ปปง. ยึดรถหรู-กระเป๋าแบรนด์เนม ‘พิยดา’ เพิ่มเติม 23 รายการ รวมมูลค่า 2.7 ล้านบาท รอเปิดตู้เซฟยันเน้นสืบสวนขยายผลเพื่อยึด-อายัดทรัพย์เพื่อ

กรณี น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ กับพวก มีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา อันเข้าลักษณะความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (3) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

โดยประกาศลงข้อความหรือข้อมูลทางสื่อสังคมออนไลน์เพื่อหลอกขายสินค้าโดยที่ไม่มีสินค้าอยู่จริง มีการโฆษณาเผยแพร่ข้อมูล ที่ไม่มีความเป็นจริง และลักลอบนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นไปลงทะเบียนเพื่อเปิดใช้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์

และมีเจตนาอำพรางตนโดยนำหมายเลขดังกล่าวนั้นไปรับโอนเงินที่ได้มาจากการหลอกลวงผู้เสียหายรายอื่นเป็นทอดๆ ซึ่งลูกค้าหรือผู้สั่งซื้อสินค้า จะถูกผู้ขายหรือมิจฉาชีพกำหนดให้ต้องถ่ายภาพใบหน้าคู่กับบัตรประชาชนส่งให้กับผู้ขาย

ทั้งนี้ เพื่อเป็นเงื่อนไขในการสั่งซื้อและให้ชำระเงินค่าสินค้าให้แก่ผู้ขายก่อนล่วงหน้า โดยกำหนดให้ลูกค้าชำระเงินผ่านหมายเลขบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ ตามแต่ผู้ขายจะแจ้งให้ทราบ เมื่อมีการโอนเงินชำระค่าสินค้าไปแล้ว ผู้ซื้อจะไม่สามารถติดต่อผู้ขายได้อีกเลย

โดยต่อมาคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุม ครั้งที่ 9/2564 เมื่อวันที่ 7 ก.ย.64 มีมติเห็นชอบให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รวมทั้งสิ้นจำนวน 10 รายการ ได้แก่ เงินสด, เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร, โทรศัพท์เคลื่อนที่, ที่ดินพร้อม สิ่งปลูกสร้าง เป็นต้น รวมราคาประเมินทั้งสิ้นประมาณ 7,944,474.85 บาท พร้อมดอกผล นั้น

วันที่ 1 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงาน ปปง. ได้ดำเนินการตรวจสอบการทำธุรกรรมทางการเงินของผู้กระทำความผิดและผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์เพิ่มเติมและได้เสนอเรื่องต่อคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุม ครั้งที่ 10/2564 วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เพื่อพิจารณาดำเนินการยึดทรัพย์สินในรายคดีดังกล่าวเพิ่มเติม

ซึ่งคณะกรรมการธุรกรรมพิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบให้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รวมทั้งสิ้นจำนวน 23 รายการ ได้แก่ รถยนต์ยี่ห้อ BMW (ประมาณ 2,700,000 บาท) ตู้นิรภัย(ปิดผนึก) กระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อ Balenciaga, Saint Laurent, Chanel, Gucci, Celine, Prada, Jacquemus, Marc Jacobs เข็มขัดยี่ห้อ Dior และตะกร้าหวายยี่ห้อ Loewe รวมประมาณ 2,700,000 บาท พร้อมดอกผล ไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน ตามมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

โดยทรัพย์สินประเภทตู้นิรภัย (ปิดผนึก) ระหว่างรอการตรวจสอบทรัพย์สินภายในตู้ และกระเป๋า เข็มขัด และตะกร้าแบรนด์เนมอยู่ระหว่าง รอการประเมินราคารวมจำนวนทรัพย์สินที่ยึดและอายัดทั้งสิ้น 43 รายการ มูลค่าทรัพย์สินที่ถูกยึดและอายัดในรายคดีนี้ทั้งสิ้นประมาณ 10,644,474.85 ล้านบาท

พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง เลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า สำนักงาน ปปง. จะเน้นการสืบสวนขยายผลเพื่อยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีดังกล่าว รวมทั้งคดีอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง ให้เกิดความเข้มข้นและเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและเพื่อความสงบสุข ความมั่นคงของประเทศชาติ รวมทั้ง เพื่อเป็นการตัดวงจรอาชญากรรมและตัดเส้นทางทางการเงินของผู้กระทำความผิดต่อไป ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถโทรสอบถามสายด้วยได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน