ดาวเคราะห์น้อย คือ ก้อนหินขนาดเล็กที่โคจรรอบๆ ดวงอาทิตย์ ในระบบสุริยะจะพบมากใน “แถบดาวเคราะห์น้อย” ที่อยู่ระหว่างดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี

นักดาราศาสตร์ ค้นพบดาว เคราะห์น้อยหมายเลข 99942 และตั้งชื่อให้มันว่า อะโพฟิส หรือ อสรพิษยักษ์ ตั้งชื่อตามเทพเจ้าแห่งความโกลาหลของอียิปต์ ซึ่งดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส มีลักษณะคล้ายเมล็ดถั่ว ความยาวประมาณ 1,213 ฟุต หรือเกือบ 400 เมตร

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าดาวเคราะห์น้อยดวงดังกล่าวกำลังหมุนออกนอกเส้นทาง และเร่งความเร็ว มีทิศทางเข้าหาโลก และอาจจะชนกับโลกของเราในปี ค.ศ.2068 หรืออีก 48 ปีข้างหน้า ซึ่งในตอนแรกนั้นนักดาราศาสตร์กล่าวว่ามีความเสี่ยงเพียง 2.7 เปอร์เซ็นเท่านั้น ที่ดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสจะชนโลก

ที่เส้นทางของดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสเปลี่ยนเป็นทางนั้น เป็นเพราะได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Yarkovsky effect ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อดาวเคราะห์น้อยได้ดูดซับรังสีจากดวงอาทิตย์ และแผ่ความร้อนที่ได้รับออกมา แต่การดูดซับเข้า และแผ่ออกในครั้งนี้กลับไม่สมดุลกัน

ส่งผลให้ด้านที่แผ่ความร้อนออกมามากเกินไปนั้น ได้รับแรงผลักดันเพิ่มเติม ทำให้ดาวเคราะห์น้อยออกนอกเส้นทางในตอนแรก และพุ่งเข้าหาโลกแทน ซึ่งนักดาราศาสตร์ได้ระบุวันที่ดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสจะพุ่งชนโลกลงในปฏิทิน ในวันที่ 12 เมษายน ค.ศ.2068 หรือตรงกับ พ.ศ.2611 และคาดว่าจะตกลงพื้นที่แถบยุโรป

องค์การบริหารการบิน และอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) ได้จัดให้ดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส อยู่ในอันดับ 3 ของดาวเคราะห์น้อยที่เป็นภัยคุกคามต่อโลกของเรา รองจากดาวเคราะห์น้อย 101955 เบนนู และดาวเคราะห์น้อย 1950 DA

ถ้าหากดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสชนโลกในอนาคตคาดว่าจะก่อให้เกิดพลังเท่ากับระเบิด TNT ขนาด 1,200 ล้านตัน หรือ เท่ากับระเบิดนิวเคลียร์ที่สหรัฐฯ ถล่มเมืองฮิโรชิมาในสงครามโลกครั้งที่ 2 ประมาณ 8,000 ลูก แต่อย่างไรก็ตามแรงระเบิดของอะโพฟิส นั้นยังห่างไกลจากดาวเคราะห์น้อยชนโลกเมื่อราว 66 ล้านปีก่อน ที่ไปทำให้สิ่งมีชีวิตบนโลกสูญพันธ์ไปกว่า 75% ของโลก

ส่วนผลกระทบที่ตามมาหลังจากการปะทะนั้นจะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ ตำแหน่ง และมุมปะทะ ซึ่งจากการคำนวณแล้วอะโพฟิสจะสร้างหลุมอุกกาบาต ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางที่ราวๆ 4.3 กิโลเมตร

แต่ถ้าหากมันตกลงในมหาสมุทรแอตแลนติก หรือมหาสมุทรแปซิฟิก ความเสียหายกระจายออกไปไกลหลายพันตารางกิโลเมตร ชายฝั่งต่างๆ ทั่วโลกจะได้รับผลกระทบจากสึนามิขนาดยักษ์

อย่างไรก็ดี นาซา ระบุว่าแรงโน้มถ่วงของโลกอาจทำให้ดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส ซึ่งจะเคลื่อนตัวห่างจากโลกราว 30,000 กิโลเมตร เปลี่ยนทิศทาง หรือส่งผลต่อพื้นผิวของดาวเคราะห์น้อยได้ ทั้งยังเป็นโอกาสดีที่นักดาราศาสตร์จะได้ศึกษามันกันอย่างละเอียด รวมถึงการเตรียมความพร้อม สำหรับแผนป้องกันภัยทางอวกาศไปในตัว

ที่มา : thesun / sciways

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน