“เจ้เล้ง – อารียฉัตร อภิสิทธิ์อมรกุล” เจ้าของเจ้เล้ง ดอนเมือง อาณาจักรสินค้าจากต่างประเทศที่ใครๆ รู้จักดี ชีวิตของเจ้เล้ง หลายคนรู้จักในแง่มุมของนักธุรกิจหญิง ผู้ครองอาณาจักรนับหมื่นล้าน

 

ล่าสุด เจ้เล้ง เปิดใจพิเศษกับ “ข่าวสดออนไลน์” ถึงชีวิตแต่งงานที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน หลังตัดสินใจหย่าขาดกับสามี ซึ่งแต่งงานตั้งแต่อายุ 27 ปี โดยเจ้เล้ง เล่าทั้งน้ำตาถึงชีวิตแต่งงาน ว่า ตั้งแต่แต่งงานได้ 2 สัปดาห์ สามีก็บอกว่า จะต่างคนต่างเก็บเงิน นับตั้งแต่วันนั้นก็แยกกันเก็บเงินเป็นต้นมา โดยดิฉันนั้นเริ่มทำมาค้าขายและมีหัวทางธุรกิจ มีเงินมีทองมาตั้งแต่สาวๆ ส่วนสามีทำงานบริษัทแต่เปลี่ยนงานบ่อยจนไม่ได้ทำงาน จึงให้มาทำงานที่ร้าน ซึ่งดิฉันชอบทำมาค้าขาย ชอบขายของ และส่วนใหญ่จะขายเองคนเดียวกับลูกน้อง วันหยุดไม่เคยได้หยุด ดิฉันเป็นคนบ้าขายของดีใจที่ได้เงิน แต่ไม่เคยได้เก็บเงิน เพราะสามีเป็นคนเก็บ และเคยทะเลาะกันเรื่องการแบ่งเงินในบัญชีไปบัญชีอื่น แต่ก็ให้สามีเก็บเงินมาตลอด 33 ปี ซึ่งภายหลังมีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล และยังพบว่า เงินกำไรที่ได้จากการขายของแทบไม่เหลือ โดยพบว่าสามีเตรียมหย่ามา 10 ปีแล้ว

คลิปตอนที่ 1

 

“ปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นมายาวนาน แต่ดิฉันไม่เคยพูดให้ใครฟัง ทุกครั้งที่มีเรื่องกัน สามีจะชอบไประบายให้ทนายฟัง และจะชอบไปหาญาติที่สงขลา และยุให้เลิกกัน โดยมีการหาทนายมาฟ้องหย่าให้ หลังจากไปอยู่สงขลา ดิฉันให้เงินเดือน 5.5 แสนอยู่ทุกเดือน เมื่อครบปีก็มีการฟ้องร้างขึ้น เรียกดิฉันไปหานักการเมืองคนหนึ่งเป็นคนเจรจา ว่า แฟนไม่เอาเจ้ แต่อยากได้เงิน 600 ล้าน ที่ดินอีกส่วนหนึ่ง ถ้าเจ้ไม่ให้ เจ้จะไม่เหลืออะไร ซึ่งดิฉันก็งงว่า ฉันทำอะไร ฉันไม่ได้ดอกทอง ไม่เที่ยวกินเหล้า บ้าแต่ทำงาน จึงโดนขู่ว่าจะโดน มาตรา 44 ฉันก็ไม่กลัว เพราะฉันทำมาหากินมาทุกอย่าง ซึ่งนักการเมืองคนนั้นจะคุมเรื่องฟ้อง มีการส่งนายตำรวจผู้ใหญ่ มาคุ้มกันเวลามาศาล มีการขู่อยู่เรื่อยว่า จะแถลงข่าวประจาน ฉันแต่งงานมา 40 ปี ไม่เคยให้ผัวเลี้ยง ฉันอายตรงไหน ชีวิตอยู่คนเดียว มีคนอยากเอาเยอะแยะแต่ฉันไม่เอา”เจ้เล้ง กล่าว

 

เจ้เล้ง เปิดเผยอีกว่า ข้อที่มีการฟ้องหย่าร้าง คือ 1.ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ได้นอนด้วยกันมา 5 ปี แต่จริงๆ ไม่ได้นอนกันมา 10 ปี แต่ดิฉันก็ไม่เคยร่านหาใคร ทำงานมาตลอด 2.ไม่เคารพบุพการี ซึ่งตนช่วยรักษาคุณแม่ มีหมอพยาบาลมาเป็นพยานได้ 3.ยักยอกทรัพย์สมบัติให้ลูกหลาน ซึ่งไม่จริง เพราะทุกอย่างที่ให้หลาน มีการบอกหมดทุกอย่างว่าให้อะไร มีลายมือชื่อเขาเซ็นต์รับทราบตลอด ซึ่งให้สู้ในชั้นศาล ยังไงก็สู้คดีไม่แพ้ เพราะตนไม่ได้ผิด ดิฉันอยู่บ้าน เขาเป็นคนออกจากบ้าน ส่งเงินเดือนให้ทุกเดือน 5.5 แสนบาท

คลิปตอนที่ 2

 

“จริงๆสู้กัน ดิฉันชนะ แต่ไม่ขอชนะเพราะแต่ดิฉันกลัว จะต้องรับเขามาอยู่ด้วยอีก ไม่อยากให้มาอยู่ด้วยกันอีก ตอนแรกพยายามอดทนทุกอย่าง คิดว่าแก่ๆแล้วจะดีขึ้น พยายามทำทุกอย่างแล้ว เมื่อถึงศาลสุดท้าย ดิฉันกลัวดิฉันชนะ ระหว่างที่เขาไม่อยู่บ้าน 1 ปี ทุกอย่างมันเบา มันโล่ง จึงให้เงินสดไป 300 ล้าน และทรัพย์สินส่วนหนึ่งรวมเป็น 700 ล้านบาท ตอนนี้อยู่แบบโล่ง หายใจได้เต็มปอด พนักงานในบ้าน ลูกหลานมีความสุข เพื่อนฝูงกลับมาหาอีก ทุกอย่างมันมีความโล่งไปหมด “เจ้เล้ง กล่าว

 

ทั้งนี้ เจ้เล้ง กล่าวตอนท้ายว่า พอสละโสดงวดนี้ คิดว่ามาเลยร้านเจ้เล้ง วันที่ 1-10 ก.ย. จะมีโปรโมชั่นทั้งลด ทั้งแจก แจกให้เขาไป 700 ล้านแล้ว ทำไมจะแจกให้ลูกค้าบ้างไม่ได้ ขอบคุณที่มาฟังเรื่องชีวิตน้ำเน่า เล่าทีไรคนแก่อายุ 70 ปี ก็นั่งร้องไห้ให้ความโง่ของตัวเอง เจ็บใจ ไม่ได้เสียดาย ดีใจที่หลุดออกไป ดวงตาของเรามีความสว่างอยู่ครึ่งเดียว อีกครึ่งมีแต่ความเศร้า ไม่เคยหัวเราะได้ดังๆ ที่น้ำตาไหลไม่เสียดายของแต่เพราะเสียดายเวลา เพราะเงินไม่เกิน 3 ปี ก็หาคืนได้

 

ทีมข่าวเฉพาะกิจรายงาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน