เรียกได้ว่าเป็นกระแสไม่หยุด หลังจากที่ แอน จักรพงษ์ นั้นได้ออกมาประกาศ และมีความประสงค์ที่จะเข้าซื้อกิจการ 10 แห่ง เพื่อช่วยผู้ประกอบการที่กำลังแย่ และต่อลมหายใจผู้ประการหลายแห่งที่กำลังล้ม จากปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน
แน่นอนการกระทำดังกล่าวทำให้ชาวเน็ตแบ่งกันออกเป็นสองฝ่าย บ้างก็ชื่นชมและขอบคุณเธอ บ้างก็ตำหนิว่าการการกระทำดังกล่าวนั้นเหมือนกับการฉวยโอกาส โดยเปรียบเทียบว่า “เหมือนช้อนหุ้นตอนราคาตก เหมือนรับจำนำกดราคาเวลาคนเดือดร้อน” บ้างก็มองว่านี่เป็นเวลาช็อปปิ้งของคนรวย ที่จะได้ซื้อของในราคาถูกลง
และล่าสุดวานนี้ (30 มิ.ย.) กระแสดังกล่าวก็ดูเหมือนว่าจะไม่จบลงไปง่าย ๆ ชาวเน็ตที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเธอก็ยังไม่หยุด พร้อมทั้งวิจารณ์ว่า ในโพสต์เห็นว่า #ขอเข้าซื้อกิจการ แต่ไม่ได้บอกว่าจะร่วมทุน ส่วนตัวอ่านก็เข้าใจว่าซื้อขาด กับคำว่า ‘ขอเข้าซื้อกิจการ’
ซึ่ง แอน จักรพงษ์ ก็ได้มาตอบกลับว่า “แต่หนูก็วิเคราะห์ได้หรือเปล่าคะว่าก็เป็นสิทธิ์ของคนที่เค้าจะขายหรือไม่ก็ได้ ไม่ขายก็ไม่มีใครบังคับ…ช่วยซื้อก็บุญแล้วในยามวิกฤตแบบนี้….จะร่วมทุนก็ทำได้…คิดแต่แง่ลบชีวิตจะลบนะคะ”
และยังได้เปิดเผยว่าหลังจากที่เธอประกาศขอซื้อกิจการไปได้สองวันนั้น ได้ผู้ประกอบการร้านอาหารมาเกือบ 50 เจ้าแล้ว ซึ่งทุกคนก็ต่างขอบคุณในความปรารถนาดี และอยากจะร่วมงานด้วยมาก พร้อมทั้งกล่าวว่าจะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายอื่นส่งข้อมูลมาให้ภายในวันศุกร์นี้ แล้วทางทีมงานจะตรวจสอบข้อมูลทุกท่านพร้อมกับเชิญสัมภาษณ์ เพื่อคัดเลือกเหลือเพียง 10 ร้านค้าเท่านั้น ซึ่งเธอเคยทำในลักษณะดังกล่าวมาแล้วในรายการ Shark Tank นั่นเอง
ก่อนที่เจ้าตัวจะทวีตข้อความตัดพ้อแบบรัว ๆ ว่าคนที่ไม่ได้อ่านให้เข้าใจ และเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เธอนั้น เธอรู้สึกเสียใจมาก การหยิบคำนั้นมาต่อคำนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจผิดเป็นประเด็นดราม่า เรื่องโครงการซื้อกิจการร้านอาหารนี้เป็นเรื่องระหว่างแอนกับเจ้าของกิจการทั้ง 10 เจ้า ไม่ใช่ธุระของคนที่วิจารณ์
ส่วนในเรื่อง ‘บุญคุณ’ นั้นก็ถูกหยิบมาเพื่อทำให้คนเข้าใจผิด รู้อยู่ว่าเธอเขียนอะไร หมายถึงอะไร ที่ผ่านมาเธอก็ช่วยเหลือผู้คนมาตลอด ทำไมถึงต้องโดนด่า และเจ้าตัวยังได้กล่าวว่า เธอนั้นจะไม่รับคำขอโทษ จะรับแต่เงินสดเพื่อนำไปทำบุญต่อ เพราะเธอนั้นมีทีมงานที่จะตามหาคนปากเก่งให้เจอ แล้วลากมาเจอกันที่ศาลอยากให้มาเจอกันซึ่ง ๆ หน้า
พร้อมทั้งเน้นย้ำว่าผู้ประกอบการทุกคนที่มาหาติดต่อเข้ามาเองด้วยความดีใจที่เธอได้ช่วยเหลือ ไม่ทราบว่าคนวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบ ที่โจมตีเยอะนั้นมีสิทธิ์อะไรมายุ่งธุรกิจของคนอื่นเขา และเมื่อรู้ต้นสายปลายเหตุแล้วคนที่เคยใช้คำหยาบคายก็ไม่เห็นมีใครมาขอโทษ ‘นี่หรือคะคือมนุษย์ที่เจริญแล้ว?’
อย่างไรก็ตามแม้ว่าช่วงที่ผ่านมานี้เธอจะผ่านดราม่ามาอย่างหนัก แต่แฟนคลับก็ยังคอยอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจเธออยู่เสมอ ซึ่งเธอก็ได้ออกมากล่าวขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจนะคะ และการสนับสนุนให้ฟ้องร้องคนปากเสีย คนชอบสร้างดราม่าจากคำมาต่อคำ พร้อมทั้งขอขอบบคุณทุกคนที่มีเหตุผลในการใช้ชีวิตเพื่อให้ประเทศเราน่าอยู่ขึ้นอีกด้วย
