ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ถึงประเด็นการตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกันโควิด-19 ระหว่างวัคซีน ซิโนแวค และ แอสตราเซนเนก้า ซึ่งพบว่า ระดับภูมิคุ้มกัน คนที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม สูงกว่า ผู้ที่ได้รับ แอสตราฯ เข็มเดียว และเตือนว่า อย่าสับสนเรื่อง ระดับภูมิคุ้มกันกับประสิทธิภาพวัคซีน

โดยโพสต์ระบุว่า “ผลการตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกันโควิด19 เปรียบเทียบระหว่างก่อนวัคซีนเข็มแรกของ Sinovac 1931 และAZ 864 คน และที่สาม/สี่อาทิตย์หลังเข็มแรกของ Sinovac 1928 และAZ 670 คน และ สี่อาทิตย์หลังเข็มสองของ Sinovac 864 คน และ AZ ที่ สิบ/สิบสองอาทิตย์หลังเข็มแรก 468 คน ………ผมยังอยากให้ดูข้อมูลเหล่านี้แล้วสรุปเพียงว่า

1)ก่อนฉีดวัคซีนเรามีคนที่มีภูมิคุ้มกันสูงอยู่บ้างแล้ว ซึ่งอาจแปลว่าในประชากรไทยมีคนที่ติดเชื้อและไม่มีอาการเกินไปมาอยู่ หรือ ผล/วิธีตรวจไม่มีความจำเพาะ(specificity)100% 2) หลังฉีดวัคซีนทั้ง Sinovac และ AZ มีคนที่ภูมิคุ้มกันไม่ขึ้นเช่นกัน ซึ่งอาจจะเป็นได้จากพันธุกรรมของคนไทย หรือ คุณภาพวัคซีน(ผลจากการเก็บและขนส่ง-อุณหภูมิ)

3)ระดับภูมิคุ้มกันที่ 7-12 อาทิตย์หลังได้วัคซีนครั้งแรก Sinovac ได้ครบสองเข็ม AZ ได้เข็มเดียว ระดับภูมิคุ้มกันคนที่ได้ Sinovac ครบแล้วสูงกว่า

ระดับภูมิคุ้มกันนี้ไม่สามารถแปลผลส่งไปถึงประสิทธิภาพของวัคซีนได้ อย่างที่หลายๆคนพยายามเข้าใจหรือทำให้คนเข้าใจ/สับสน(อย่างน้อยก็เท่าที่ข้อมูลปัจจุบันมี) เพราะประสิทธิภาพวัคซีนตัวหนึ่งจะมีปัจจัยอื่นๆที่ไม่ได้ถูกดูวิเคราะห์หรือควบคุมในการวัดระดับภูมิคุ้มกันในห้องแลปเช่นนี้

#อย่าสับสนระดับภูมิคุ้มกันกับประสิทธิภาพวัคซีน #อย่าเอาเรื่องซับซ้อนมาทำให้คนสับสนตื่นกลัว ​​ขอบคุณข้อมูลจากทีมวิจัยโรงพยาบาลจุฬาภรณ์และฝ่ายวิจัยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน