สาวไตวายดับ! ญาติข้องใจยา “อกฟู” ที่สั่งซื้อจากเว็บไซต์มากิน แพทย์ส่งตัวยาพิสูจน์สงสัยผสมสารอันตราย เผยเป็นยาสมุนไพรบรรจุแคปซูล กินวันละ 2เม็ดช่วงแรกเห็นผลดี อาการตกขาวหาย ผิวพรรณใบหน้าสดใสขึ้นจริง แต่พอผ่าน 3 เดือนมีอาการหน้าบวมจนต้องไปหาหมอ ก่อนช็อกหมดสติเสียชีวิตคาห้องน้ำ ขณะที่โฆษก”อย.” ระบุ ต้องรอผลชันสูตรสาเหตุการตายก่อน เท่าที่ดูพบว่าเป็นเพียงอาหารเสริม ไม่สามารถอวดอ้างสรรพคุณกินแล้วผิวขาว หน้าอกโตได้ ดังนั้นมีความผิดตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีการเสียชีวิตของน.ส.วิจิตรา จันทร์ตาพรม อายุ 35 ปี ชาว ต.ช่อแฮ อ.เมือง จ.แพร่ หลังสั่งซื้อยาสมุนไพรที่โฆษณาสรรพคุณว่า “อกฟู รูฟิต ไร้กลิ่น ผิวขาวใส” มากินแล้วทำให้ผิวขาวและเพิ่มขนาดหน้าอกที่มีการโฆษณาในเว็บไซต์มากินนาน 3 เดือน แล้วเกิดอาการใบหน้าบวมจึงไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลแพร่ โดยแพทย์ระบุว่าเป็นอาการของโปรตีนรั่วและป่วยเป็นโรคไตระยะเริ่มต้นจึงได้รักษาตามอาการ ก่อนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยญาติๆ นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่ศาลาอเนกประสงค์วัดต้นไคร้ ต.ช่อแฮ อ.เมือง จ.แพร่ และตั้งข้อสังเกตสาเหตุการเสียชีวิตอาจเกิดจากการกินยาสมุนไพรที่สั่งซื้อมาทางเว็บไซต์

กรณีนี้เภสัชกรเด่น ปัญญานันท์ เภสัชกรเชี่ยวชาญ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ กล่าวว่า เรื่องนี้มีความสูญเสียกันทุกฝ่าย ทางสำนักงานงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ โดยกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคจะเข้าไปพบญาติผู้เสียชีวิตและนำตัวอย่างยาไปพิสูจน์เพื่อให้เห็นผลทางวิทยาศาสตร์ เรื่องนี้ต้องใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เพื่อตรวจสอบแสดงผล เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

เภสัชกรเด่นกล่าวต่อว่า เหตุการณ์นี้คือปัญหาใหญ่ของสังคมยุคปัจจุบันที่ประชาชนสามารถเข้าถึงยาได้ง่ายด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัย ขณะนี้มียาที่พยายามบอกว่าปลอดภัยเป็นยาสมุนไพรประมาณนี้ออกมาโฆษณาจำนวนมาก ซึ่งสาธารณสุขจังหวัดแพร่ได้มีมาตรการและออกประกาศพร้อมทั้งมีคำสั่งห้ามโฆษณายา และอาหารเสริมที่สถานีวิทยุกระจายเสียงในจังหวัดแพร่ไปแล้วนั้นสามารถสกัดได้ส่วนหนึ่ง แต่โลกการสื่อสารนั้นกว้างมากกรณีของผู้เสียชีวิตรายนี้ มาจากการหลงเชื่อคำโฆษณาแล้วไปใช้โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์จนถึงเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการร้องเรียนเข้ามายังสาธารณสุขจังหวัดจึงไม่ทราบรายละเอียดมากนัก แต่ถ้าดูตามเหตุการณ์แล้วยาดังกล่าวที่ผู้เสียชีวิตมีอาการบวมและเป็นโรคไตในที่สุดเกิดอาการไตวาย น่าจะมาจากยา สเตียรอยด์ซึ่งเป็นยาปัจจุบันที่ผู้ผลิตยานำไปแฝงไว้ในตัวยาที่จำหน่าย อย่างไรก็ตามจะต้องมีการสอบหาข้อเท็จจริงเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับประชาชนรายอื่นๆ ต่อไป ต้องขอความร่วมมือจากญาติผู้เสียชีวิตได้นำปัญหาดังกล่าวร้องเรียนหรือให้ข้อมูลเข้ามายังหน่วยงานสาธารณ สุขจังหวัด จะได้ตรวจสอบเว็บไซต์ที่โฆษณายาเหล่านั้นได้

ขณะที่น.ส.กมลชนก กองโกย อายุ 26 ปี หลานสาวน.ส.วิจิตรา เปิดเผยว่า น้าสาวอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน มีสามีและมีลูก 1 คน อายุเพียง 7 ขวบเท่านั้น น้าสาวทำงานในโรงงานเฟอร์ นิเจอร์ในชุมชน ไม่รู้ว่าน้าสาวไปซื้อยามากินตอนไหนรู้แต่ว่าสั่งซื้อยามาจากเว็บไซต์เพื่อต้องการให้ผิวขาวและเพิ่มขนาดหน้าอก โดยยามีลักษณะเป็นยาสมุนไพรบรรจุในแคปซูล รับประทานวันละ 2 เม็ด โดยช่วงแรกที่กินเห็นผลดี อาการตกขาวหาย และผิวพรรณใบหน้าสดใสขึ้นจริง ทำให้น้าสาวกินยาชนิดนี้มาต่อเนื่องแถมยังบอกต่อให้เพื่อนๆ แบ่งไปใช้ แต่พอกินมาครบ 3 เดือนปรากฏว่ามีอาการใบหน้าบวมจึงไปพบแพทย์ที่ร.พ.แพร่ หมอ บอกว่าเป็นอาการของโปรตีนรั่ว ภายหลังแพทย์ตรวจอย่างละเอียดยังพบเป็นโรคไตระยะเริ่มต้นและได้นำยาไปให้หมอดู ก่อนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมีอาการหมดสติระหว่างเดินทางไปร.พ. แต่แพทย์ได้ช่วยไว้และให้กลับมาพักที่บ้านก่อนที่น้าสาวจะมาเสียชีวิตอยู่ในห้องน้ำ ซึ่งครอบครัวต้องการแสวงหาความเป็นธรรม ต้องการรู้สาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงเพราะไม่อยากให้เกิดกับใครอีกโดยไม่ได้ต้องการเรียกร้องอะไร

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากมีข่าวการเสียชีวิตจากการใช้ยาเพิ่มความเปล่งปลั่งขาวใส อกฟู รูฟิต มดลูกดี ไม่ตกขาว ออกไปในจ.แพร่ ส่งผลให้ในโลกโซเชี่ยลที่มีการโฆษณาขายยาชนิดนี้ต่างออกมาโจมตีการเสนอข่าวว่าเป็นข่าวมั่วไม่เป็นความจริง และอีกหลายกลุ่มได้แชร์ข่าวออกไปเพราะให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับทราบข้อมูลที่แท้จริง

วันเดียวกัน เภสัชกรประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ในฐานะโฆษกอย. เปิดเผยว่า ต้องรู้ผลชันสูตรจากแพทย์ก่อนถึงสาเหตุของการเสียชีวิต ซึ่งกรณีดังกล่าวยังไม่มีการระบุถึงสาเหตุของการเสียชีวิตและตัวยาที่พบนั้นจะต้องเอามาพิสูจน์ ซึ่งจากการที่ได้ดูตามข่าวที่ปรากฏตัวยาที่พบนั้นมีลักษณะเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมซึ่งตามกฎหมายที่ระบุคือ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมนั้นเป็นเพียงสารอาหารที่บริโภคเข้าไปเพื่อเสริมสารอาหารที่ร่างกายขาดไป เช่น โปรตีน แคลเซียม หรือพวกวิตามินต่างๆ แต่ในเบื้องต้นที่ได้เห็นคือ ตัวยาดังกล่าวซึ่งมีลักษณะเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริม แต่กลับมีการโฆษณาสรรพคุณว่า เมื่อกินเข้าไปแล้วผิวจะขาวขึ้น สามารถทำให้หน้าอกโตขึ้นมาได้ ซึ่งตรงนี้ก็เข้าข่ายผิดกฎหมายเพราะว่าตัวผลิตภัณฑ์อาหารเสริมไม่สามารถโฆษณาสรรพคุณของตัวยาได้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป เภสัชกรประพนธ์กล่าวว่า หากมีการนำตัวยาดังกล่าวมาตรวจสอบแล้วและพบว่ามีส่วนผสมของยาประเภทอื่นๆ ก็จะมีความผิดฐานผลิตยาโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นต้องมีการชันสูตรจากแพทย์ก่อนถึงสาเหตุการเสียชีวิตและตัวผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน