จับแล้ว “ปุ้มปุ้ย” หนุ่มหื่นบุกข่มขืนเจ้าหน้าที่สาวในโรงพยาบาล ตร.หนองคายประสานตม. บุกจับได้ที่ฝั่งลาว หลังขโมยสกู๊ตเตอร์พายข้ามแม่น้ำโขง ตร. คุมตัวสอบเครียดแจ้งข้อหา เผยประวัติชอบอาศัยอยู่ที่วัดศรีบุญเรือง ชอบดื่มเหล้าขาว เมาอาละวาด เคยขโมยเงินวัด และไถเงินคนแก่ที่มาออกกำลังกาย เมื่อไม่ได้ก็ทำร้ายจนตายแล้วหลบหนีไปฝั่งลาว ก่อนกลับเข้าประเทศ ถูกตร.จับเข้าเรือนจำไม่ถึง 4 เดือนก็ปล่อยตัวออกมา ระบุมีอาการทางจิต จนกระทั่งพ.ค. 60 ก่อเหตุข่มขืนหญิงที่ออกหาปูตามทุ่งนา ก่อนมาก่อเหตุซ้ำกับจนท.โรงพยาบาล

กรณีนายปุ้มปุ้ย เกษานุช อายุ 24 ปี ชาวหนองคาย ใช้มีดบังคับข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย ข่มขืน น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้ช่วยเหลือคนไข้ ที่ซอกตึกหลังอาคารสำนักงานซักฟอก ด้านหลังร.พ.หนองคาย เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจ สภ.เมืองหนองคายขออนุมัติศาลจังหวัดหนองคาย ออกหมายจับข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญ ด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดย ผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ เบื้องต้นทราบว่าหลบหนีข้ามโขงไปยังประเทศ ลาว และพบว่านายปุ้มปุ้ยมีคดีติดตัวมากมาย

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 19 ก.ค. พ.ต.ท.อรรถศักดิ์ ศิริพานิช รองผกก.(ป.) สภ.เมืองหนองคาย นำเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบริมฝั่งแม่น้ำโขง หลังจากทราบว่านาย ปุ้มปุ้ยขโมยสกู๊ตเตอร์ที่ชมรมสกู๊ตเตอร์จอดไว้ที่ท่าน้ำวัดศรีบุญเรือง พร้อมสอบถามนายนิพนธ์ พลวิเศษ เจ้าของสกู๊ตเตอร์และผู้ดูแลของชมรมสกู๊ตเตอร์ ทราบว่า ช่วงเช้าของวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา มีชาวประมงมาหา ถามว่ามีสกู๊ตเตอร์หายไปหรือไม่ เนื่องจากขณะที่ไปหาปลากลางแม่น้ำโขง เห็นสกู๊ตเตอร์จอดเกยฝั่งที่น้ำโขงฝั่งลาว จึงตรวจสอบพบว่าสกู๊ต เตอร์ 1 คัน และเสื้อชูชีพ 1 ตัว หายไปจริง จึงไปติดต่อรับกลับคืนมา มั่นใจว่าจะเป็นนายปุ้มปุ้ยขโมยไป เพราะปกตินายปุ้มปุ้ยจะชอบมานอนเล่นที่วัดศรีบุญเรืองแล้วเห็นพวกตนเล่นสกู๊ตเตอร์บ่อยครั้ง บางครั้งก็จะมานั่งตกปลาที่แพ พวกตนก็จะให้ช่วยเข็นเรือออกให้บางครั้งเพราะเป็นคนตัวใหญ่ แรงเยอะ คาดว่านายปุ้มปุ้ยจะแอบตัดเชือกที่มัดสกู๊ตเตอร์ออกแล้วสวมชูชีพใช้ไม้พายเรือ พายเรือข้ามแม่น้ำโขงไปหาพ่อที่ประเทศเพื่อนบ้าน

จากการสอบถามทราบว่านายปุ้มปุ้ยนั้น มีพ่อเป็นคนลาว แม่เป็นคนไทย พักอาศัยไม่เป็นหลักแหล่ง ชอบดื่มเหล้าขาว เวลาเมาก็จะหาเรื่องทะเลาะกับคนอื่น ขโมยเงินวัดไปใช้ เคยก่อเหตุขอเงินไปดื่มเหล้าจากผู้สูงอายุขณะออกกำลังกายตอนเช้า แต่ไม่ได้ จึงทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เมื่อปี 2555 แล้วหลบหนีไปฝั่งลาว

จากนั้นปี 2558 กลับมาหนองคาย ตำรวจตามจับตัวได้ ส่งเข้าเรือนจำหนองคายไม่ถึง 4 เดือน ก็ถูกปล่อยตัวออกมา โดยให้เหตุผลว่ามีอาการทางจิต จากนั้นเมื่อพ.ค.60 ก่อเหตุข่มขืนหญิงคนหนึ่งขณะไปหาเก็บปูตามทุ่งนา ล่าสุดก่อเหตุกับผู้ช่วยเหลือคนไข้

ด้านพล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผบก. ภ.จ.หนองคาย สั่งการให้ พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส ผกก.สภ.เมืองหนองคาย จัดกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย และประสานกับทางการลาว จากนั้น พ.ต.ต.สุริยา บุญสิทธิ์ สว.สว.บก.ภ.จ. หนองคาย พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย พ.ต.ต.ธีรพงศ์ ประจักษ์จิตร สว.ตม. นำกำลังจับกุมตัวที่ฝั่ง สปป.ลาว ซึ่งทางการลาวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พร้อมนำตัวกลับมายังฝั่งไทย โดยนายปุ้มปุ้ยสวมเสื้อยืด กางเกงลายขาสามส่วน ท่าทางอิดโรย สีหน้าเรียบเฉย และไม่ได้พูดจาใดๆ

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สอบถามเบื้องต้นพบว่า คนร้ายมารักษาที่โรงพยาบาลหลายครั้ง และเคยมีคดีมาก่อนหน้านี้ และถูกปล่อยตัวออกมา โดยในวันเกิดเหตุ คนร้ายเดินไปเดินมาอยู่ภายในพื้นที่โรงพยาบาลอย่างมีพิรุธ ซึ่งมีผู้พบเห็นและกังวลว่าจะไม่ปลอดภัย จึงแจ้งทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ให้พาตัวออกไปจากโรงพยาบาล แต่ทางคนร้ายวิ่งหนีไปได้ ซึ่งต่อมาตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าไปเจอกับเจ้าหน้าที่หญิงคนดังกล่าวและก่อเหตุขึ้น

นพ.เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า แม้ทางโรงพยาบาลจะมีระบบความปลอดภัย มีกล้องวงจรปิด แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็ได้กำชับให้ทางโรงพยาบาลช่วยเหลือ และดูแลเจ้าหน้าที่หญิงคนดังกล่าว โดยเฉพาะด้านจิตใจให้ดีที่สุด พร้อมทั้งทางกระทรวงกำชับไปยังโรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่งให้เข้มงวดและดูแลเรื่องความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันแต่ละแห่งก็มีการดูแลความปลอดภัยอยู่เช่นกันทั้งนี้ในส่วนของคนร้าย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งตามจับตัวอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นร.พ.หนองคาย ได้ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งมอบเงินช่วยเหลือ 1 แสนบาท และเข้าสู่กระบวนการเยียวยาจิตใจเจ้าหน้าที่ดังกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน