จากกรณีครูสาวในโรงเรียนชื่อดังย่านนนทบุรี มีพฤติกรรมรุนแรงทำร้ายร่างกายเด็ก จนทำให้เด็กมีอาการกลัวผวาร้องไห้จนตื่น จนพ่อแม่ทนไม่ได้งัดเทคนิคลับจับผิดครูร้าย
คุณแม่พิ้งค์ คุณแม่ของน้องรีวิว หนึ่งในเด็กนักเรียนห้องครูจุ๋มได้ออกมาเผยมา ผ่านไลฟ์สดในเฟซบุ๊กส่วนตัวของตัวเองว่า ในตอนแรกตนไม่ได้เอะใจเรื่องการทำร้ายร่างกาย ตนเห็นว่าน้องรีวิวมีรอยช้ำตามตัว แต่ตนก็คิดว่าเป็นการเล่นกันของเด็กเลยไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก
แต่จากการพูดคุยกันในกลุ่มผู้ปกครองทำให้ทราบว่า เด็กคนอื่นๆ ก็มีปัญหารอยช้ำเขียวเหมือนกัน ทั้งเวลานอนเด็กหลายคนมักจะมีอาการผวาตอนกลางคืน ร้องไห้หนัก จนตื่น และเด็กบางคนมีอาการกลัวห้องน้ำ กลัวการขับถ่าย จนเหล่าคุณแม่มารู้ที่หลังว่าหากเด็กอยากเข้าห้องน้ำครูจะทำร้ายร่างกายด้วยการตี ทั้งยังมีการขังอยู่ในห้องน้ำ
และเวลาที่เหล่าผู้ปกครองไปรับลูกที่โรงเรียน เด็กๆ จะมีอาการอั้นปัสสาวะ อุจจาระ จนท้องป่อง เวลาถึงบ้านก็จะขับถ่ายเยอะ และนานกว่าปกติ ทั้งยังมีอาการหิวข้าวผิดปกติ จนสามารถกินข้าวปริมาณผู้ใหญ่ได้หมด ก่อนที่จะมาเห็นคลิปในภายหลังว่าลูกของตนนั้นได้กินข้าวเพียงแปปเดียวเท่านั้น ก่อนจะโดนยึดถาดไป
แล้วในคลิปคุณแม่พิ้งค์ยังได้ถามกับน้องรีวิวลูกสาวของตนว่าเวลาอยู่กับครู ครูมักจะหยิกหูน้องรีวิว แล้วพูดว่ารักน้องรีวิว ทั้งบางครั้งยังมีการกระชากผมแต่ก็พูดกรอกหูตลอดว่าครูจุ๋มรักน้องนะที่ทำแบบนี้ พร้อมกับโชว์รอยช้ำบนร่างกายของน้องรีวิว ตอนไลฟ์สดเฟซบุ๊ก
เด็กหลายคนเมื่อกลับไปบ้าน เด็กมักมีอาการผิดแปลกไปจากเดิม จนมีผู้ปกครองท่านหนึ่งวางแผนลับ จับผิดครูจุ๋ม โดยการใส่น้ำวิตามินที่จะมีรสชาติ และกลิ่นเฉพาะ แต่มีลักษณะใส ใส่ลงไปในขวดน้ำ เมื่อลูกกลับมาถึงบ้านก็เห็นว่าน้ำในขวดนั้นลดลงไปนิดเดียว
เลยลองชิมน้ำดูปรากฎว่ายังเป็นน้ำวิตามินอยู่ จึงได้โทรไปสอบถามกับครูจุ๋ม แล้วสอบถามว่าน้องคนนี้กินน้ำหรือไม่ ทำไมน้ำยังเต็มขวดอยู่ ครูจุ๋มบอกว่าน้องกินน้ำเยอะมากที่น้ำเต็มนั้นเพราะว่าครูเติมไว้ให้ ผู้ปกครองเลยจับได้ว่าครูจุ๋มไม่ได้ให้น้องกินน้ำ
และคุณแม่พิ้งค์ยังได้เล่าถึงเรื่องราวที่เด็กๆ คนอื่นโดนกระทำภายในโรงเรียนยกตัวอย่างเช่น เด็กป.2 ทั้งห้องที่โดนไม้กวาดตี และยังมีน้องคนนึงโดนบังคับให้กินอาเจียนของตัวเองเข้าไป ซึ่งโรงเรียนไม่ได้ดำเนินการอะไร เพียงแค่ทำทัณฑ์บนไว้เท่านั้น
ตอนนี้ในกลุ่มผู้ปกครองของโรงเรียนชื่อดังต่างออกมาแฉถึงพฤติกรรมรุนแรงของครูภายในโรงเรียน บางคนถึงขั้นพาลูกย้ายโรงเรียนหนี เนื่องจากโรงเรียนไม่ได้จัดการ หรือรับผิดชอบต่อการกระทำของครู ทำให้มีผลต่อจิตใจของเด็ก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก natramonkarn
