แตกตื่น จู่ๆ เกิดเสียงระเบิดสนั่นท้องฟ้ากลางดึก ได้ยินไปทั่วทั้งฝั่งไทย-ลาว ด้าน อ.โขงเจียมและอ.สิรินธร ชาวบ้านเผยก่อนเห็นลูกไฟขนาดใหญ่แตกกระจายร่วงตกลงมาในสวนยางและกลางทุ่งนา คาดลูกไฟลูกใหญ่ไปตกในฝั่งประเทศลาว กระทั่งเช้าจึงพบแผ่นโลหะตกอยู่ ไม่สามารถระบุได้เป็นอะไร ผู้บังคับการกองบิน 21 จ.อุบลราช ธานี ยันไม่ใช่เครื่องบินทหาร ตรวจสอบแล้วไม่มีการบินในช่วงเวลาดังกล่าว อาจเป็นชิ้นส่วนเครื่องบินพาณิชย์ หรือเป็นชิ้นส่วนดาวเทียมที่หมดอายุ กลายเป็นวัตถุอวกาศ เตรียมส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิสูจน์ต่อไป

เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 15 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ชาวบ้านทั่วทั้ง อ.โขงเจียม และ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ต่างพากันแตกตื่น เมื่อจู่ๆ เกิดเสียงระเบิด ดังสนั่นบนท้องฟ้า เสียงดังได้ยินครอบคลุม 3-4 อำเภอของไทยและฝั่งเมืองชนะสมบูรณ์ แขวงจำปาสัก ของประเทศลาว ก่อนจะพบว่ามีวัตถุปริศนาร่วงลงมา ขณะที่ต่อมาเวลา 09.00 น. นายศิริชัย อินธิวงศ์ศุภกิจ นายอำเภอโขงเจียม เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากนายไพจิตร โยธารักษ์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199 ม.2 ต.นาโพธิ์กลาง อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ว่าพบวัตถุโลหะคล้ายชิ้นส่วนของเครื่องบิน ตกอยู่ที่บริเวณสวนยางพาราของตนเอง เกรงว่าอาจมีสารปนเปื้อนทำให้เป็นอันตราย จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ สภ.โขงเจียม และพื้นที่ใกล้เคียง พบเป็นแผ่นโลหะแข็งสีเทา คล้ายกับส่วนประกอบของเครื่องบิน หรือยานอวกาศ แต่แตกออกเป็นชิ้นขนาดต่างๆ บางชิ้นมีร่องรอยถูกไฟเผากระจายไปทั่วบริเวณสวนยางพาราและทุ่งนา แต่ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าเป็นอะไร หรือส่วนประกอบของอะไร เนื่องจากไม่มีตัวอักษรหรือตัวเลขอะไรติดอยู่ โดยชิ้นส่วนโลหะที่เก็บได้ตกกระจายอยู่ทั่วสวนยางและกลางทุ่งนาบ้านหนองเจริญ บ้านหนองผือน้อย บ้านทุ่งนาเมือง และนาโพธิ์ใต้ รวม 8 ชิ้น โดยชิ้นใหญ่ที่สุดมีความยาวประมาณ 60 เซนติเมตร กว้าง 50 เซนติเมตร ชิ้นที่เล็กที่สุดมีความกว้างประมาณ 20 เซนติเมตร ยาว 30 เซนติเมตร ทั้งนี้ เมื่อทดลองใช้เท้าเหยียบวัตถุดังกล่าวจนแบนราบ เมื่อถอนเท้าออกก็สามารถสปริงตัวคืนได้เหมือนเดิม

จึงประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบว่าวัตถุโลหะดังกล่าวนั้นคือชิ้นส่วนของอะไร ก่อนเก็บกู้อย่างระมัดระวัง จากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้รับรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือสิ่งของเสียหาย แต่ชาวบ้านเกรงว่าอาจจะมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นได้อีก

ขณะที่นายศักดา วงศ์ละคร ผู้ใหญ่บ้าน นาโพธิ์ใต้ ม.2 ต.นาโพธิ์ อ.โขงเจียม กล่าวว่าได้รับการเปิดเผยจากลูกบ้านว่า เมื่อช่วงกลางดึกชาวบ้านที่ออกไปกรีดยางพาราได้พบเห็นลูกไฟขนาดใหญ่ ลอยเฉียงลงมาจากท้องฟ้า จากนั้นก็ได้ยินเสียงระเบิดขึ้นสองครั้งคล้ายระเบิด และลูกไฟก็แตกออก บางส่วนหล่นลงมาในเขตของประเทศไทย ส่วนลูกใหญ่คาดการณ์ว่าจะลอยไปตกที่ฝั่งประเทศลาว ตรงข้ามกับผาชนะได จากนั้นก็ได้ยินเสียงระเบิดอีกหลายลูกติดต่อกันนานกว่า 1 นาที ซึ่งช่วงนั้นชาวบ้านแตกตื่นกันออกมาดู ซึ่งในช่วงเช้าก็มีชาวบ้านมาบอกว่าเห็นชิ้นส่วนโลหะประหลาดตกอยู่ในสวนยางพารา และพบที่บ้านกำนันอีก ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีใครทราบว่าชิ้นส่วนนี้เป็นอะไร เพราะไม่มีตัวเลข หรือตัวอักษรใดๆ แสดงบนวัตถุดังกล่าวเลย ต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ กัน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวโชคดีไม่มีคนได้รับบาดเจ็บหรือมีอะไรเสียหาย แต่ชาวบ้านก็ยังเกิดความกลัวว่าอาจจะมีอะไรตกลงมาอีกได้ และหวั่นจะเกิดอันตราย

ต่อมา น.อ.ฐานันดร์ ทิพเวส ผู้บังคับการกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี กล่าวถึงกรณี ดังกล่าวว่า ขอยืนยันว่าไม่ใช่ชิ้นส่วนของเครื่องบินของกองทัพอากาศอย่างแน่นอน เพราะทางกองบินไม่มีภารกิจในช่วงเวลาดังกล่าว จะบินในช่วงเวลากลางวันเท่านั้น ซึ่งหากเป็นชิ้นส่วนของทางเครื่องบินกองทัพอากาศจะต้องมีการรายงานเข้ามาหลังจากเครื่องบินถึงจุดหมาย จากที่ตนได้ติดตามข่าวชิ้นส่วนดังกล่าวน่าจะเป็นเครื่องบินขนาดใหญ่ ต้องให้ทางสายการบินทำการตรวจสอบ เพราะท่าอากาศยานนานาชาติ จ.อุบลราชธานี มีสายการบินพาณิชย์ภายในประเทศอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสอบถามไปยังหน่วยงานด้านความมั่นคงระบุว่า น่าจะเป็นวัตถุอวกาศ หรือเป็นชิ้นส่วนของยานอวกาศที่ส่งขึ้นไปโคจรอยู่นอกโลก แล้วสลัดชิ้นส่วนเหลือใช้ทิ้ง เพื่อลดน้ำหนักและลดแรงต้านทานการเคลื่อนตัวของยานให้น้อยลง วัตถุนี้จะหลุดเข้ามาในชั้นบรรยากาศของโลก เมื่อวัตถุพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วในชั้นบรรยากาศทำให้เกิดการเสียดสีลุกไหม้ หากเป็นชิ้นเล็กๆ ก็จะถูกเผาไหม้จนหมด แต่หากชิ้นใหญ่ก็จะหลงเหลืออยู่ให้เห็น รวมทั้งความรุนแรงของการระเบิดขึ้นอยู่กับขนาดของวัตถุ ซึ่งจะได้ส่งวัตถุที่ชาวบ้านเก็บรวบรวมส่งมอบให้กับหน่วยงานด้านอวกาศของไทยพิสูจน์หาความชัดเจนของวัตถุดังกล่าวอีกครั้งต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน