แม่โพสต์เรื่องราวสลด ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ดีกรีรองแชมป์โลก นักเต้นฮิปฮอป กลับมาเยี่ยมญาติที่บุรีรัมย์ ถูกแก๊งอันธพาล รุมทำร้ายสาหัส กะโหลกศีรษะร้าว
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความระบุว่า “รบกวนทุกคนช่วยแชร์ด้วยคะ ช่วยกันตามหาคนร้ายมารับโทษให้ได้ ..ลูกแม่กลับมาจาก กทม. เพื่อมาเยี่ยมญาติ และได้มาทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน อ.ละหานทราย กลับโดนกลุ่มวัยรุ่นทำร้าย
- หมดอนาคต! รวบอดีตตากล้อง บ.ดัง หนีคดีร่วมฆ่า 17 ปี เศร้าลูกเพิ่งคลอด 2 เดือน
- ระทึก! บรรทุกเบรกแตกทะลุตกแม่น้ำ หนุ่มปริศนาโดดซ้ำ ลืออาถรรพ์แม่น้ำปาว
- จยย.ตัดหน้ากะทันหัน รถกระบะเบรกไม่อยู่ เสียหลักพลิกคว่ำ เจ็บ6
ตอนนี้รักษาตัวอยู่ รพ.บุรีรัมย์ อาการ กระโหลกศีรษะร้าวเพราะโดนรุมตีแต่ที่หัว …น้องแบงค์เป็นเด็กกิจกรรมที่ไม่เคยเกเรมาก่อน…กรุณาช่วยตามหาตัวด้วยคะ อย่าปล่อยให้เด็กเลวพวกนี้ไปทำกับลูกหลานใครแบบนี้อีก
ขอให้น้องแบงค์เป็นคนสุดท้าย ที่ต้องมาเจอรุมตี โดยไม่รู้จักกันมาก่อน ขอบคุณนะคะ” พร้อมโพสต์ภาพขณะน้องแบงค์นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยในสภาพเบ้าตาบวมเป่ง เขียวช้ำ มีร่องรอยแผลตามใบหน้า
จากการสอบถามไปยังเจ้าของโพสต์ ได้ให้ข้อมูลว่า ผู้ที่ถูกทำร้ายร่างกายชื่อนายนพรัตน์ บุญรัตน์ หรือแบงค์ อายุ 23 ปี ปัจจุบันเรียนอยู่มหาวิทยาลัยหอการค้า และรับงานอีเว้นท์เป็นนักเต้นของศิลปินชื่อดังหลายคน
ทั้งยังเคยเป็นตัวแทนนักกีฬาของประเทศไทย ไปแข่งเต้นในหลายประเทศ ล่าสุดเมื่อปี 2561 ได้คว้ารางวัลเหรียญเงินรองแชมป์โลกประเภทนักเต้น Hip Hop Doubles ที่ประเทศโปแลนด์
ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางกลับมาเยี่ยมญาติที่อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ โดยเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ได้ไปนั่งรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในอ.ละหานทราย กับญาติซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แต่กลับถูกกลุ่มวัยรุ่นหลายคนที่ไปนั่งดื่มกินในร้านดังกล่าว รุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสกระโหลกศีรษะร้าว ซึ่งขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่รพ.บุรีรัมย์
จากการสอบถามนายนัฐวุฒิ ฉลองกลาง อายุ 34 ปี ลูกพี่ลูกน้องที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า นายนพรัตน์ เพิ่งเดินทางกลับจากกรุงเทพฯ เมื่อประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 23 ธ.ค. เพื่อมาเยี่ยมญาติที่บ้าน ตนได้ชวนไปรับประทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่งในอ.ละหานทราย
จากนั้นก็นั่งดื่มกินกันจนถึงเวลาประมาณ 00.00 น. ระหว่างนั้นไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใคร แต่มีวัยรุ่นกลุ่มใหญ่นั่งดื่มกินอยู่อีกโต๊ะ ซึ่งตนและนายนพรัตน์ ก็ไม่ได้รู้จัก โดยก่อนเกิดเหตุช่วงที่ตนลุกจากโต๊ะเดินไปเข้าห้องน้ำ วัยรุ่นในกลุ่มดังกล่าวถามตนว่า “ไปไหนครับ” ก็คิดว่าเป็นคนมาเที่ยวทักทายกันตามปกติ
ตนจึงตอบกลับว่าไปเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อตนเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นกลุ่มวัยรุ่นชาย 4 คน กำลังรุมทำร้ายร่างกายนายนพรัตน์ อยู่ ทั้งเตะต่อย กระทืบ ขวดตี และใช้เก้าอี้ฟาดซ้ำ ทั้งตนและพนักงานในร้านพยายามจะเข้าไปช่วย แต่ถูกกลุ่มวัยรุ่นที่มาด้วยกันขวางเอาไว้และขู่ห้ามช่วย เมื่อนายนพรัตน์ สลบกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุก็พากันหลบหนีไป
นายนัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยืนยันว่าไม่ได้มีเรื่องกับกลุ่มที่ก่อเหตุเลยแต่กลับมาโดนรุมทำร้ายแบบนี้ตนคิดว่าเกินไป ตนเชื่อว่าตีมั่ว หรือตีเพื่อความสะใจ หรือต้องการสร้างจุดเด่นให้ตัวเองว่าตัวเองเจ๋ง อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
เบื้องต้นได้แจ้งความที่สภ.ละหานทราย ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็ทราบตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุแล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป