บังคับจับสึกเจ้าคณะชนแดนส่งตัวนอนคุก หลังบก.ปปป. อายัดตัวดำเนินคดีทุจริตเงินทอนวัด28 ล้านบาท พร้อมส่งฝากขังผัดแรก เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยื่นหลักทรัพย์ 4 แสนขอประกันตัว แต่วืดศาลไม่อนุญาต แถมไม่ยอมเปล่งวาจาสึกต้องให้จนท.สำนักพุทธดำเนินการจนพ้นผ้าเหลืองส่งเข้านอนในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 1 ธ.ค. พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ควบคุมตัวพระครูกิตติ พัชรคุณ หรือนายสมเกียรติ ขันทอง อายุ 53 ปี เจ้าอาวาสวัดลาดแค และเจ้าคณะอำเภอชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฟอกเงินงบประมาณสำนักงานพระพุทธศาสนา หรือเงินทอนวัด มายื่นคำร้องฝากขังผัดแรก 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-12 ธ.ค.นี้ ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซ.สีคาม ถ.นครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ

สำหรับพระครูกิตติถูกพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาความผิดตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 2542 มาตรา 3, 5 (1) (2) (3), 9, 60 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 เพราะสืบทราบว่ามีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตเงินทอนวัด 12 คดี ใน 12 วัด ความเสียหาย 28 ล้านบาท เหตุเกิดที่ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม, แขวง-เขตดุสิต กทม., อ.บ้านตาก จ.ตาก, อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์, อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ และอ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งปปป.สรุปสำนวนคดีส่งไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยมี 2 คดี ที่ป.ป.ช.ส่งเรื่องต่อไปให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ดำเนินคดีฐานฟอกเงิน

ก่อนหน้านี้ ตำรวจบก.ป.บุกจับพระครูกิตติ ในคดีอนาจารเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี และส่งฝากขังต่อศาลเมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนได้รับการประกันตัวในชั้นศาลด้วยหลักทรัพย์ประกันวงเงิน 200,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล พนักงานสอบสวน บก.ปปป. จึงอายัดตัวไว้ดำเนินคดีทุจริตเงินทอนวัด เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จึงคุมตัวส่งฝากขังผัดแรก เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติม และตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมทั้งประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา ทั้งนี้ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้

ต่อมา พระครูกิตติยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 4 แสนบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขังนี้ ศาลพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์แล้ว รวมทั้งคำคัดค้านของพนักงานสอบสวนและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ในชั้นนี้ยังไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ได้แสดงคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว และจะทำการสึกเพื่อนำตัวไปยังเรือนจำ แต่พระครูกิตติไม่ยอมเอ่ยวาจาสึก ตำรวจต้องประสานกับสำนักพระพุทธศาสนา (พศ.) เพื่อทำการสึกก่อนนำตัวผู้ต้องหาไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน