พระมหาไพรวัลย์ โต้กลับ อดีตพุทธะอิสระ แซะหิวแสง บอก อาตมาว่าอาตมาจะจบแล้ว แต่คนแก่หัวหงอกอย่างตาสุวิทย์นี่ไม่ยอมจบไม่ยอมเลิกเสียที ใกล้แง้มฝาโลงอยู่เต็มทีแล้ว อย่าให้อะไรๆ มันต่ำลงไปกว่านี้อีกเลย

จากกรณี พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ โพสต์เฟซบุ๊กแจงหลังถูกกล่าวหา รับเงินจาการบรรยายธรรมถึง 4 หมื่นบาท ต่อมานายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ อดีตพุทธะอิสระ โพสต์แซะ ระบุว่า ถ้ารวยก็เอาเงินมาแจกผู้เดือดร้อนโควิด-19 บ้าง จนพระมหาไพรวัลย์ ออกมาตอบโต้ ว่า อนึ่ง ในสมัยที่โยมสุวิทย์เป็นพระ กล้าพูดด้วยคำสัตย์ไหมว่าไม่เคยรับปัจจัยเงินทองเลยแม้แต่แดงเดียว ไม่ว่าจะเพื่อตัวเองหรือเพื่อคนอื่น จะเล่นลิ้นเล่นคำ อาตมาไม่มีปัญหานะ แต่ช่วยส่องกระจกดูตัวเองด้วย จะดีมาก แต่นายสุวิทย์ ก็โต้กลับ ว่าพระมหาไพรวัลย์ ผู้หิวแสง

ล่าสุดวันที่ 8 พ.ค.2564 พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ โพสต์เฟซบุ๊กโต้ นายสุวิทย์ อีกครั้งว่า อาตมาว่าอาตมาจะจบแล้ว แต่คนแก่หัวหงอกอย่างตาสุวิทย์นี่ไม่ยอมจบไม่ยอมเลิกเสียที
ใช้คำพูดว่า อาตมาเป็นเด็กไม่รู้จักโต แต่คนแก่อย่างตัวเองกลับปล่อยให้ลูกศิษย์ปั่นหัวเหมือนคนไม่มีสติปัญญาอยู่ได้ เสียดายนะที่อุตส่าห์บวชมาตั้งนานนม แต่ผ้าเหลืองกลับไม่ช่วยให้ฉลาดขึ้นมาเลย

ครั้งก่อนกล่าวหาว่า อาตมาบูลลี่ วันนี้ยังมาบอกว่า อาตมาหิวแสงอีก อาตมาเชื่อแล้วจริงๆ วัดอ้อน้อยไม่มีกระจกให้ตาแก่สุวิทย์ส่องหน้าตัวเอง
ถ้าอาตมาหิวแสง แล้วคนแก่แบบคุณที่เขียนถึงอาตมาไม่เลิกนี่เรียกว่าอะไร #ขายขำ

สันดานอันหนึ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนได้ของตาแก่สุวิทย์ แม้จะผ่านการกินนอนดัดนิสัยในเรือนจำมาแล้ว นั่นก็คือสันดานของการคิดร้ายป้ายสีและมองคนอื่นแบบเหมารวม
คนที่ติดนิสัยบูลลี่คนอื่น ไม่ใช่อาตมา แต่น่าจะเป็นคนแก่ที่ทำตัวไม่รู้จักโตแบบตาสุวิทย์ต่างหาก คนแก่ไม่รู้จักโต ที่ให้สัมภาษณ์พาดพิงโคตรเง่าคนอื่น หรือไล่คนอื่นออกนอกประเทศ เพียงเพราะคิดเห็นไม่เหมือนตนเอง นี่แหล่ะที่สะท้อนวุฒิภาวะแบบเด็กที่ไม่รู้จักโต

ตาแก่สุวิทย์ให้ร้ายอาตมาว่า เป็นแกนร่วมคณะปฎิสังขรณ์การพระศาสนา ทั้งที่อาตมาไม่เคยเข้าประชุม หรือรับรู้และมีส่วนร่วมกับจัดตั้งกลุ่มนี้ขึ้นมาเลย
เพียงการถ่ายรูปรับธงธรรมจักรแครอทเมื่อครั้งเข้าขอสัมภาษณ์ครูใหญ่ในงานวิจัยของมหาจุฬา และเพียงการรับเป็นวิทยากรในการเสวนาในรายการคลับเฮาส์ แค่นี้ก็ถูกตาแก่สุวิทย์ป้ายสีทันทีว่าเป็นแกนนำร่วม เป็นพวกเดียวกัน

อาตมาอยากจะกล่าวว่า ที่บ้านเมืองเราไม่สามารถมีความสมานฉันท์ หรือเปิดกว้างในการรับฟังความเห็นของคนอื่น นั่นเป็นเพราะว่า บ้านเมืองเรามีคนที่มีสติปัญญาเท่าหางแมวอย่างตาแก่สุวิทย์อยู่มากนั้นเอง

เรื่องสำนักพุทธ เรื่องมหาเถรก็เหมือนกัน คือคุณหน้าหนาจนลืมไปหมดแล้วจริงๆ หรอว่าในยุคก่อน คุณเคยพูดถึงองค์กรนี้ไว้อย่างไรบ้าง ทำไมฮะ เข้าไปอยู่ในคุกไม่กี่ปี สมองเสื่อมไปแล้วใช่ไหม ?
ปล. รับหาหลักฐานมานะ ที่กล่าวหาอาตมาว่าเป็นแกนร่วมของคณะปฎิสังขรณ์การพระศาสนาใหม่ รู้แหล่ะ ว่าคนแก่แบบคุณมันมีจิตสันดานให้ร้ายคนอื่นแบบนี้มาโดยตลอด แต่ขอร้องเถอะ อายุก็เรียกได้ว่าใกล้แง้มฝาโลงอยู่เต็มทีแล้ว อย่าให้อะไรๆ มันต่ำลงไปกว่านี้อีกเลย

พระมหาไพรวัลย์

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน