แม่น้องนิ่ม แฉพิรุธ ผู้กองบอย ก่อนรับสิ้น เคยตบลูกจนสลบ-ขู่จะฆ่า อัยการชี้หากไม่ตั้งใจต้องสำนึก กราบแม่ยายขอขมา

จากกรณี “นางสาวพิมชฎาพร ภูแย้มไสย์” หรือ “ปูนิ่ม” เสียชีวิตภายในบ้านย่านลาดพร้าว มีร่องรอยถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะด้านซ้าย 1 นัด ซึ่งผู้ตายเป็นภรรยาของ “ผู้กองบอย ร.ต.อ. ทรงกลด บุญส่ง” รองสารวัตร สืบสวน สน. วังทองหลาง และเคยเป็นรองสารวัตรสืบสวน สน.ลาดพร้าว ด้านญาติติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากผู้ตายถนัดมือขวา ต่อมาร.ต.อ.ทรงกลด เปิดปากสารภาพว่าเป็นคนฆ่าน้องปูนิ่มเอง แต่เป็นอุบัติเหตุจากความผิดพลาด

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

รายการโหนกระแสวันที่ 23 มิ.ย. “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 เปิดใจสัมภาษณ์ “ทองไสย์ ภูคงน้ำ” หรือ “แม่เตี้ย” แม่ผู้เสียชีวิต มาพร้อมกับ “สมัย ภูคงน้ำ” น้าผู้ตาย รวมทั้ง “อ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม” อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญาธนบุรี ที่มาร่วมพูดคุยกันในรายการ

ปูนิ่มรู้จักแฟนได้ยังไง?
แม่ : “เจอทางเฟซบุ๊ก ไม่เคยเจอรองสารวัตร แต่เคยคุย เขาคบกัน 3 ปีแล้ว”

เขามีลูกด้วยกัน ลุกอายุเท่าไหร่?
แม่ : “2 ขวบค่ะ”

วันนี้อยู่กับใคร?
แม่ : “อยู่กับแม่นม ฝั่งฝ่ายชาย”

ตัวฝั่งรองสารวัตร เขามีภรรยามาก่อน แม่ทราบมั้ย?
แม่ : “ไม่เคยรู้เลย เขาไม่เคยเล่าให้ฟัง”

น้ารู้มั้ย?
น้า : “ไม่ทราบ เป็นเรื่องสวนตัว หลานสาวคุยกับคุณแม่มากกว่า ก็เลยไม่ทราบเรื่องนี้”

วันเกิดเหตุทราบเรื่องนี้ได้ยังไง ?
แม่ : “ตร.บอกว่าลูกสาวเสียชีวิต บอกว่าลูกยิงตัวตาย”

ครั้งแรกบอกปูนิ่มยิงตัวตาย ตอนนั้นแม่เชื่อมั้ย?
แม่ : “แม่ไม่เชื่อตั้งแต่ทีแรก คิดว่าทะเลาะเบาะแว้ง เพราะลูกสาวเคยเล่าให้ฟังว่าเขาเคยเอาปืนมายิง”

แม่เคยบอกน้ามั้ย ว่าตร.คนนี้เคยเอาปืนจ่อ?
น้า : “ไม่ทราบเลย เพิ่งรู้ตอนตร.สน.ลาดพร้าวโทรไป”

ใครบอกว่าตร.เคยเอาปืนจ่อ?
แม่ : “ลูกสาวค่ะ เขาบอกว่าโดนแฟนเอาปืนจ่อหัว ก็ทะเลาะเบาะแว้งกันนี่แหละ”

แม่รู้มั้ยเขามีเรื่องอะไรกัน?
แม่ : “เรื่องที่ไม่เข้าใจกันนี่แหละ ตร.คนนี้ไม่อยากให้ปูนิ่มเอาลูกกลับกาฬสินธิ์ เพราะมีเรื่องทะเลาะกัน นิ่มอยากเอาลูกกลับไป แต่ตร.ไม่ยอม เขาก็ทะเลาะกันเรื่อยๆ เคยตบจนสลบ ลูกสาวเล่าสู่กันฟัง”

เหตุการณ์เดียวกับที่เคยเอาปืนจ่อหรือคนละเหตุการณ์?
แม่ : “คนละเหตุการณ์”

นี่เป็นเหตุผลที่แม่ไม่เชื่อเลยว่าลูกยิงตัวตาย ?
แม่ : “ใช่จ๊ะ แม่ไม่เชื่อ”

ปกติถนัดมือไหน ?
แม่ : “ถนัดมือขวา การใช้ปืนลูกสาวก็ไม่รู้ว่าใช้ยังไง แม่ไม่เชื่อ”

หลังจากนั้น แม่ได้มีโอกาสคุยกับตร.รายนั้นมั้ย?
แม่ : “ไม่เคยคุยค่ะ คุยแค่ตอนตบนี่แหละ คุยว่าไปตบไปตีทำไม ทำไมไม่คุยดีๆ เขาก็บอกว่ามันจะเอาลูกกลับบ้าน ผมไม่ให้มันกลับ ถ้ามันกลับผมเอามันตาย จะฆ่าให้ตาย เขาบอกว่าเขาติดคุกก็ออกมาได้

ข่าวบอกว่าตร. นายนี้บอกว่าถ้าเอากลับไปจะฆ่ายกครัว?
แม่ : “จ๊ะ ลูกสาวก็เคยบอกให้ฟัง”

วันที่น้องเสียชีวิต แม่ได้มีโอกาสคุยกับตร.นายนี้มั้ย?
แม่ : “ไม่ได้คุยค่ะ”

วันที่เข้าไปดูสถานที่เกิดเหตุ แม่ก็เจอเขาด้วย เขาทำยังไง?
แม่ : “เขามีพิรุธ มองหน้ามองหลัง เหมือนคิดมาก”

ตร.นายนี้บอกว่าเขาเองไปข้างนอก หลังจากนั้นกลับเข้ามาตี 1 ขึ้นไปบนห้อง ภรรยางอน แล้วเดินไปนอนอีกห้อง เขาก็เดินไปตาม ไปง้อ เดินจูงมือมานอนที่ห้อง แต่ภรรยาไม่ยอม เขาหลับไป แล้วได้ยินเสียงปืน ภรรยายิงตัวเองเสียชีวิต แล้วต่อเนื่องว่าไปพบเขม่าที่มือ เขาก็สารภาพว่าเขาเองนั่นแหละเป็นคนก่อเหตุ นั่งดื่มเหล้าแล้วไปขอมีอะไรกับภรรยา ภรรยาไม่ยอม ก็เลยทะเลาะกัน ภรรยาเดินลงมาข้างล่าง เขาเดินเอาปืนมาจ่อ แล้วปืนลั่น?

ปรเมศวร์ : “ถ้าแย่งกัน มือภรรยาก็ต้องมีเขม่า ผมคิดว่าข้อเท็จจริงก็คงชัด แต่การที่เขาพูดครั้งที่หนึ่ง สอง ไม่ตรงกันมันเป็นพิรุธ ถามว่าจะได้ประโยชน์จากการให้การแบบนี้มั้ย ข้อเท็จจริงมันเป็นแบบนี้ มันคล้ายๆ กับจำนนกับพยานหลักฐานบางส่วน ถึงเปลี่ยนคำให้การว่าตัวเองถือปืน”

ผลการตรวจ พบเขม่าดินปืนอยู่ที่มือขวาทั้งคู่?
ปรเมศวร์ : “ก็จบไปหนึ่งตอนว่าเขาถือปืน ภรรยาอาจปัดปืน แต่ไม่รู้ปืนลูกโม่หรือออโตเมติก ถ้าออโตเมติกโอกาสลั่นยาก มันต้องกระชากลูกเลื่อนแล้วจ่อ แต่ถ้าปืนลูกโม่มันเหนี่ยวได้เลย ผมเชื่อว่าพนักงานสอบสวนเขาต้องพิสูจน์ชัดว่าข้อเท็จจริงเป็นเจตนาหรือประมาท เพราะอัตราโทษต่างกันมาก ประมาทแค่ 10 ปี ส่วนเจตนาฆ่ามีตั้งแต่ประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต จำคุก 20 ปี แต่ถ้ารับสารภาพได้รับการลดอีก ผมว่ามูลเหตุจูงใจและพฤติการณ์ ไม่ได้อยู่ที่คนตายพูดไม่ได้ ศพจะบอกได้ว่าควรเกิดขึ้นอย่างไร เดี๋ยวนี้โทรทัศน์บ้านเราเก่ง จำลองภาพให้เกิดตามคำบอกเล่า พอทำภาพแล้วเป็นไปได้มั้ย วันนี้ไม่ยิงตัวตายแน่นอน เหลือประมาทหรือเจตนา แต่ตร.เขาพิสูจน์ได้ ที่สำคัญที่คุณแม่เล่าให้ฟังเป็นพฤติกรรมอย่างหนึ่งของตัวเขา จะฆ่าๆ”

เขาตบสลบก็มี เอาปืนมาจ่อหัวแล้วครั้งนึงก็มี?
ปรเมศวร์ : “คุณแม่แม้ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่เป็นพยานบอกเล่าชั้นดี ว่าเขามีพฤติกรรมอย่างนี้ เคยกระทำอย่างนี้”

แม่ : “โมโหร้าย กินเหล้า ลูกสาวมีอะไรก็เล่าให้แม่ฟัง”

ลูกสาวบอกเสมอคนฆ่าตัวตายใช้ไม่ได้?
แม่ : “ใช่จ๊ะ”

อาจเป็นวิธีการต่อสู้ตร.นายนี้หรือเปล่า ปืนลั่นโทษเบากว่าเจตนายิง?
ปรเมศวร์ : “ใช่ คดีประเภทสามียิงภรรยา หรือเป็นแฟนกันแล้วยิงกัน ปีที่แล้วก็มีดาบตร.ที่เชียงใหม่ ก็สู้กันแบบนี้ว่าปืนลั่น แต่พอดูข้อเท็จจริงมันไม่ใช่ ถ้าเราฟ้อง อัยการฟ้องว่าเจตนาฆ่า แต่ถ้าเขาสู้ว่าเป็นประมาท ศาลก็ลงเป็นประมาทได้ ต้องบอกพนักงานสืบสวนให้เอาให้ชัด ว่าเป็นเจตนาหรือประมาท ผมเชื่อว่าวิทยาการตร. กองพิสูจน์หลักฐานเขาชัดเจนอยู่แล้ว ร่องรอยเขม่า มีคดีที่เถียงกันอยู่เรื่องเดียวที่เป็นประวัติศาสตร์ คือคดีคุณห้างทอง ธรรมวัฒนะ ฆ่าตัวตายหรือยิงตัวตาย ข้อพิสูจน์ไม่ชัดเจน แต่หลังจากนั้นมาข้อพิสูจน์แต่ละคดีมันชัดขึ้น”

ผู้กองบอยเขามาขอโทษคุณแม่หรือสำนึกผิดอะไรมั้ย?
แม่ : “ไม่เลยค่ะ ไม่ติดต่อมาด้วย ติดต่อมาแต่ตร.”

อาจารย์พูดเรื่องเขม่าดินปืน จากข่าวที่ได้มา มีเขม่าดินปืนที่มือขวาผู้หญิงด้วย และเจอเขม่าดินปืนที่มือขวาผู้ชายด้วย?
ปรเมศวร์ : “แสดงว่าผู้ชายถือมือขวาเข้าขมับซ้าย ไม่รู้เฉียงทิศทางไหน อาจจะเฉียงหลังหรือหน้า ต้องไปดูว่าทะลุหรือเปล่าหรือมันขึ้น มีรูเข้าต้องมีรูออก เฉียงอาจไปข้างหลัง ถ้าเขาใช้มือขวา ยิงจ่อขวา คนใช้มือขวาปัดจะปัดยังไง มือขวาอาจยกขึ้นมาบังหรือเปล่า เพราะเขม่าก็เกาะได้ มันอาจกระจายได้ บางทีบาดแผลอาจมีเขม่าก็ได้ถ้ายิงระยะใกล้ แต่เชื่อว่าพิสูจน์หลักฐานคงชัด ใช้มือขวาปัดขณะที่ยิงข้างซ้ายน่าจะยาก ถ้าแย่งถามว่าจะแย่งมือเดียวหรือสองมือ โดยหลักการ ตรรกะมันยาก ถ้าลงแสดงว่าเขาอยู่ข้างบน”

85 องศาเฉียงลง แสดงว่าผู้หญิงนั่งอยู่?
ปรเมศวร์ : “ศาลฟังพยานหลักฐาน ลักษณะบาดแผลเฉียงลงล่างแสดงว่าอยู่ข้างบน ถ้า 85 ลงคืออยู่ต่ำ ไอ้นั่นก็ต้องยืน ตัดประเด็นเรื่องฆ่าตัวตายทิ้ง ปัญหาอยู่ที่ว่าแย่งหรือไม่แย่ง หรือเจตนา”

สันนิษฐานว่าปูนิ่มนอนอยู่บนโซฟา แล้วยิงเฉียงลง?
ปรเมศวร์ : “ไม่รู้นั่งหรือนอน แต่ขณะที่เฉียงลง ตื่นหรือหลับ เพราะตัวผู้ต้องหาเขาบอกเขาเมา น้องถ้านอนอยู่ตื่นหรือหลับ ถ้าฟังว่าหลับก็จบอีกเหมือนกัน ไม่ได้แย่ง แค่ข้างนี้ก็ลำบากแล้ว”

กรณีแรกเลย ทางผู้กองบอยบอกว่าน้องยิงเอง ฆ่าตัวตาย อันนี้ถือว่าพลาดมั้ย?
ปรเมศวร์ : “อันนี้พลาดแล้ว ตอนนั้นคิดไม่ทัน”

เขาบอกเขาตกใจ?
ปรเมศวร์ : “โอ้โห ร้อยตร.เอก สติไม่มีขนาดนี้ ไม่มีทางหรอก ไม่ได้ตกใจ แก้ตัวไม่ทัน คิดไม่ทัน ผมว่าไม่แน่ใจว่านอนหลับหรือเปล่า เป็นแบบนี้มากกว่าหรือเปล่า อาจไม่ได้ปัดด้วยซ้ำไป”

ตัวจำเลยเองโกหกครั้งแรก ว่าผู้หญิงฆ่าตัวตาย หลังจากนั้นจำนนต่อหลักฐาน?
ปรเมศวร์ : “ศาลฟังทุกประเด็น เอามาประกอบหมด แม้แต่ประเด็นที่แม่พูดว่าลูกเคยมาเล่า จะยิงบ้าง ตบบ้าง มันก็แสดงพฤติกรรมของเขาแล้ว สองมาทำแบบนี้ มาพูดอย่างนี้แล้วมาบอกทีหลังว่าไม่ใช่ ที่ผมบอกว่าเป็นการจำนนต่อหลักฐาน ที่คุณหนุ่มถาม คนถ้ากระทำผิดจะเกิดการสำนึกที่ว่าเจอแม่ยาย ถ้าไม่ได้ตั้งใจจริง ผมว่ากราบแล้วนะ เห็นมั้ยผู้ต้องหาไปยิงเขา ต่อมาตร.จับได้ ก็มากราบบิดามารดรซะก่อน นั่นคือการสำนึก แต่กรณีนี้มันมองไม่ชัด”

ตร.ไม่ได้คัดค้านการประกันตัว ครอบครัวกลัวไม่ปลอดภัย?
ปรเมศวร์ : “คุณแม่ยื่นคัดค้านได้ บอกว่าเกรงเสียรูปคดี ศาลจะเป็นคนพิจารณาว่าจะให้หรือไม่ให้ ไม่แน่ศาลอาจไม่ให้ก็ได้ เพราะเขาให้การกลับไปกลับมา”

ทางนี้กลัวตร.ช่วยกันเอง?
ปรเมศวร์ : “อย่ากลัวเลย เดี๋ยวนี้ตร.ทำตรงไปตรงมา ใจเย็นๆ เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมเถอะ เดี๋ยวนี้ตร.ดีขึ้นเยอะ”

หลานเอากลับมาดูเองมั้ย?
แม่ : “ยังไม่ได้ตกลงกันค่ะ”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน