เผาแล้ว “น้องเมย” นตท.ปี 1 ซึ่งเสียชีวิตปริศนา ครอบครัวทำพิธีเผาที่วัดวิเวการาม ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มีคนมาร่วมงานกว่า 300 คน เพื่อนสมัยมัธยม ร้องเพลง “ความฝันอันสูงสุด” ส่งเป็นครั้งสุดท้าย ขณะที่ครอบครัว งดให้สัมภาษณ์ พ่อขอบคุณสื่อที่ติดตามข่าวมาตลอด แต่เรื่องคดีใหพี่สาวเมย เป็นคนจัดการทั้งหมด ด้านแม่แจงข้อมูล ซี่โครงหัก 4 ซี่ไม่จริง ที่จริงคือซี่โครงซี่ที่ 4 หัก แหล่งข่าวเผย ครอบครัวจะใช้เป็นข้อมูลผลการชันสูตร ในการดำเนินคดีในชั้นศาลกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องเมย

จากกรณีการเสียชีวิตของ นตท.ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ”น้องเมย” นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา และมีการส่งศพไปชันสูตรรอบที่ 2 เนื่องจากญาติคาใจสาเหตุการเสียชีวิต และกรณีที่แพทย์ ที่ชันสูตร เก็บเอาสมอง หัวใจและกระเพาะอาหารไปตรวจสอบ โดยไม่มีการแจ้งญาติให้ทราบ จึงออกมาร้องเรียนให้สอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิต ว่าเกิดจากการป่วยหรือ ถูกซ่อมหรือธำรงวินัยจนเสียชีวิต ขณะที่ ล่าสุดผลการตรวจชันสูตรอวัยวะ ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรมออกมาแล้ว โดยญาติได้แสดงเจตจำนงว่าไม่ต้องการให้ ผลการชันสูตรถูกเปิดเผยนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 10 ธ.ค. ที่ วัดวิเวการามวรวิหาร ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ครอบครัวตัญกาญจน์ร่วมจัดพิธีฌาปนกิจน้องเมย โดยมีญาติพี่น้อง เพื่อน ชาวบ้าน ตัวแทนจากเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และสื่อมวลชน รวมกว่า 300 คน

นอกจากนี้ยังมีเพื่อนสนิทตั้งแต่ ชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนสาธิต (พิบูลบำเพ็ญ) มหาวิทยาลัยบูรพา มาขับร้องเพลง “ความ ฝันอันสูงสุด” เพื่อส่งน้องเมยเป็นครั้งสุดท้าย โดยบรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความ โศกเศร้า

นายกิตติพิชญ์ ผลอนันต์ เพื่อนสนิทของน้องเมย เปิดเผยว่า เท่าที่รู้จักเมยเป็นคนที่สนิทกับคนง่ายและเป็นคนพูดมาก ทั้งที่มีคนบอกว่าเมยเป็นคนเงียบๆ แต่สำหรับตน เมยเป็นคนคุยเก่งมาก เมยอยากเป็นทหารมาก ชอบเล่าเกี่ยวกับเรื่องทหารทั้งหมด เวลาตนถามก็จะสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับทหารได้หมด ตนทราบเรื่องที่เมยเสียชีวิตจากทาง เฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 13 ต.ค. ตอนนั้นตกใจมาก ไม่ค่อยได้เล่นเฟซบุ๊ก แต่พอเปิดมาเจอก็คิดว่า ทำไมเพื่อนเราถึงเสียชีวิตเร็วขนาดนี้ เป็นเพราะอะไร สงสัยมาก แต่ขอให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม

ส่วนเรื่องการถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตหรือไม่ ตนไม่ขอพูด ขอให้เป็นเรื่องทางนิติวิทยาศาสตร์ เท่าที่อยู่กับตน เมยเป็นคนร่าเริงมาก ชอบเล่นกีฬา ส่วนใหญ่มีวิ่ง ว่ายน้ำ ต่อยมวย เรื่องที่มีคนบอกเมยสุขภาพไม่ดี ตนขอแย้งเต็มที่ เขาเคยเล่าว่า เราไปขุดจักรดาวได้แล้ว มันลำบากมาก แล้วบอกอีกว่าเรากำลังเตรียมไปงานราตรีกระบี่สั้น ไปหาเพื่อนผู้หญิงนะ เรามีแฟนแล้ว กำลังเตรียมตัวไป ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นหลังจากเมยเสียชีวิต

นายกิตติพิชญ์กล่าวอีกว่า ตนคิดว่าเมยน่าจะภาคภูมิใจที่ได้เข้าเตรียมทหารอย่างที่เขาหวัง ซึ่งเป็นความหวังสูงสุดของเขา ส่วนเรื่องที่เตรียมทหาร ตนได้คุยกับเมยในแช็ตก็ตาม ข่าวที่บอก เป็นการถามเรื่องสารทุกข์สุกดิบธรรมดา เมยบอกกับตนว่าตอนแรกรู้สึกมีความสุขมากเลยที่สอบติด ทุกอย่างที่เขาพยายามมา เขาสามารถทำได้แล้ว เขาบอกตนตลอดว่าเขาทำได้แล้วนะ จากที่เขาสอบมา 3 ครั้งแล้ว ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 เขาสอบไม่ผ่าน หยุดเรียนไปปีหนึ่ง แล้วมาสอบเข้าได้ครั้งที่ 3

“ที่ผมเลือกเพลงความฝันอันสูงสุดมาร้อง เพราะเมยชอบร้องเพลงนี้ให้ผมฟัง เมยชอบมาก ซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงที่น่าจะตรงกับเมยที่สุดแล้ว จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง อยากบอกเมยว่า ไม่ต้องเป็นห่วงแล้วนะ ทุกคนพยายามเต็มที่แล้วที่จะช่วยเมยในเรื่องต่างๆ ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องพ่อแม่หรือพี่เมี่ยง ขอให้เพื่อนสู่สุคติ” เพื่อนสนิทน้องเมยกล่าว

สำหรับงานฌาปนกิจได้จัดขึ้นอย่าง เรียบง่าย มีญาติพี่น้อง และประชาชนทั่วไป เดินทางเข้ามาแสดงความเสียใจและวางดอกไม้จันทน์เป็นจำนวนมาก ด้านนายพิเชษฐ และนางสุกัลยา ตัญกาญจน์ บิดา มารดา และน.ส.สุพิชา ตัญกาญจน์ หรือเมี่ยง พี่สาว ยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ เมื่ออ่านประวัติของน้องเมย นางสุกัลยาร้องไห้ออกมาเป็น ระยะๆ และยืนมองรูปภาพของน้องเมยตลอดเวลา เมื่อวางดอกไม้จันทน์เสร็จ พี่สาวน้องเมยได้เป็นคนถือรูปหน้าศพด้วยตนเอง และเดินขึ้นรถออกไปทันที

ต่อมาเวลา 17.00 น. นายพิเชษฐกล่าวว่า ขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้ความช่วยเหลือในเรื่องของข่าว ขอบคุณทุกๆ คนที่มาร่วมกันส่งน้องเมยเป็นครั้งสุดท้าย และต้องขอโทษที่ ไม่สามารถให้ข่าวเพิ่มเติมได้ ในเรื่องของ ผลชันสูตรทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ที่ออกมานั้น ไม่ทราบอะไรมาก ต้องให้เมี่ยงเป็นคนออกมาเปิดเผยเอง ซึ่งในขณะนี้เมี่ยงเกิดอาการ ไม่สบาย เป็นโรคชักเกร็ง กำลังจะพาไป โรงพยาบาล จึงขอให้ครอบครัวได้พักผ่อนก่อน

นายพิเชษฐกล่าวต่อว่า ขอบคุณนักข่าวจริงๆ ตื้นตันนักข่าวทุกคนที่มา ได้ข่าวบ้าง ไม่ได้ข่าวบ้าง ต้องกราบขอโทษด้วย ตอนนี้เหนื่อยมาก เหนื่อยจริงๆ ส่วนเรื่องคดีความต้องถามน้องเมี่ยง ซึ่งเขากลับไปพักแล้ว คงอ่อนล้า ขอเอาไว้วันหลัง ขอโทษแทนลูกสาวด้วย เพราะหากตนให้ข้อมูลอะไรไปจะผิดพลาด

นายพิเชษฐกล่าวว่า ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ จนถึงวันนี้ยังทำใจไม่ได้ที่ครอบครัวเราเสียน้องเมย ในทุกๆวัน คนในครอบครัวก็ยังนอนไม่หลับ เพราะว่าเป็นห่วงน้องเมย ซึ่งหลังจากนี้ก็ยังไม่ขอให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการดำเนินการทางคดี แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้ทางครอบครัวได้ดำเนินการตามพิธีให้แล้วเสร็จเสียก่อน ส่วนเถ้ากระดูกของน้องเมย ก็จะใส่โกศส่วนหนึ่งเก็บไว้ที่บ้าน อีกส่วนหนึ่งนำไปลอยอังคาร ขอให้ชาติหน้าเกิดมาเป็นพ่อแม่ลูกกันอีก หลังจากนี้ทางครอบครัวก็จะต้องดูแลซึ่งกันและกัน และยังไม่ขอให้สัมภาษณ์อะไรมากนัก นอกจากนี้ก็ขอขอบคุณทุกๆ คนที่มาให้กำลังใจ

ด้านนางสุกัญญา มารดาของน้องเมย กล่าวว่า ขณะนี้ครอบครัวยังรู้สึกกังวลกับกระแสข่าวที่เกิดขึ้น เพราะบางสื่อมีการนำเสนอข้อมูลที่ผิดพลาดจากข้อเท็จจริง เช่น ซี่โครงหัก 4 ซี่ แต่ความเป็นจริงคือ ซี่โครง ซี่ที่ 4 หัก ส่วนเรื่องคดียังไม่อยากจะพูดอะไรก่อน อยากรอให้งานศพของน้องเมยเรียบร้อยก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกครั้ง แต่ทางครอบครัวก็ยังอยากจะรู้ ข้อเท็จจริงถึงต้นเหตุที่ทำให้น้องต้องมาเจอจุดจบแบบนี้ และวันนี้จะงดการให้สัมภาษณ์สื่อ เนื่องจากตั้งใจไว้ว่าจะส่งน้องเมยโดยไม่มีน้ำตา เพราะก่อนหน้านี้ตัวเองร้องไห้ตลอด วันนี้จึงไม่อยากให้ลูกเห็นว่าแม่ร้องไห้อีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผลการชันสูตรที่ได้ทั้งหมด ทางครอบครัวจะใช้เป็นข้อมูลในการดำเนินคดีในชั้นศาลกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องเมยต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน