ลุยล้างแก๊งลักรถทหารขายทอดตลาดกว่าพันคัน เจ้ากรมขส.ทบ. ร่วม อธิบดีขบ. และรองอธิบดีดีเอสไอ แถลงเพิกถอนการจดทะเบียนรถเก่าจาก ขส.ทบ. 605 คัน จาก 1,136 คัน พบตัวการใหญ่เป็นนายทหารยศพันเอกลูกหม้อขส.ทบ.ปลอมลายเซ็นเจ้ากรม ใช้เอกสารเท็จกระจายขายและจดทะเบียนไปตามจังหวัดต่างๆ แฉเหตุพบยอดตัวเลขรถใช้แล้วถูกขายทอดตลาดสูงผิดปกติ จากเดิมแค่ปีละครั้งไม่เกิน 100 คันเท่านั้น

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก พล.ต.สมศักดิ์ ทรัพย์อนันต์ เจ้ากรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) และ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดี ดีเอสไอ ร่วมกันเปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับการกวาดล้างขบวนการมิจฉาชีพที่แอบอ้างยื่นเอกสารเท็จรถประมูลขายทอดตลาดของ ขส.ทบ.

นายสนิทกล่าวว่า ขบ. สั่งเพิกถอนการจดทะเบียนรถจาก ขส.ทบ. 605 คัน จากทั้งหมด 1,136 คัน หลัง ขส.ทบ.ตรวจพบว่าใช้เอกสารบัญชีรถปลอมแจ้งประมูลขายทอดตลาดรถ โดยมีกลุ่มบุคคลจัดทำขึ้นมาและไม่มีการประมูลรถเพื่อขายทอดตลาดแต่อย่างใด โดยรถกระจายไปจดทะเบียนใน 15 จังหวัด แบ่งเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน 289 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน 22 คัน รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล 265 คัน รถบรรทุกส่วนบุคคลขนาดใหญ่ 19 คัน รถโดยสารประจำทาง 2 คัน รถโดยสารไม่ประจำทาง 7 คัน และรถโดยสารส่วนบุคคล 1 คัน

เบื้องต้นแจ้งไปยังผู้ที่ครอบครองทุกคันให้ทราบเกี่ยวกับการเพิกถอนทะเบียนแล้ว พร้อมให้สำนักงานขนส่งจังหวัด แนะนำให้เจ้าของรถที่ซื้อรถโดยสุจริตฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับผู้ที่นำรถมาจำหน่ายในข้อหาฉ้อโกงด้วย

นายสนิทกล่าวว่า ล่าสุดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อติดตามขยายผลไปยังเจ้าหน้าที่ ขบ. ที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย หากพบว่ากระทำผิดอาจถูกลงโทษถึงขั้นไล่ออกจากราชการ ส่วนรถที่เหลืออีก 531 คัน ยังไม่มีการยื่นเอกสารขอจดทะเบียนมาที่ ขบ. จะสืบหาแหล่งที่มาและกลุ่มมิจฉาชีพที่ร่วมขบวนการต่อไป

“ขบ.แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ยื่นเอกสารเท็จด้วย โดยรถที่ถูกเพิกถอนทะเบียนส่วนใหญ่จะอยู่ที่ จ.ตาก รองลงมาเป็นชลบุรี อ่างทอง กรุงเทพฯ และนครปฐม ขณะนี้เรากำลังขยายผลไปยังเครือข่ายในพื้นที่อื่นๆ อีก” อธิบดี ขบ. กล่าว

ด้านพล.ต.สมศักดิ์กล่าวว่า ช่วงปลายปี 2559 ตรวจสอบพบพิรุธการยื่นเอกสารการประมูลรถขายทอดตลาดของ ขส.ทบ.ในช่วงปลายปี 2558 เป็นจำนวนมาก โดยยื่นเอกสารส่งบัญชีรถแจ้งการประมูลขายทอดตลาดที่ลงนามโดยเจ้าหน้าที่ของ ขส.ทบ. ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวเพียงคนเดียวทั้ง 9 ฉบับ คือ พ.อ.ภพกฤต พันธ์ยศ และตรวจสอบพบว่าเป็นการทำเอกสารปลอมขึ้นมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทะเบียน หรือหมายเลขรถต่างๆ จึงแจ้งให้ขบ.ทราบ และดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ดังกล่าว โดยปัจจุบันได้เสนอรมว.กลาโหมปลดออกจากราชการแล้ว

“รถยนต์ที่ใช้งานแล้วของ ขส.ทบ. จะมีทั้งการขายทอดตลาด แลกเปลี่ยน และทำลาย แต่ภายหลังมีการแลกเปลี่ยนและขายมากกว่า โดยผู้ที่มีอำนาจลงนามคือเจ้ากรมขส.ทบ. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของกลุ่มมิจฉาชีพ ที่ไม่มีอำนาจลงนามและทำเอกสารปลอมขึ้นมาแล้วดำเนินการเอง และการตรวจสอบพบในครั้งนี้ เพราะมีการดำเนินการหลายครั้ง มีตัวเลขรถที่ขายทอดตลาดจำนวนมาก เนื่องจากปกติจะอยู่ที่ประมาณ 100 คัน และจะดำเนินการปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ขส.ทบ. จึงได้ตรวจสอบจนพบความผิดปกติดังกล่าว” เจ้ากรม ขส.ทบ. กล่าว

ส่วนพ.ต.อ.ทรงศักดิ์กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการใช้เอกสารปลอม โดยหลักการยัง ไม่ถือเป็นคดีพิเศษ เพราะเข้าข่ายเป็นคดีอาญาทั่วไป แต่ต้องตรวจสอบก่อนว่าจะมีการเชื่อมโยงอย่างไรบ้าง เบื้องต้นพบว่าเป็นกลุ่มไม่ใหญ่คือมีเจ้าหน้าที่ของ ขส.ทบ. 1 คน ร่วมกับคนนอก และข้าราชการภายนอก ขส.ทบ.จำนวนหนึ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน