นนทบุรี : จากกรณีข่าวลูกค้ามาสามคนจ่ายสองคน ที่ทางเพจ ร้านหมูกระทะ OK บุฟเฟต์ หมูทะซีฟู๊ด จ.สมุทรปรการ ได้นำเรื่องราวมาโพสต์จนเป็นข่าวโด่งดังและมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมากตามที่เป็นข่าวไปแล้ว

อ่านข่าว ร้านหมูกระทะ งง ตามหาลูกค้าทำเนียนมา 3 จ่าย 2 ลั่นไม่ได้จัดโปร!

เมื่อวันที่ 25 พ.ย.63 นายชัย(นามสมมุติ) ซึ่งเป็นบุคคลในคลิปและเป็นพ่อของเยาวชนที่อยู่ในคลิป พร้อมนายภัทรพงศ์ ศุภักษร ทนายความ เดินทางมายังโรงพัก สภ.ปากเกร็ด เพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวน ขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน แสดงความบริสุทธิ์ใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับผู้สื่อข่าวว่า

หลังตกเป็นข่าวในคลิปดังกล่าวแล้ว ทำให้เกิดผลกระทบต่อจิตใจบุตรชายตนเป็นอย่างมาก รวมทั้งผลกระทบในการทำงานของตน จึงขอความเมตตากับทางผู้สื่อข่าวด้วยว่า ควรให้โอกาสนำเสนอข้อมูลอีกด้านเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

นายชัย กล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุนั้น ตนไปรับประทานอาหารที่ร้านแห่งนั้นกัน 3 คน คือพ่อลูกและแม่เลี้ยง ขณะที่เข้าไปนั่งในร้าน พนักงานก็เห็นว่ามากัน 3 คน พร้อมกับจัดที่นั่งให้ครบ โดยที่ครอบครัวตนไม่เคยมารับประทานอาหารที่ร้านนี้แห่งนี้มาก่อน หลังนั่งไปประมาณ 3 ชั่วโมง

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ลูกชายตนก็มาบอกกับตนว่าปวดท้อง ตนจึงให้เงินไปจำนวน10 บาท เพื่อเดินไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำลูกชายตนยังถามพนักงานเสิร์ฟว่าห้องน้ำอยู่ทางไหน และในระหว่างที่ลูกชายไปเข้าห้องน้ำ ตนก็ได้เรียกพนักงานมาเก็บเงิน

จากนั้นพนักงานก็มาเช็กราคาอาหารที่โต๊ะ เช็กเตาหมูกระทะ และแจ้งว่าค่าอาหารทั้งหมด 500 กว่าบาท ตนจึงจ่ายแบงก์พันบาทให้ไป จากนั้นพนักงานเสิร์ฟก็นำเงินมาทอนให้ที่โต๊ะ ลูกชายตนก็กลับมา ที่โต๊ะพอดี

ตนก็คิดว่าในราคาอาหารที่จ่ายไปนั้นทางร้านได้คิดเงินครบแล้วทั้ง 3 คน เพราะพนักงานก็เห็นว่ามานั่งรัปประทานกัน 3 คน และราคาที่จ่ายไปก็เหมาะสม หลังจากนั้นจึงลุกไปล้างมือกันทั้งหมดที่อ่างล้างมือแล้วเดินออกจากร้านมาทางด้านหน้า โดยไม่รู้มาก่อนว่าทางร้านคิดเงินขาด ไม่ครบจำนวนคน จึงเรียกรถแท็กซี่กลับบ้านกัน

ระหว่างนั้นทางลูกชายตนยังวิ่งกลับเข้าไปที่โต๊ะอีกครั้งเลยเพราะว่าลืมกระเป๋าไว้ พวกตนไม่ได้มีเจตนาจะโกงและไม่ได้ให้ลูกชายไปแอบหลบซ่อนตามที่ข่าวนำเสนออกไป เพราะไม่รู้ว่าจ่ายเงินไม่ครบ ไม่ยังงั้นลูกชายตนจะกลับมาด้านหน้าทำไมในเมื่อเรียกเก็บเงินเสร็จแล้ว

นายชัย กล่าวต่อว่า ตนกับครอบครัวไม่ได้มีเจตนาไปโกงใดๆ ตอนที่เด็กเสิร์ฟมาคิดเงินก็ไม่ได้ถามตนว่ามากี่คน ตนก็เข้าใจว่าน่าจะรู้ตั้งแต่เข้าร้านมาแล้วว่ามากัน 3 คน ในวันนี้จึงอยากมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานในการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าตนไม่ได้มีเจตนาโกงใคร

ส่วนลูกชายตนตอนนี้สภาพจิตใจย่ำแย่เป็นอย่างมาก เพราะหลังมีข่าวออกไปเพียงด้านเดียวและบางคลิปที่ออกไปไม่มีการเบลอหน้าลูกชายตน ทำให้เขาเกิดความเครียดเหมือนคนเป็นโรคซึมเศร้าในตอนนี้ และเมื่อตนพยายามโทรคิดต่อกลับไปที่ร้านเพื่อให้ลบคลิปก็ได้รับการปฏิเสธ

จึงต้องเดินทางมาที่โรงพัก สภ.ปากเกร็ด ซึ่งอยู่ใกล้และสะดวกที่สุดในการขอลงบันทึกประจำวันเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะตอนนี้รู้สึกสงสารลูกชายเป็นอย่างมาก

นายภัทรพงศ์ ศุภักษร ทนายความ กล่าวว่า ลูกชายของผู้เสียหายอยู่ต่างจังหวัด เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน ก่อนวันเกิดเหตุน้องมาที่กทม. เพื่อมาตรวจร่างกาย เพราะจะต้องเดินทางไปอยู่กับแม่ที่ออสเตรเลีย โดยหลังจากตรวจร่างกายเพื่อขอวีซ่าแล้ว ก่อนเดินทางจึงได้แวะมาหาพ่อ และชวนกันไปนั่งทานหมูกระทะ จนเกิดเหตุเข้าใจผิดและกลายเป็นข่าวใหญ่โตขึ้นมา

ในเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ไม่สามารถลงบันทึกประจำวันให้ได้ เนื่องจากไม่ได้เป็นพื้นที่เกิดเหตุ ทำให้ทางนายชัยและทนายความ เปลี่ยนมาขอชี้แจงกับผู้สื่อข่าวแทน เพื่อให้ต้องการให้สังคมรับทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอีกด้าน พร้อมกับแสดงความบริสุทธิ์ใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน