รถมือสองขวางลดภาษีรถใหม่ 50 % อัดใช้ภาษีอุดหนุนเฉพาะกลุ่ม ทำสูญแสนล้าน ด้านสรรพสามิต นัดตั้งโต๊ะหาข้อสรุปร่วมวันนี้

เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่กรมสรรพสามิต นายภิญโญ ธนวัชรภรณ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว เดินทางมายื่นหนังสือคัดค้านกรณีที่กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นำเสนอการช่วยเหลือต่อกรมสรรพสามิต เนื่องจากวิกฤตโควิด-19

นายภิญโญ กล่าวว่า สมาคมฯ มีความเห็นว่าข้อเสนอดังกล่าวจะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ใช้แล้ว และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศ เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับนโยบายรถยนต์คันแรกในปี 2555

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ในส่วนผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. ได้แก่ 1.ข้อเสนอในการลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ลง 50% เป็นข้อเสนอที่ให้ภาครัฐนำภาษีของประชาชนมาอุดหนุนอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง ในช่วงภาวะวิกฤตที่ทุกอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจนั้น ทางสมาคมฯ เห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง การนำเสนอขอเรียกร้องดังกล่าวถือว่าเป็นการนำเสนอข้อเรียกร้องที่ขาดซึ่งความสำนึกและความรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม และเป็นการซ้ำเติมอุตสาหกรรมข้างเคียงอย่างรุนแรง อย่างที่เคยเกิดขึ้นกับนโยบายรถยนต์คันแรกในปี 2555

โดยเห็นว่าหากภาครัฐให้การสนับสนุนข้อเสนอดังกล่าว นอกจากจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีเป็นจำนวนเงิน 40,000-100,000 บาทต่อคันแล้ว ข้อเสนอดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อมูลค่าของรถยนต์ใช้แล้วที่หมุนเวียนในอุตสาหกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วจะเกิดภาวะขาดทุนจากมูลค่าของสินค้าคงคลังที่ลดลงอย่างรุนแรง เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดในปี 2555 ที่มีผู้ประกอบการในธุรกิจรถยนต์ใช้แล้วต้องล้มหายตายจากไปกว่า 30% และถือเป็นการซ้ำเติมผู้ประกอบการที่ประสบความยากลำบากในวิกฤตินี้ด้วย

“นโยบายรถยนต์คันแรกได้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ของอุตสาหกรรมรถยนต์ใช้แล้วและสินเชื่อรถยนต์ยาวนานถึง 3 ปี ถือเป็นวิกฤติการณ์ที่รุนแรงครั้งหนึ่งในอุตสาหกรรมรถยนต์ใช้แล้ว ที่ส่งผลกระทบต่อมูลค่าของรถยนต์ที่ตกลงอย่างรุนแรง ทำให้มูลค่าสินทรัพย์ของอุตสาหกรรมรถยนต์ใช้แล้วและอุตสาหกรรมข้างเคียง เช่น อุตสาหกรรมสินเชื่อรถยนต์เกิดภาวะสินทรัพย์ด้อยค่า ทำให้ระบบนิเวศน์ (Ecosystem) เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง” นายภิญโญ กล่าว

2.ข้อเสนอให้ภาครัฐสนับสุนโครงการรถเก่าแลกรถใหม่ โดยให้ภาครัฐใช้เงินภาษีสนับสนุนราคารถเก่าในมูลค่าถึง 100,000 บาท ถือเป็นการนำเสนอโครงการที่มองงไม่เห็นจุดจบว่ารถเก่าเหล่านี้จะนำไปเก็บไว้ที่ไหน ซึ่งหลายประเทศ รัฐบาลมีการสนับสนุนโครงการดังกล่าวจริง แต่ว่าต้องกำหนดอายุของรถยนต์ให้ชัดเจน เช่น รถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 15 ปีขึ้นไป รัฐบาลจะให้การสนับสนุนราคารถเก่าในมูลค่าที่กำหนด เพื่อนำรถยนต์ที่มีอายุเหล่านั้นไปรีไซเคิล หรือส่งออกไปยังประเทศที่ 3 ต่อไป เพื่อแก้ปัญหามลพิษภายในประเทศ ซึ่งโครงการอุตสาหกรรมรีไซเคิลรถยนต์ หรือการส่งออกรถยนต์เก่าไปยัประเทศที่ 3 ยังไม่มีโครงการที่ชัดเจน ทางสมาคมฯ เห็นว่าภาครับควรได้รับแผนงานที่ชัดเจนจากกลุ่มอุตสาหกรรมรมยานยนต์เสียก่อน จึงจะนำไปพิจารณาให้ความช่วยเหลือ

“ยอดขายรถยนต์ที่ตกลงอย่างรุนแรงในปีนี้ เกิดจากวิกฤติการณ์ทางสาธารสุขทั่วโลกที่ส่งผลกระทบไปยังอุตสาหกรรมทุกภาคส่วน ไม่ใช่เฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์แต่เพียงอย่างเดียว ทางสมาคมฯ ยินดีที่จะเป็นส่วนร่วมในการให้ความคิดเห็น เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยไม่เบียดเบียนกัน และอยากให้ภาครัฐพิจารณาถึงข้อดีและข้อเสียของข้อเรียกร้องจากทางกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. ให้ถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้เป็นการซ้ำเติมผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอื่นในภาวะวิกฤตินี้” นายภิญโญ กล่าว

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า กรมฯ จะมีการหารือร่วมกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์ ในวันนี้ (28 พ.ค.) เวลา 14.30 น. เกี่ยวกับรายละเอียดข้อเสนอ ทั้งการลดอัตราจัดเก็บภาษีรถใหม่ 50% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ยอดขายรถใหม่ปีนี้ ลดลงอย่างมาก และอาจส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน

“ได้รับหนังสือร้องเรียนของสมาคมรถมือสองแล้ว ซึ่งในวันนี้ (28 พ.ค.2563) จะเชิญทั้งฝ่ายที่เสนอให้ลดภาษี และไม่ต้องการให้ลดภาษี มาประชุมร่วมกันครั้งเดียวกันเลยที่กรมสรรพสามิต ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไร พรุ่งนี้จะมีการแถลงอีกครั้ง ซึ่งกรมสรรพสามิตต้องรับฟังความเห็นทุกฝ่าย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน