จากกรณีลูกค้าซื้อกุ้งแม่น้ำ 7 ตัว รวม 2 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 950 บาท เป็นเงิน 1,900 บาท ก่อนพบตะปูตอกไม้ขนาดความยาว 3 นิ้ว ซุกซ่อนอยู่ในก้ามกุ้งถึง 4 ใน 7 ตัว ก่อนเจ้าของร้านจะแสดงความรับผิดชอบโดยการคืนเงินให้ พร้อมยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นถึงที่มาของตะปู พร้อมยืนยันมีการสแกนโลหะ ก่อนจำหน่ายทุกครั้ง

คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 26 ส.ค. ที่ร้านกุ้งแขก อ.ต.ก. ตลาดสดองค์การตลาดเพื่อการเกษตร ถนนกำแพงเพชร แขวงและเขตจตุจักร กทม. น.ส.รวิภา หรือนก อิ่มอารมณ์ อายุ 44 ปี ลูกค้า เดินทางเข้าพบนางสุนี หรือเจ้แขก เต่าทอง อายุ 58 ปี เจ้าของร้านอาหารสดดังกล่าว โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบกรณีลูกน้องนำเสนอข้อมูลต่อสื่อมวลชน ซึ่งระบุข้อความประมาณว่า “ไม่รู้มีเจตนาอย่างไร หรือจะกลั่นแกล้งตลาดหรือไม่” จนได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียง

น.ส.รวิภา กล่าวว่า ในวันนี้ตนอยากให้ทางเจ้าของร้านออกมาชี้แจงเนื่องจากตนไม่เคยพาดพิงถึงชื่อร้าน อีกทั้งขณะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนตนระบุชัดเจนว่า จบกันได้ด้วยดีโดยทางร้านยอมคืนเงินให้และไม่ติดใจเอาความ แต่ลูกจ้างทางร้านให้ข้อมูลกับสื่อประมาณว่า “ตนเดินวนหลายรอบ” จึงขอท้าให้เปิดกล้องวงจรปิดเพราะเดินถึงหน้าร้านก็ต่อรองราคาแล้วก็ซื้อกุ้งในทันที โดยไม่ได้เช็กราคาสินค้าจากร้าน

จากนั้นเรื่องให้ข้อมูลกับสื่อบางสำนักว่าใช้เครื่องตรวจจับโลหะกับกุ้งทุกตัวนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเพราะลูกจ้างเป็นผู้หยิบกุ้งให้โดยไม่มีขั้นตอนการดำเนินการที่กล่าวอ้างแม้แต่อย่างใด อีกทั้งยังให้ข้อมูลในทำนองที่ตนซื้อกุ้งไปจัดเลี้ยงให้ลูกค้านี่ก็เป็นอีก 1 ประเด็น ตนเพียงต้องการซื้อไปกินเองแค่ 7 ตัว แต่ทำไมต้องให้ข้อมูลออกไปแบบนั้น จึงตัดสินใจเข้าพบเจ้าของร้านเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง

น.ส.รวิภา กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องของตะปูที่ตรวจพบตนก็ไม่ทราบถึงแหล่งที่มา ทั้งนี้ ตนจะทำไปเพื่ออะไรเพราะอุตส่าห์เดินทางมาซื้อตั้งไกลจากย่านสายไหม สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นตนก็เสียหายเพราะเปิดธุรกิจทางร้านก็ขายอาหารเช่นกัน ซึ่งมีทั้งคนให้กำลังใจและต่อว่าทางร้านของตน

ด้านนางสุนี เปิดเผยว่า โดยกุ้งแม่น้ำตนรับซื้อต่อมาจากชาวบ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อหลายปีก่อนเคยเกิดปัญหาเรื่องการยัดตะกั่วที่หัวกุ้ง ตนจึงติดป้ายหน้าร้านไว้ว่าหากลูกค้าพบวัตถุสิ่งแปลกปลอมทางร้านยินดีชดใช้คืนให้เพราะทางร้านไม่มีเจตนาไม่ดี ทั้งนี้เครื่องตรวจวัดโลหะนั้นมีราคาแพงหากลืมวางไว้บนน้ำแข็งก็อาจเกิดพังเสียหายได้

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ลูกน้องตนอาจพลั้งเผลอลืมตรวจเช็กทุกตัว อีกทั้งไม่ได้เป็นผู้ยัดตะปูจึงเกิดอารมณ์และตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นจึงไปให้ข้อมูลกับสื่อจนส่งกระทบต่อความรู้สึกของลูกค้า ทั้งนี้ตนต้องขอโทษลูกค้าและขอยืนยันว่าทางร้านไม่มีเจตนาที่จะคดโกงเพราะจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์และไม่คุ้มเพียงเพราะเงินแค่ 20-30 บาท

น.ส.รวิภา กล่าวปิดท้ายว่า ตนไม่มีเจตนาที่จะเอาผิดกับทางร้านมิเช่นนั้นคงไปแจ้งความร้องทุกข์แล้ว ซึ่งหลังจากมีการพูดคุยกับทางเจ้าของร้านตนก็รู้สึกดีขึ้น และจบกันได้ด้วยดี ทั้งเจ้าของและลูกจ้างก็ออกมาขอโทษซึ่งอาจเป็นความเข้าใจผิดซึ่งกันและกัน โดยอยากฝากเตือนไปว่า เวลาพูดอะไรก็อยากให้คิดเพราะหากพูดผิดผู้เสียหายจะเกิดกับอีกฝ่ายในทันที ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ตนก็ได้รับผลกระทบกับความเชื่อมั่นของลูกค้าเช่นกัน โดยหลังจากนี้หากตนผ่านมาก็อาจจะแวะมาใช้บริการที่ร้านอีกเพราะลูกชายชอบกินกุ้งแม่น้ำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน