การบินไทย ระส่ำ เคลียร์เจ้าหนี้ยังไม่จบอีก 2 พันราย หวั่นกระทบแผนฟื้นฟู ลุ้นระทึก 17 ส.ค.ศาลนัดไต่สวนคำร้อง รับไม่รับแผนฟื้นฟู
รายงานข่าวจากบริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเจรจากับเจ้าหนี้ของบริษัทภายหลังได้เข้าขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางว่าปัจจุบันการบินไทยมีเจ้าหนี้จำนวนมากโดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเร่งเจรจากับเจ้าหนี้ให้ทุกรา เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับเจ้าหนี้ทุกรายรับทราบถึงความจำเป็นของบริษัทในการเข้าสู่ขบวนการฟื้นฟูกิจการ เพื่อให้เจ้าหนี้เกิดความมั่นใจและโหวตให้การสนับสนุนการฟื้นฟูกิจการของการบินไทย ก่อนที่ศาลล้มละลายกลาง จัดนัดไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการในวันที่ 17 ส.ค. นี้ เพื่อชี้ว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องของฟื้นฟูกิจการ
ทั้งนี้ ล่าสุดพบว่าแม้ว่าบริษัทจะพยายามเร่งเจรจากับเจ้าหนี้ แต่ก็ยังมีเจ้าหนี้อีกจำนวนมาก รวม 2,363 ราย ที่บริษัทยังไม่ได้เริ่มเปิดการเจรจาซึ่งเกรงว่าอาจจะกระทบต่อการฟื้นฟูกิจการของบริษัท โดยเจ้าหนี้กลุ่มที่บริษัทยังไม่ได้ดำเนินการเจรจารวม 2,363 ราย ประกอบด้วย
1.เจ้าหนี้ที่เป็นสถาบัน จำนวน 212 ราย ยังไม่ได้มีการเจรจา โดยมีกำหนดที่จะเริ่มเจรจาต้นเดือนส.ค. 63 นี้
2.เจ้าหนี้ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น แบ่งออกเป็นเจ้าหนี้สหกรณ์ จำนวน 29 ราย อยู่ระหว่างเร่งนัดพบเจรจาตามชุมนุมสหกรณ์จังหวัด โดยขณะนี้มีสหกรณ์ที่บริษัทได้เจรจาแล้วเสร็จ 86 ราย หรือ คิดเป็น75% จากจำนวนเจ้าหนี้สหกรณ์ รวมทั้งสิ้น 115 ราย และเจ้าหนี้ที่เป็นประชาชนทั่วไป จำนวน 2,122ราย ขณะนี้ยังไม่ได้มีการเจรจาเลย เบื้องต้นได้ให้พนักงานบริษัท ดำเนินการติดต่อรายบุคคลด้วยการออกจดหมายติดต่อผ่านธนาคารและผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์แล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับเจ้าหนี้ที่ทางบริษัทได้ดำเนินการเจรจาเสร็จทั้งหมดแล้วประกอบด้วย 1.เจ้าหนี้เครื่องบินจำนวนทั้งสิ้น 43 รายนั้น ได้เจรจาเสร็จเรียบร้อยแล้ว 2. เจ้าหนี้ธนาคารในประเทศและกระทรวงการคลัง จำนวน 18 ราย ได้เจรจาจบทั้งหมดแล้ว โดยขณะนี้การบินไทยอยู่ระหว่างการนัดหารือร่วมกับผู้บริหารระดับสูงอีกรอบ
นอกจากนี้ในส่วนของเจ้าหนี้ รอยัล ออร์คิด พลัส โปรแกรมสะสมไมล์เดินทางกับสายการบินพันธมิตร สตาร์ อัลไลแอนซ์ จำนวน 7 ราย นั้นบริษัทได้มีการขยายต่ออายุให้จนถึง ธ.ค.64 ส่วนเจ้าหนี้ตั๋วเครื่องเครื่องบินในปัจจุบันซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ซื้อตรง จำนวน 2,700 ล้านบาท, ซื้อผ่านเอเย่นต์ จำนวน 800 ล้านบาท และซื้อผ่านเอเย่นต์ใน IATA จำนวน 2,540 ล้านบาท ทั้งหมดอยู่ระหว่างเจรจา เบื้องต้นอาจะจ่ายเป็นบัตรกำนัลท่องเที่ยวมีอายุจนถึงสิ้นปี65
