กรณีเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2559 ได้มีผู้พบทารกแรกเกิดถูกแม่ใจร้ายนำไปฝังดิน โดยเด็กถูกทำร้ายพบบาดแผลตามร่างกายถูกของมีคมแทงตามลำตัวจำนวน 14 แผล ฝังในป่ายูคากลางทุ่งนาของพื้นที่บ้านโนนสวรรค์ ต.คอนฉิม อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น ส่วนผู้ที่พบ คือ นางขจิต ครองยุทธ์ อายุ 53 ปี ได้ต้อนวัวไปเลี้ยงผ่านมาพบจึงได้ช่วยเหลือ นำส่ง รพ.ขอนแก่น แพทย์สามารถช่วยเหลือจนรอดชีวิตมาได้ ที่อาคาร 11 หอผู้ป่วยทารกแรกเกิดระยะวิกฤติ 1
โดย น.พ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผอ.รพ.ขอนแก่น พร้อมคณะแพทย์ ได้ช่วยเหลือจนเด็กทารกปลอดภัย ซึ่งมีอายุประมาณ 1 – 2 วัน เพศชาย ผิวขาวผิวพรรณดี ความยาว 50 ซม. น้ำหนัก 2,750 กรัม มีบาดแผลถูกของมีคมแทงตามลำตัวจำนวน 14 แผล และมีการตั้งชื่อให้ว่า “น้องไอดิน” ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว น.ส.สุดา ทองดี หรือมล อายุ 42 ปี มาสอบสวนและยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ทำร้ายลูกตัวเอง เหตุคลอดจากการแท้งขณะทำงานตัดไม้ที่ทุ่งนาใกล้จุดฝังทารก ประกอบกับคิดว่าตนคงไม่สามารถเลี้ยงดูลูกที่เพิ่งคลอดออกมาได้อีก เพราะมีลูกชายอยู่แล้ว 3 คน เนื่องจากฐานะที่ยากจน ปัจจุบันเด็กยังอยู่ที่สถานสงเคราะห์เด็กบ้านแคนทอง
ภาพขณะรักษาตัวในโรงพยาบาล
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 ต.ค. ผู้สื่อข่าวขอนแก่น ได้ไปที่อาคารพวงชมพู สถานสงเคราะห์เด็กบ้านแคนทอง ถ.กสิกรทุ่งสร้าง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นสถานที่ดูแลและเลี้ยงดู “น้องไอดิน” และทราบว่าได้มีชาวต่างประเทศมาขอรับ “น้องไอดิน” ไปเป็นบุตรบุญธรรม โดยได้เข้าพบกับ นายศุภชัย ปทุมชาติ ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์เด็กบ้านแคนทอง จ.ขอนแก่น กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
นายศุภชัย เปิดเผยว่า “น้องไอดิน” ที่มาอยู่ที่บ้านแคนทองได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี ทำให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์สมวัยเด็กอายุ 7 เดือน 17 วัน ซึ่งได้รักษาดูแลสุขภาพกับแพทย์ รพ.ขอนแก่น ตามที่นัดหมายมาโดยตลอด บาดแผลที่ถูกของแหลมคมทิ่มแทงหายเป็นปกติทุกอย่าง ปัจจุบันได้มีชาวต่างชาติจำนวนมากได้ยื่นผ่านกรมกิจการเด็กและเยาวชนเพื่อขอรับเด็กไทยไปเป็นบุตรบุญธรรม เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมาได้พิจารณาคุณสมบัติของชาวต่างชาติที่ต้องการรับน้องไอดินไปเป็นบุตรบุญธรรม โดยคณะกรรมการได้พิจารณาอย่างถ่องแท้ มีมติเห็นสมควรให้ครอบครัวหนึ่งเป็นชาวสวีเดนเป็นพ่อแม่บุญธรรมของ “น้องไอดิน” เพราะรายได้ของพ่อบุญธรรมมีรายได้มากกว่า 2 แสนกว่าบาท และเป็นครอบครัวที่มีอายุ 33 กับ 34 ปี อยู่ในประเทศสวีเดน มีการงานที่ดีหลักฐานชีวิตมั่นคง
โดยทางกรมฯ ได้ให้พ่อบุญธรรมแม่บุญธรรมได้เลี้ยงดูจนครบ 6 เดือนไปก่อน หลังจากนั้นจะพิจาณาอีกครั้งว่า “น้องไอดิน” อยู่กับพ่อแม่บุญธรรมชาวสวีเดนได้หรือไม่ ถ้าไม่มีปัญหาก็จะอยู่ตลอดไปโดยจะใช้ชื่อจริงตามที่แม่บังเกิดเกล้าตั้งให้ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเล่นจากน้องไอดินเป็น “น้องอะตอม” ประมาณเดือนธันวาคม 2559 ครอบครัวชาวสวีเดนจะเดินทางมาที่ประเทศไทย และมาที่ จ.ขอนแก่น เพื่อมาขอรับ “น้องไอดิน” ไปเลี้ยงดูอย่างถูกต้องตามกฎหมายของประเทศไทยต่อไป ถือเป็นวาสนาครั้งใหญ่ที่เด็กน้อยผู้เคยมีบาดแผลฉกรรจ์จะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่.
