินค่าภาษีอากรที่ขาดตามใบขนสินค้าขาเข้า252 ฉบับ แล้วพบว่า ราคาสินค้ามีจำนวน 492ล้านบาท อากรขาเข้าจำนวน 244ล้านบาท ภาษีสรรพสามิตจำนวน 754ล้านบาท ภาษีเพื่อมหาดไทยจำนวน 75 ล้า้นบาท ภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวน 109ล้านบาท เงินบำรุงสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพจำนวน 15ล้านบาท และเงินบำรุงองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยจำนวน 11 ล้านบาท บริษัทได้จัด ส่งเอกสารเพิ่มเติมให้กรมศุลกากรเพื่อประกอบการพิจารณาและกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมศุลกากร
รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากนี้ บริษัทยังมีคดีถูกฟ้องไล่เบี้ยให้ชดใช้ค่าเสียหายอีกหลายคดี เกี่ยวกับกรณีที่บริษัทฟ้องร้องคดีละเมิดกฎหมายป้องกันการค้าที่ไม่เป็นธรรม (Antitrust) โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. กรณี บริษัทถูกสายการบิน British Airways ซึ่งเป็นจำเลยในคดี Cargo Civil Case ในประเทศอังกฤษร้องขอใช้สิทธิไล่เบี้ยบริษัท เนื่องจากสายการบิน British Airways ถูกบริษัทซึ่งเป็นโจทก์ฟ้องให้ชดใช้ค่าเสียหายจากการกำหนดราคาค่าธรรมเนียมพิเศษ(Fuel Surcharge และ Security Surcharge)ในประเทศอังกฤษ ซึ่งยังไม่ได้ประเมินวงเงิน
2. กรณีบริษัทถูกฟ้องในคดี Cargo Civil Case ในสาธารณรัฐเกาหลีเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2557 โดยกลุ่มบริษัทแอลจีไดแ้ก่ LG Chemical, LG Electronics, LG Display และ LG Life Science ได้ยื่นฟ้องคดีแพ่งต่อสายการบินจำนวน 12 ราย รวมทั้งบริษัท ในวันที่ 27 พ.ย. 2556 เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากการร่วมกันกำหนดราคา FuelSurcharge ระหว่างสายการบินต่าง ๆ ในช่วงระหว่างปี2542 -2550โดยกลุ่มบริษทัแอลจี ระบุจำนวนทุนทรัพย์ในคำฟ้องเป็นเงิน พร้อมดอกเบี้ย ประมาณ 12 ล้านบาท
3. กรณีบริษัทถูกสายการบิน British Airways สายการบิน Lufthansa และสายการบิน KLM-AF ซึ่งเป็นจำเลยในคดี Cargo Civil Case ในประเทศเนเธอร์แลนด์ยื่น คำร้องขอใช้สิทธิไล่เบี้ยในช่วงต้นเดือนก.ค. 2558 ซึ่งยังไม่ได้ประเมินวงเงิน
และ4.กรณีบริษัทมีข้อพิพาทกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(ทอท.) กรณีการการคิดอัตราค่าสัญญาเช่าพื้นที่และประกอบกิจการ ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับ ทอท . ซึ่ง ทอท.ขอปรับอัตราค่าเช่า แต่ การบินไทยขอจ่ายในอัตราเดิมจึงยังตกลงกันๆไม่ได้โดยอยู่ในขั้นอนุญาโตตุลาการ ซึ่งยังไม่ได้ประเมินวงเงินว่ายุติแล้วการบินไทยจะต้องจ่ายค่าเช่าในอัตราเท่าไหร่
