หลังจากพบว่ามีคนหมดสติ 3 ราย หลังจากเปิดใช้เครื่องทำน้ำอุ่น ก่อนจะพบว่าทั้งหมดนั้นมีอาการหมดสติเนื่องจากปริมาณก๊าซโพรเพนได้สูง ส่วนปริมาณก๊าซออกซิเจนต่ำจนทำให้คนหมดสติ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นสามารถพบได้บ่อยเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว

ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมาประเทศไทยได้เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งบางพื้นที่จะมีอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศที่หนาวเย็นอาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน เสี่ยงเจ็บป่วยได้ง่าย

กรมควบคุมโรค จึงขอให้ประชาชนหมั่นดูแลร่างกายให้อบอุ่นและแข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อลดโอกาสที่จะเจ็บป่วยจากโรคและภัยสุขภาพ รวมทั้งออกประกาศกรมควบคุมโรค เรื่อง การป้องกันโรคและภัยสุขภาพที่เกิดในช่วงฤดูหนาวของประเทศไทย พ.ศ.2563

โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้ 1.โรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ (โรคไข้หวัดใหญ่ โรคปอดอักเสบ) 2.โรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำ (โรคอุจจาระร่วง) 3.โรคติดต่อที่สำคัญอื่นๆ ในช่วงฤดูหนาว (โรคหัด โรคมือ เท้า ปาก) และ 4.ภัยสุขภาพ (การเสียชีวิตที่เกี่ยวเนื่องจากภาวะอากาศหนาว และการขาดอากาศหายใจจากการสูดดมก๊าซพิษจากอุปกรณ์ที่ใช้เพิ่มความอบอุ่นร่างกาย)

ภัยสุขภาพ จากการขาดอากาศหายใจจากการสูดดมก๊าซพิษจากอุปกรณ์ที่ใช้เพิ่มความอบอุ่นร่างกาย นั้นเป็นเหตุการณ์ที่พบเป็นประจำในทุกปีในไทย สามารถพบผู้ประสบเหตุได้ใน ทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งมีอาการตั้งแต่ วูบ หมดสติ และร้ายแรงที่สุดคือเสียชีวิต อ่านเพิ่มเติม : อาบน้ำอุ่น หมดสติ 3 ราย คาห้องน้ำรีสอร์ตภูทับเบิก จนท.แจงสาเหตุ

สาเหตุเกิดจาก

ผู้ประสบเหตุส่วนใหญ่นั้นได้รับพิษจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) จากการใช้อุปกรณ์เพิ่มความอบอุ่น เช่น ตะเกียง เตาอั้งโล่ และเครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส

แต่สาเหตุหลักนั้นมาจากการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊สที่ไม่ได้มาตรฐาน ประกอบกับแก๊ส LPG หรือแก๊สหุงต้ม และแก๊สโพรเพนในเครื่องทำน้ำอุ่นเผาไหม้เชื้อเพลิงไม่สมบูรณ์

ถ้าร่วมกับห้องน้ำไม่มีอากาศถ่ายเท ทําให้เกิดการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และคาร์บอนมอนอกไซด์ ในปริมาณมากจนทำให้เกิดอากาศหายใจ หมดสติ และเสียชีวิตได้อย่างเฉียบพลัน เนื่องจากขาดออกซิเจน

ข้อควรระวัง

ไม่ควรจุดตะเกียงหรือเตาไฟที่ใช้น้ำมัน, หลีกเลี่ยงการใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงภายในเต็นท์ และภายในที่พักอาศัยที่ไม่มีการระบายอากาศเพียงพอ และหมั่นตรวจสอบคุณภาพ มาตรฐาน และการบำรุงรักษาเครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส มีช่องหรือพัดลมระบายอากาศที่ได้มาตรฐาน ติดป้ายเตือนอันตราย

ข้อควรปฏิบัติ

เว้นระยะเวลาการอาบน้ำต่อกันหลายคนอย่างน้อย 15-20 นาที เพื่อให้อากาศระบายออก เพราะเมื่อเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นปริมาณก๊าซโพรเพนจะเพิ่มสูงขึ้น สวนทางกับปริมาณก๊าซออกซิเจนที่ลดต่ำลง ที่ส่งผลให้คนหมดสติ

ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคระบบทางเดินหายใจ ควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ หากเป็นสถานประกอบการควรมีถังออกซิเจนขนาดเล็ก เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน

หากมีอาการผิดปกติ เช่น วิงเวียน หน้ามืด หายใจลำบาก ควรรีบปิดเครื่องทำน้ำอุ่นและรีบออกจากห้องน้ำ หรือพบเห็นคนหมดสติขณะอาบน้ำ ควรเปิดประตูเพื่อระบายอากาศ นำผู้ป่วยไปยังพื้นที่โล่ง ปฐมพยาบาลเบื้องต้น

การปฐมพยาบาล

1.ให้ผู้ป่วยนอนศีรษะต่ำ (ไม่ต้องหนุนหมอน ยกขาสูง) คลายเสื้อผ้าและเข็มขัดให้หลวม เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้อย่างเพียงพอ
2.อย่ามุงดูผู้ป่วย เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
3.ใช้น้ำเย็นเช็ดบริเวณใบหน้า คอ แขนขา และให้ดมยาดม จะช่วยให้รู้สึกตัวเร็วขึ้น
4.อย่าให้ผู้ป่วยกินหรือดื่มอะไรขณะที่ยังไม่ฟื้น เพราะจะทำให้สำลักเป็นอันตรายได้
5.เมื่อผู้ป่วยเริ่มรู้สึกตัว ให้นอนพักต่ออีกสักครู่ อย่าเพิ่งลุกนั่งเร็วเกินไป อาจทำให้เป็นลมซ้ำอีกได้
6.เมื่อผู้ป่วยฟื้นคืนสติและเริ่มกลืนได้ อาจให้ผู้ป่วยดื่มน้ำหรือน้ำหวาน


ที่มา : กรมควบคุมโรค / stcarlos

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน