สมาชิกเฟซบุ๊ก “Rachot Wangkahart” ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของตาคนหนึ่ง ซึ่งอ่านและสะเทือนใจ โดยระบุว่า ระหว่างทางกลับบ้านได้แวะเข้าห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมันที่ จ.ขอนแก่น จากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่ง ขี่รถจยย.เก่าๆ ไฟท้ายไม่มี เบาะหุ้มด้วยกระดาษ เข้ามาหา ครั้งแรกเจ้าตัวคิดว่าเป็นคนเมา
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
กระทั่งได้รับรู้จากตาคนดังกล่าว บ้านอยู่บุรีรัมย์ จะมางานศพหลานชายที่ขอนแก่น หลานจมน้ำเสียชีวิต ตอนแรกหลับอยู่แต่ยุงกัด พอตื่นขึ้นมาก็เห็นผู้โพสต์ จึงมาหาคิดว่าเป็นตำรวจ จะให้ช่วยหาที่นอนให้ ที่โรงพักหรือวัดก็ได้ เพราะไม่รู้ทาง
ซึ่งทราบว่าตาทราบข่าวว่าหลานชายวัย 15 ปี อยู่ที่ขอนแก่นจมน้ำเสียชีวิต จึงขี่รถจยย.มาจาก อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่ 5 โมงเช้า โดยไม่ได้บอกคนที่บ้าน และมีเงินติดตัวอยู่ 300 บาท ซึ่งระยะกว่า 300 กิโลเมตร มาถึงตอน 5 โมงเย็น
จากนั้นได้ขี่เข้าไปบ้านน้องสาว เพื่อไปเยี่ยมพ่อที่ป่วยเป็นโรคหอบหืดตามที่ตั้งใจไว้ เพราะไม่ได้เจอกันมา 3 ปีแล้ว และไม่รู้สถานที่จัดงานศพหลานด้วย พอเยี่ยมพ่อเสร็จก็ได้เจอน้องสาว แต่คำพูดแรกที่ได้ยินคือ “มาทำไม จะมาทวงเงินเหรอ” พอได้ยินแบบนั้นตาเหมือนฟ้าผ่าลงมากลางใจ ทำอะไรไม่ถูก
จึงเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ รีบขี่รถจยย.ออกมา ตั้งใจจะกลับบ้านที่บุรีรัมย์เลย แต่มืดแล้ว ไฟท้ายก็ไม่มี จึงมานอนที่ปั๊ม นอกจากนี้ตายังบอกอีกว่า “ตามาถึงที่แล้ว แต่ตาไปไม่ถึงหลาน” พร้อมกับน้ำตาไหล ซึ่งตาได้เก็บเสื้อผ้ามา ตั้งใจจะมาช่วยงานแล้วค่อยกลับ แต่ไม่คิดว่าจะต้องมานอนปั๊มแบบนี้
จากนั้นผู้โพสต์ก็ได้เสนอที่จะช่วยเหลือเปิดห้องพักให้ แต่ตาปฎิเสธ พร้อมบอกว่าไม่เป็นไร แค่อยากหาคนคุยด้วย พร้อมกับควักเงินเหรียญออกมา เหลือ 40 บาท เพราะเติมน้ำมันและกินข้าวไปหมดแล้ว หลังจากนั้นผู้โพสต์ก็เสนอว่า งั้นขอแลกเงินกับตา เงิน 1 บาท แลก 100 บาท ทำเอาตาน้ำตาไหลออกมา เพราะไม่คิดว่าจะมาเจอคนแปลกหน้าใจดี ก่อนที่ผู้โพสต์จะเขียนเบอร์โทรศัพท์ให้ แล้วให้ตานอนพัก ก่อนจะแยกย้าย
กระทั่งวันต่อมา (12 ส.ค.) ตาก็ได้ยืมโทรศัพท์ที่ร้านค้าโทรมาบอกว่า อีก 9 กม.ก็จะถึงบ้านแล้ว ต่อมาก็ยืมโทรศัพท์ของ อบต.ในหมู่บ้านโทรบอกว่าถึงบ้านบอกภัยแล้ว ขณะที่ อบต.ก็บอกว่าหลานของตาจมน้ำเสียชีวิตจริง
