หลังจากมีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งไปพบกับสิ่งก่อสร้างประหลาด ณ เมืองโอซาก้า ชาวเน็ตต่างสงสัยว่าเป็นบ้านคนแคระ ไม่ก็โดนระดับถนนสูงกลบไป ก่อนพบว่าแท้จริงแล้วมันคือหลุมหลบภัย

ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายดังกล่าวได้กล่าวว่าอาคารรูปทรงแปลกตา ที่ดูเหมือนถูกฝังไปครึ่งหนึ่งนี้ ของย่านที่อยู่อาศัยในโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ความจริงแล้วบ้านหลังนี้อดีตเคยเป็นหลุมหลบภัย ที่สร้างเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ ของตระกูลคากายะ ซึ่งแข็งแรงมากเนื่องจากทำด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก

บ้านหลังนี้สร้างเสร็จเมื่อที่ 14 สิงหาคม 2488 วันก่อนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในวันที่ 2 กันยายน 2488 จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีหลุมป้องกันภัยทางอากาศหลงเหลืออยู่ในโอซาก้า

หลุมป้องกันภัยทางอากาศแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตซุมิโนเอะ จังหวัดโอซาก้า สร้างโดยคุณปู่คนนึงในปี พ.ศ. 2488 ซึ่งคุณปู่ใช่เงินส่วนตัวของตัวเองสร้างขึ้นมา และบ้านหลังนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับคนในตระกูลคากายะเท่านั้น แต่ยังให้ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่ไม่สามารถเดินทางไปยังศูนย์หลบภัยอื่นที่อยู่ไกล ในระหว่างการโจมตีทางอากาศอีกด้วย

ทางเข้าของหลุมหลบภัยนี้ถูกปิดด้วยประตูเหล็ก คุณปู่คนนี้เคยทำงานอยู่ในบริษัทก่อสร้าง คุณปู่จึงลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเองตั้งแต่การจัดหาวัสดุ จนถึงสร้างหลุมหลบภัยนี้ด้วยตัวของเขาเอง นอกจากนี้คุณปู่ยังได้ติดตั้งระบบไฟฟ้า และบ่อน้ำด้วย จึงทำให้ต่างจากหลุมหลบภัยแบบอื่นที่ส่วนใหญ่มักไม่มีไฟฟ้า และน้ำเพื่อใช้สำหรับการหลบภัย

สวิตช์ไฟ

ฉนวน

ซ็อกเก็ต หรือเต้าเสียบ

บ่อน้ำ

หลุมป้องกันภัยทางอากาศนี้มีโครงสร้างหนาสองชั้นประกอบด้วยเหล็ก และปูทับด้วยคอนกรีตหนาเสริมความแข็งแรง ทนทานต่อแรงระเบิด ภายในหลุมมีห้องที่ซึ่งเป็นที่เก็บของสำหรับการใช้เพื่อดำรงชีวิตในช่วงสงครามได้หลายวัน ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นมาก็ทำให้อุ่นใจได้นิดนึง

ภายในหลุมหลบภัยดังกล่าวจะเห็นได้ว่ามันถูกสร้างขึ้นมาด้วยความรอบคอบ ทั้งยังรวบรวมเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในสมัยนั้น เอาไว้ภายในหลุมเดียว ซึ่งคุณปู่เคยบอกว่าหลุมหลบภัยนี้ได้ใช้จริงประมาณ 3 ครั้งระหว่างการโจมตีทางอากาศของโอซาก้า ทั้งตระกูลคากายะ และเพื่อนบ้านก็เคยได้มาหลบอยู่ในนี้แล้วทั้งสิ้น

ในปัจจุบันหลุมหลบภัยนี้ได้กลายเป็นโกดังสำหรับเก็บของของตระกูลคากายะ

พอชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่เห็นหลุมหลบภัยแห่งนี้ก็แห่เข้ามาพูดถึงอย่างล้นหลามไม่ว่าจะเป็น “ฉันไม่รู้ว่ามันอยู่ใกล้บ้านขนาดนี้ ฉันจะไปดูให้ได้” “ขอโทษนะ ตอนที่เห็นครั้งแรก ฉันสงสัยว่าพื้นดินจมลงที่นี่หรือมีคนแคระอาศัยอยู่ ดีใจที่ไขปริศนาได้! ขอขอบคุณ!” “หากน้ำท่วมหลังจากฝนตกหนักในเขตเมืองทุกวันนี้ น่าจะทำให้ใช้งานยาก”

ทั้งยังมีคอมเม้นท์บางส่วนว่าสถานที่เป็นนี้คือความทรงจำแห่งอดีตควรที่จะรักษาเอาไว้ “”ซากปรักหักพังจากสงคราม” ดังกล่าวควรได้รับการเก็บรักษาไว้โดยรัฐบาลระดับชาติ” “สามารถทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์แห่งสงคราม และใช้เพื่อการเรียนรู้สันติภาพได้หรือไม่?” “ตอนที่ฉันอยู่ชั้นประถมฉันไปเรียนสันติศึกษา และศึกษาชุมชน”

ทำให้เห็นว่าชาวญี่ปุ่นนั้นต้องการที่จะรักษาประวัติศาสตร์ให้คงอยู่ ไว้ให้เหล่าคนญี่ปุ่นรุ่นหลังได้ศึกษาเพิ่มเติม ทั้งในโอซาก้ายังมี ศูนย์สันติภาพโอซาก้า (Peace Osaka) ภายในศูนย์ฯ มีนิทรรศการที่จัดแสดงเป็นประจำ อีกหนึ่งในนิทรรศการสำคัญ คือนิทรรศการสะท้อนให้เห็นสภาพขณะโอซาก้าถูกโจมตีทางอากาศกว่า 50 ครั้ง ซึ่งจะเป็นนิทรรศการแสดงให้เห็นถึงเรื่องราว และผลกระทบจากสงครามในครั้งนี้ เรียกว่าเป็นแหล่งศึกษาข้อมูลที่สำคัญแห่งหนึ่งสำหรับชาวโอซาก้าเลยก็ว่าได้

ที่มา : @sento_yu_onsen /osaka-info /senseki

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน