ของก๊อปเกลื่อนจีน เหล่าไฮโซแห่ลงเรียน วิชาตรวจจับของปลอม หลังตลาดของหรูพุ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัว “ชาวจีนซื้อสิ้นค้า หรู ราคาแพงถึง 1 ใน 3 ของโลก ถ้ายิ่งเป็นสีมงคลราคาจะสูงขึ้นไปอีก”
ประเทศจีนถือว่าเป็นประเทศที่มีตลาดซื้อขายสินค้าฟุ่มเฟือยและของแบรนด์เนมใหญ่ที่สุดในโลก มีเงินหนุมเวียนอยู่ในตลาดกว่า 4 ล้านล้านหยวน หรือราวๆ 19.7 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นเป็นจำนวนที่ยังไม่นับพวกสินค้าราคามือสองที่ค้า-ขายอีกเป็นจำนวนมากด้วยซ้ำ แต่ความเฟืองฟูของตลาดแบรนด์เนมในประเทศจีนนำไปสู่ปัญหาสินค้าปลอมเกลื่อนเมืองเช่นกัน
จางเฉิน เจ้าของสถาบันดังกล่าว ในเมืองปักกิ่งให้สัมภาษณ์ว่า นักเรียนของเขาส่วนใหญ่มาจากฐานะที่ร่ำรวยและหลักสูตรของทางโรงเรียนนั้นคุ้มค่าที่จะจ่ายมากในยุคสมัยนี้ ลูกค้าของจางเฉินมาจากคนหลายอาชีพมีตั้งแต่บรรณาธิการนิตยสารแฟชั่นไปจนถึงอดีตนักทำของเลียนแบบก็เคยมาเรียนกับเขา เพื่อที่จะไปทำให้ของก๊อปเหมือนกับของจริงให้มากขึ้น ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 76,000บาท ต่อหลักสูตร
ในขณะที่ตลาดสินค้าแบรนด์เนมมือสองได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน “ชาวจีนซื้อสิ้นค้า หรู ราคาแพงถึง 1 ใน 3 ของโลกแต่อัตราการหมุนเวียนของสินค้ามือสองแค่ 3 เปอร์เซ็นต์นั้น ซึ่งต่ำกว่า 25-30 เปอร์เซ็นต์ในแถบประเทศตะวันตก” จางเฉินกล่าว
กระเป๋าแบรนด์หรู ‘ชาแนล’ เป็นสินค้ายอดนิยมของนักลงทุน ราคากระเป๋าสูงขึ้นกว่า 60-70 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว ถ้ายิ่งเป็นสีมงคลก็ยิ่งถูกใจชาวจีนมากขึ้น และแม้ว่าแบรนด์ดังหลายๆ ยี่ห้อ เริ่มนำเทคโนโลยีเข้ามาเพื่อตรวจจับของปลอมแล้วก็ตาม เช่น เบอร์เบอรี่ ได้ทดลองใช้เทคโนโลยีการระบุความถี่วิทยุในสินค้า เพื่อระบุความเป็นของแท้ แต่จางเฉินก็ยังเชื่อว่าระบบเอ.ไอ ยังสามารถถูกแคร็กจากคู่แข่งได้อยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ตรวจสอบโดยมนุษย์จะได้คุณภาพมากที่สุด
ที่มา scmp.com