รองอธิบดีกรมอนามัย ยัน น้ำผสมวิตามิน ไม่เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย หากกินครบ 5 หมู่ เหตุได้รับจากอาหารอื่นพอแล้ว แนะดื่มสะอาดวันละ 6-8 แก้ว พอ
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
วันที่ 17 ธ.ค. นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีกระแสฮิตดื่มน้ำด่าง pH 8.5 น้ำผสมวิตามิน ผสมคอลลาเจน หรือสารอาหารอื่น ๆ ว่า วิตามินหรือสารอาหารอื่น ๆ ที่ใส่ลงไปในน้ำดื่ม เป็นสารอาหารที่ร่างกายสามารถสร้างเองได้หรือได้รับจากการกินอาหารในแต่ละวันอยู่แล้ว
โดยปกติร่างกายมนุษย์ต้องการน้ำดื่มสะอาดอย่างเพียงพอ วันละ 6-8 แก้ว หรือดื่มเพิ่มขึ้นตามน้ำหนักตัวในช่วงหน้าร้อนหรือภาวะขาดน้ำ โดยน้ำสะอาดนั้นควรมีค่าความเป็นกรด-ด่าง หรือ pH ประมาณ 7.00 หรืออยู่ในช่วง 6.5-8.5 ตามเกณฑ์คุณภาพน้ำบริโภคกรมอนามัย หรือเกณฑ์มาตรฐานน้ำบริโภคในภาชนะที่บรรจุปิดสนิท
“จึงไม่จำเป็นต้องผสมสารอาหาร วิตามิน หรือด่างเข้าไป เพราะแค่จิบน้ำบ่อย ๆ อย่างเพียงพอ ก็ช่วยทำให้สดชื่น ผิวพรรณเปล่งปลั่ง รวมถึงร่างกายสามารถทำงานได้อย่างสมดุลแล้ว”
รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวต่อว่า แต่ละวันร่างกายมนุษย์ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายทั้ง 5 หมู่ จากการกินอาหารในแต่ละมื้ออยู่แล้ว โดยเฉพาะแหล่งอาหารจำพวกผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ไขมัน ข้าวหรือแป้ง หากรับเพิ่มจากน้ำดื่มผสมวิตามิน น้ำด่าง หรือสารอื่น ๆ ก็จะไม่เกิดประโยชน์ต่อร่างกายแต่อย่างใด เพราะร่างกายมีความต้องการในปริมาณที่จำกัดในแต่ละวัน ถ้าหากเกินกว่าความต้องการแล้ว ระบบกลไกของร่างกายจะกำจัดออกมาในรูปของเสียต่าง ๆ เช่น เหงื่อ ปัสสาวะ
นอกจากนี้ ยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำดื่มผสมวิตามิน น้ำด่าง หรือสารอื่น ๆ ในราคาที่สูงอีกด้วย จึงแนะนำให้ดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อสุขภาพที่ดี จะดีกว่า
