สรรพากร ตอบแล้ว หลังลือสะพัดเตรียมตรวจสอบภาษีเงินได้ พิมรี่พาย ยูทูบเบอร์บิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดัง จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

จากกรณีประเด็นดราม่าที่ พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ หรือ พิมรี่พาย ยูทูบเบอร์บิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดัง ที่ทุกคนรู้จักเธอในบทบาทแม่ค้าออนไลน์ ใช้เงินส่วนตัวกว่า 5 แสนบาท ช่วยเหลือเด็กบนดอย ที่หมู่บ้านแม่เกิบ ตั้งอยู่ที่ ต.นาเกียน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่กว่า 300 กิโลเมตร ต่อมามีกระแสข่าวว่า กรมสรรพากร​ จะดำเนินการตรวจสอบภาษีเงินได้จากการทำธุรกิจออนไลน์​ (ภาษีขายของออนไลน์) ของพิมรี่พาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 12 ม.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร เพื่อขอคำชี้แจงในประเด็นดังกล่าว เบื้องต้นปฏิเสธที่จะให้ความเห็น และชี้แจงว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องนี้ว่ามีข่าวหรือมีข้อเท็จจริงอย่างไร ต้องขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันกรมสรรพกรมีอำนาจในการเข้าไปตรวจสอบภาษีจากการทำธุรกิจค้าขายออนไลน์ โดยล่าสุด กฎหมายภาษี e-Payment (ภาษีอีเพย์เมนต์) หรือพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 48) พ.ศ.2562 ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. 2562 เป็นต้นมา

กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารภาครัฐ รวมไปถึงผู้ให้บริการด้านการเงินอื่นๆ ต้องรายงานธุรกรรมที่เข้าเงื่อนไขให้กรมสรรพากรทราบ โดยธุรกรรมที่ว่าคือรายการ “ฝากหรือรับโอน” ที่ในแต่ละปีเข้าเงื่อนไขว่า คือ ฝากหรือรับโอนตั้งแต่ 3,000 ครั้งขึ้นไป หรือฝากหรือรับโอนตั้งแต่ 400 ครั้งขึ้นไป โดยมียอดรวมทั้งปี 2 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งจะส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรเป็นปีที่ 2 ภายในวันที่ 31 มี.ค. 2564

ก่อนหน้านี้ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร ระบุว่า จะเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีจากกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้ประโยชน์จากสถานการณ์ โควิด-19 คือ กลุ่มค้าขายออนไลน์ และเครื่องมือแพทย์ ในการยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีภาษี 2563 ที่จะยื่นแบบเสียภาษีภายใน 31 มี.ค.2564 นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน