กรรมการคอนโดสุดงง ลูกบ้านขอให้ตั้งกฎ “ใครติดโควิดห้ามเข้า-ออกคอนโด” แต่พอลูกสาวตัวเองติดโควิด ดันมาขออะลุ่มอล่วย ให้ยกเลิกกฎซะงั้น
กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากบนโซเชียล เมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์ @TonsTweetings โพสต์ระบายถึงการเจอลูกบ้านคอนโดแสนน่าปวดหัวว่า
“เราเป็นกรรมการคอนโดแห่งหนึ่ง ที่มีผู้อาศัยติดโควิดแล้วหายแล้ว แต่มีลูกบ้านบางกลุ่มบอกไม่ให้กลับเข้าคอนโด เพราะกลัวเอามาแพร่ วันนี้ได้ข่าวลูกสาวตัวเองติดโควิดมั่ง ยังไม่หายด้วย แต่โดนกีดกันไม่ให้เข้าคอนโดเพราะกฎที่ตัวเองตั้ง ทีนี้เขียนมาขอร้องให้เรายกเลิกกฏนี้”
เรื่องมีอยู่ว่า ช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนัก ๆ ทางลูกบ้านได้มีการปรึกษากัน ขอให้คอนโดพิจารณากฎ “ห้ามผู้ที่ติดโควิด-19 เข้า-ออกคอนโด” เพราะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ อาจพากันติดไปทั้งคอนโดได้ พร้อมเสนอว่าให้ผู้ที่ติดโควิดไปเปิดโรงแรมพัก 7 วัน และถึงแม้ว่ารักษาหายแล้ว ขอให้มีเอกสารมายืนยันครบ (ผลตรวจเป็นลบไม่เกิน 72 ชั่วโมง + ใบรับรองแพทย์) จึงจะสามารถกลับเข้าคอนโดได้
ตอนแรกเขาได้คัดค้านกฎดังกล่าว เพราะมองว่ามันเป็นไปได้ยาก จะใช้อำนาจอะไรมาห้ามไม่ให้ผู้คนเข้า-ออกคอนโด หรือสั่งให้คนไปเปิดโรงแรมพัก ส่วนเอกสารยืนยันต่าง ๆ มันยุ่งยาก จึงไม่เห็นด้วยกับกฎดังกล่าว แต่ทางลูกบ้านยังคงยืนยันให้ใช้กฎให้ได้ เขาจึงต้องยอมจำนน
ต่อมาทางลูกสาวของลูกบ้าน(คนที่เป็นตัวตั้งตัวตี)ได้ติดโควิด-19 ลูกบ้านคนดังกล่าวจึงมาขอให้เขาช่วยยกเลิกกฎที่เคยตั้งไว้ พร้อมยกเหตุผลมาสารพัด ซึ่งมันขัดแย้งกับสิ่งที่ลูกบ้านเคยกล่าวไว้ในตอนแรกหลายอย่าง
อย่างเช่น การห้ามคนที่เคยติดโควิด-19 กลับเข้าคอนโด หากต้องการกลับเข้าคอนโดต้องมีเอกสารยืนยันว่ารักษาหายแล้วเสียก่อน แต่ตอนนี้มาอ้างว่าสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว โควิดติดข้ามห้องไม่ได้ และมีวัคซีนโควิดแล้ว
หรือจะเป็นการให้คนที่ติดโควิด-19 ไปเปิดโรงแรมพัก 7 วัน ก็อ้างว่า เป็นการผลักภาระให้ลูกบ้าน ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง มันไม่เหมาะสม แถมยังบอกว่าการอยู่ร่วมกันในสังคมต้องมีความเข้าใจและความประนีประนอมต่อกันอีกต่างหาก
เขาจึงตอบกลับไปว่า จู่ ๆ จะให้มายกเลิกกฎ มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว และการยกเลิกกฎหรือเปลี่ยนแปลงกฎ เขาเพียงคนเดียวไม่มีอำนาจตัดสินใจ ต้องถามกรรมการและลูกบ้านคนอื่นด้วย ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร หากมีการตกลงเห็นใจกันเกิดขึ้น มีความยินยอมจากลูกบ้านหลายคน เขาก็พร้อมยินดีทำตามความต้องการ
