สามีผอ.สาว กองการศึกษา อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่หายตัว ยังเดินหน้าค้นหาต่อ มุ่งไปบริเวณชายแดนไทย-เขมร ใกล้เขาพระวิหาร หลังตร.พบรองเท้าหลายคู่ถูกเผาทิ้ง ในเขตป่า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี แต่ดูแล้วยันไม่ใช่ เนื่องจากคนละไซซ์กับเท้าภรรยา ขณะที่ พ่อเตรียมตั้งทนายเป็นโจทก์ร่วม ด้านพี่สาวลุยยื่นหนังสือ ขอทราบความคืบหน้าของคดี และการแจ้งข้อหากับพลเรือนที่ร่วมด้วย ขณะที่การค้นหาตัว ผอ.สาวยังคว้าน้ำเหลว เพื่อนสนิทเผย ผอ.สาวเตรียมเข้าร้องเรียน ผู้บังคับบัญชา ร.อ. เรื่องเบี้ยวเงิน คาดเป็นปมถูกอุ้มหาย

จากกรณีน.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ผอ.กองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. รวมระยะเวลาแล้ว 1 เดือนเศษ อีกทั้งยังไม่มีวี่แววว่าจะพบตัว ต่อมา ร.อ.ศุภชัย ภาโส นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน บก.ภ. จ.ศรีสะเกษ รับทราบ 4 ข้อกล่าวหา แต่นายทหารคนดังกล่าวได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ล่าสุด ชุดสืบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ ลุยป่าเขต อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อค้นหาร่องรอยของ น.ส.จุฑาภรณ์ หลังพบสัญญาณโทรศัพท์มือถืออยู่ในบริเวณดังกล่าวเป็นจุดสุดท้าย ตามที่เป็นข่าวไปแล้ว

เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพบรองเท้าหลายคู่ถูกเผากลางป่า เบื้องต้นคาดว่าอาจเป็นของ น.ส. จุฑาภรณ์ แต่นายวิทยา เกษแก้ว อายุ 37 ปี สามีของ น.ส.จุฑาภรณ์ ยืนยันว่าไม่ใช่รองเท้าของภรรยาตน เนื่องจากมีขนาดใหญ่กว่าขนาดเท้าของภรรยา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องค้นหาเพิ่มเติมต่อไป

นายวิทยาเผยว่า ขณะนี้ตนและญาติพี่น้องจะไม่ละความพยายามในการที่จะค้นหา น.ส.จุฑาภรณ์ ที่หายตัวไป โดยจะไปตรวจค้นตามป่าใกล้กับชายแดนไทยกัมพูชา ใกล้เขาพระวิหาร รวมทั้งในเขต อ.น้ำยืน จ.อุบล ราชธานี ซึ่งจากการตรวจค้นอย่างต่อเนื่องผ่านมา 4 วันแล้ว ไม่พบ น.ส.จุฑาภรณ์ แต่ถึงอย่างไรตนก็ไม่ท้อ ยังจะมุ่งมั่นในการค้นหา ต่อไป ตามเบาะแสที่ได้รับแจ้งจากทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ

ขณะที่ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของนายบุญเลิศ อุ่นอ่อน และนางแหลม อุ่นอ่อน พ่อและแม่ของ น.ส.จุฑาภรณ์ ที่บ้านซำเบ็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พบว่ามีนายโชคชัย สายแก้ว นายก อบต.เสาธงชัย พร้อมบรรดาญาติพี่น้องของนายบุญเลิศจำนวนมาก พากันมาเยี่ยมและให้กำลังใจนายบุญเลิศ บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา

นายบุญเลิศกล่าวว่า ขณะนี้ทำได้เพียงรอฟังข่าวจากการญาติพี่น้อง ที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปค้นหาตามสถานที่ต่างๆ ที่คาดว่าจะเป็นจุดที่ลูกสาวหายตัวไป รวมทั้งค้นหาตามจุดที่หมอดูและคนเข้าทรงบอกเอาไว้อีกทางด้วย ส่วนด้านคดีความตนหารือกับลูกหลาน ญาติ พี่น้อง เตรียมแต่งตั้งทนายความ เพื่อขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีนี้ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกสาวของตนที่หายตัวไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะเดียวกัน น.ส.หมายปอง อุ่นอ่อน อายุ 39 ปี และนาย บัวกัน อุ่นอ่อน ผู้ใหญ่บ้านโนนเจริญ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพี่สาวและอาของ น.ส.จุฑาภรณ์ ได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรกันทรลักษ์ และสถานีตำรวจภูธรบึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อยื่นหนังสือขอทราบความคืบหน้าของคดีนี้ รวมทั้งสอบถามถึงกรณีที่ร.อ.ศุภชัย กระทำผิดร่วมกับพลเรือน ว่าจะมีการแจ้งความกับพลเรือน ที่เรียกตัวมาสอบเพิ่มเติมด้วยหรือไม่อย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เพื่อนสนิทของน.ส.จุฑาภรณ์ ผอ.สาว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า น.ส.จุฑาภรณ์ มารู้จักสนิทสนมกับนายทหารยศร้อยเอก เมื่อช่วงเดือน พ.ย.2559 ซึ่งตนทราบเรื่องนี้มาโดยตลอด ต่อมานายทหารดังกล่าวได้ขอยืมเงินจาก น.ส.จุฑาภรณ์หลายครั้ง ๆ ละ 20,000 – 30,000 บาท รวมแล้วหลายครั้ง เป็นยอดเงินยืมที่สูงมากพอสมควร ซึ่งตนได้เตือน น.ส.จุฑาภรณ์ว่า ควรจะตีตัวออกห่างมาได้แล้ว เกรงว่าจะเกิดสิ่งที่ไม่ดี ไม่งามขึ้นมา ซึ่งหลังจากที่ตนได้เตือนไปแล้วปรากฏว่า น.ส.จุฑาภรณ์ก็ห่างหายจากตนไปประมาณ 4 – 5 เดือน

ต่อมาช่วงปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา น.ส. จุฑาภรณ์มาชวนตนไปพบกับนายทหารระดับสูงคนหนึ่งที่ค่ายทหาร ในจ.อุบลราชธานี เพื่อร้องทุกข์เรื่องนายทหารยศร้อยเอกยืมเงินไปแล้ว ไม่ยอมคืนให้ เมื่อทวงเงินนายทหารคนดังกล่าวนำบัตรเอทีเอ็มมามอบให้ แต่เมื่อนำบัตรไปกดเงินก็ไม่มีเงินออกมา แต่ตนผัดไปว่าขอให้เป็นอาทิตย์หน้า เนื่องจากติดงานหลายอย่าง จากนั้น วันที่ 3 ก.ค.ทราบว่า เจ้าตัวเดินทางไปที่ จ.อุบลราชธานี แต่ตน ไม่ทราบว่าไปที่ใด ตนคาดว่าการที่ น.ส. จุฑาภรณ์จะไปร้องทุกข์กับนายทหารระดับสูง เพื่อให้ช่วยติดตามทวงเงินจากนายทหารยศร้อยเอก จะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้ เจ้าตัวถูกอุ้มหายตัวไปในครั้งนี้

เพื่อนสนิทยังกล่าวด้วยว่า ในช่วงกลางคืนแทบทุกวัน ตนจะฝันว่า น.ส.จุฑาภรณ์จะมานั่งก้มหน้าอยู่หน้าบ้าน ซึ่งตนก็ร้องเรียกให้เข้าบ้าน แต่ น.ส.จุฑาภรณ์ ก็จะไม่เข้าบ้าน แล้วยกมือ 2 ข้างขึ้นมา ทำท่าเหมือนกับตะกุยดิน แล้วก็จางหายไป รวมทั้งร้องไห้คร่ำครวญบ่นว่าคิดถึงน้องใบเฟิร์น ซึ่งป็นลูกสาวมาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน