หมอแนะ วิธีป้องกัน ไวรัส RSV หลังผู้ปกครองหวั่น ระบาดในเด็ก เตือนหนักกว่าโควิด

พญ.โสภิดา บุญสาธร สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ความรู้เรื่องไวรัส RSV ผ่านทางเว็บไซต์ rama.mahidol.ac.th ความว่า ในช่วงปลายฝนต้นหนาว มีการแพร่รระบาดของไวรัส RSV ในเด็กเล็กเป็นจำนวนมาก ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครอง ต้องหาวิธีป้องกัน เพื่อให้ลูกน้อยรอดพ้นจากการป่วยด้วยโรคดังกล่าว

สำหรับ ไวรัส RSV เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ชื่อภาษาอังกฤษคือ (Respiratory Syncytial Virus) ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจได้ทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ทำให้ร่างกายผลิตเสมหะออกมาจำนวนมาก เชื้อไวรัสชนิดนี้มีมานานหลาย 10 ปีแล้ว แต่เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเนื่องจากมักก่อให้เกิดอาการรุนแรงในเด็กเล็ก

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

สาเหตุการติดเชื้อ RSV

ไม่ใช่เฉพาะเด็กเท่านั้นที่จะติดเชื้อไวรัสดังกล่าว ผู้ใหญ่ก็มีโอกาสตติดได้เช่นกัน ซึ่งหากเกิดในคนที่มีสุขภาพแข็งแรง อาการป่วยก็ไม่รุนแรง และจะหายได้เอง แต่ถ้าเกิดในเด็กเล็กที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ อาจทำให้มีอาการรุนแรง โดยเฉพาะเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเชื้อไวรัสดังกล่าว ติดต่อผ่านการไอ จาม รวมถึงการสัมผัสสารคัดหลั่ง ไม่ว่าจะเป็น น้ำมูก น้ำลา เสมหะ

อย่างไรก็ตามแม้อัตราการเสียชีวิตของเด็กที่ติดเชื้อไวรัสนี้จะต่ำ โดยส่วนใหญ่มักเกิดจากภาวะแทรกซ้อน โดยเฉพาะในเด็กเล็กมากๆ หรือเด็กที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคปอด และ เด็กที่คลอดก่อนกำหนด อาจเกิดภาวะรุนแรงถึงขั้นหายใจล้มเหลว ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ หรืออาจะเสียชีวิตได้

วิธีการป้องกัน

ผู้ปกครองสามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV ในบุตรหลานได้โดยการพยายามให้เด็ก ๆ ล้างมือให้สะอาด เพื่อป้องกันการติดต่อทางการสัมผัส ใส่หน้ากากอนามัยในที่ที่คนพลุกพล่าน ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเป็นประจำ ให้เด็กดื่มน้ำอย่างเพียงพอเพื่อลดภาวะขาดน้ำและช่วยขับเสมหะออกจากร่างกาย แต่ถ้าหากเป็นเด็กเล็กที่ยังไม่หย่านม ก็สามารถให้เด็กดูดนมได้มากที่สุดตามต้องการ แยกอุปกรณ์และภาชนะต่าง ๆ ของเด็กแต่ละคน ไม่ควรใช้ร่วมกัน

วิธีสังเกตอาการว่าติดเชื้อไวรัส RSV หรือไม่

เนื่องจากการติดเชื้อไวรัส RSV ระยะเริ่มต้นนั้นใช้เวลาในการฝักตัวประมาณ 3-6 วัน หลังจากได้รับเชื้อ ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายกับไข้หวัดธรรมดา เริ่มจากการมีน้ำมูก จาม ไอ ทำให้ คุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้ปกครองรู้ตัวช้า ดังนั้นจึงต้องคอยสังเกตอาการของลูกหลานอย่างใกล้ชิด และต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มด้วย เช่น อยู่ในช่วงปลายฝนต้นหนาว ไอ จาม มีเสมหะจำนวนมาก หายใจเหนื่อยหอบ หายใจมีเสียงหวีด ซึ่งเป็นลักษณะอย่างหนึ่งที่บ่งบอกว่าหลอดลมตีบ หรือหลอดลมฝอยอักเสบ

วิธีรักษา

เบื้องต้นไวรัส RSV ไม่มีวัคซีนสำหรับป้องกัน ดังนั้นแพทย์จึงใช้วิธีการรักษาไปตามอาการ รักษาประคับประคอง ไม่ว่าจะเป็นการให้ยาลดไข้ หรือในเด็กบางรายที่มีลักษณะของหลอดลมตีบ ก็อาจจะมีการให้ยาพ่นเพิ่มเพื่อขยายหลอดลม รวมถึงการเคาะปอดและดูดเสมหะ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน