บล็อกเกอร์สาวจีน วัย 33 ปี ติดเชื้อ ‘แบคทีเรียกินเนื้อ’ หลังดูดไขมัน รักษาอยู่นาน 2 เดือน ก่อนดับสลดหลังอวัยวะล้มเหลวหนัก ชาวเน็ตจีนชี้ถึงความเสี่ยง-อย่าห่วงสวยเกิน

อินฟลูเอนเซอร์สาวรายนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ ‘เสี่ยวหรัน’ เป็นแฟชั่นบล็อกเกอร์ วัย 33 ปี และมีผู้ติดตามบน Weibo ราว 130,000 คน โดยบล็อคเกอร์สาวเดินทางไปที่คลินิกแห่งหนึ่ง ในเมืองหังโจว มณฑลเจ้อเจียง เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อปรึกษากับหมอเรื่องการศัลยกรรม

ก่อนจะได้รับคำแนะนำให้ทำศัยกรรม 3 รายการ ได้แก่ ดูดไขมันที่เอวและหน้าท้อง ดูดไขมันแขนช่วงบน และเสริมหน้าอก ซึ่งเธอเคยเข้ามาใช้บริการดูดไขมันมาแล้ว 2 ครั้ง โดยการศัลยกรรมทั้งหมดเกิดขึ้นภายในวันเดียวกัน และใช้เวลาไปประมาณ 5 ชม.

แต่ทว่า 2 วันหลังจากนั้น เสี่ยวหรันก็มีอาการปวดตามร่างกายอย่างหนัก และมีอาการหายใจลำบาก เธอจึงโทรเรียกบริการฉุกเฉินและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในหังโจว ก่อนที่ครอบครัวของเธอจะได้รับข่าวร้ายว่า อาการของเสี่ยวหรันอยู่ในขั้นวิกฤต เพราะว่าเธอมาถึงมือหมอช้าเกินไป ทำให้อวัยวะหลายอย่างล้มเหลว และต้องอยู่ในห้องไอซียู

จากนั้นครอบครัวของเธอจึงได้ส่งตัวเธอไปรักษาที่รพ.มหาวิทยาลัยเจ้อเจียงที่มีความพร้อมมากกว่า และแพทย์ก็พบว่าเสี่ยวหรันได้ ติดเชื้อโรคแบคทีเรียกินเนื้อ หรือ โรคเนื้อเน่า ที่ลุกลามอย่างรวดเร็วและอันตรายมาก ทีมแพทย์ได้ทำการผ่าตัดสองครั้ง เพื่อพยายามจัดการเชื้อที่อยู่ทั่วร่างกาย แต่อาการของเธอก็ยังไม่ดีขึ้น

ท้ายที่สุดแล้วหลังจากที่ต่อสู้มานานถึง 2 เดือน เสี่ยวหรันก็จากไปอย่างสงบหลังอวัยวะภายในหลายส่วนล้มเหลว ด้านคลินิกความงามดังกล่าวก็ได้ออกมายอมรับว่า การเสียชีวิตของเธอ เกิดจากความผิดพลาดระหว่างผ่าตัดและการรักษาล่าช้าหลังผ่าตัด

เพราะตามระเบียบทางการสาธารณสุขในปี 2552 กำหนดว่า ศัลยกรรมดูดไขมัน 2 พันมล. ควรทำโดยแพทย์อาวุโส ซึ่งเสี่ยวหรันดูดไขมันเกินกว่านั้น แต่ทว่าแพทย์ที่ดูดไขมันให้เธอกลับเป็นแพทย์ที่ทำงานมาได้ไม่นาน

นอกจากนี้เพื่อนของเสี่ยวหรันยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่เธอเกิดอาการผิดปกติ ผิวหนังตั้งแต่หน้าอกจนถึงหน้าท้อง มีอาการอักเสบเป็นหนองและบวม ทางคลินิกกลับให้แค่เพียงยาแก้ปวดเท่านั้นทำให้ในตอนนี้คลินิกดังกล่าวถูกทางการสั่งปิดเป็นที่เรียบร้อย และครอบครัวของเสี่ยวหรันได้เรียกร้องค่าชดเชยจำนวน 6 ล้านหยวน หรือประมาณ 30 ล้านบาท

การเสียชีวิตของเสี่ยวหรันในครั้งนี้ ทำให้อุตสาหกรรมศัลยธรรมความงามกลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีกครั้ง ชาวเน็ตจีนต่างชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงของการทำศัลยกรรม พร้อมทั้งออกมาเรียกร้องว่าไม่ควรกังวลเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตามากจนเกินไป ทั้งยังเรียกร้องให้รัฐบาลใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นในการควบคุมอุตสาหกรรมการทำศัลยกรรมตกแต่งที่กำลังเฟื่องฟูในขณะนี้

ที่มา : globaltimes / scmp

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน