กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็น ที่กำลังพูดถึงอยู่ในขณะนี้ กับดราม่า #ไฟเซอร์นักเรียน จากกรณีที่ทางกระทรวงสาธารณสุขได้จัดฉีด วัคซีนไฟเซอร์ ให้กับนักเรียนทั่วประเทศ ที่มีอายุตั้งแต่ 12-18 ปี ซึ่งจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ทว่าเรื่องราวก็กลับมีดราม่าขึ้นใน 2 ประเด็นนั่นก็คือ คนที่อยากฉีดไม่ได้ฉีด กับ คนที่ได้ฉีดกลับไม่ยอมฉีด

โดยประเด็น คนที่อยากฉีดไม่ได้ฉีด คาดว่าจุดเริ่มต้นเกิดจากกรณีที่จะมีการฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนเท่านั้นทำให้คนออกมาท้วงติงว่า ทำไมถึงมีแค่นักเรียนที่ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เพื่อให้กลับไปเรียนได้ ในขณะที่นิสิต นักศึกษา ก็อยากกลับไปเรียนเช่นเดียวกัน แต่กลับไม่ได้ฉีดวัควีน บ้างก็ได้รับวัคซีนแค่ ซิโนแวค และ แอสตราเซเนกาเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่วัคซีนไฟเซอร์นั้นควรเป็นสิทธิของทุกคน

สตูล คิกออฟ ฉีดวัคซีนนักเรียน สร้างเกราะป้องกันโควิด เร่งฉีดครอบคลุมก่อนเปิดเทอม

ทั้งยังมีเด็กนักเรียนจากโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในจ.สกลนคร ได้นำแชตมาเปิดเผยว่าครูได้เข้ามาสอบถาม ว่ามีนักเรียนคนไหนที่ลงทะเบียนเอาไว้แล้วอยากถอนตัวไหม เพราะว่าวัคซีนที่จัดสรรมาให้ไม่เพียงพอ หลายคนจึงมองว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องที่จะขอให้ใครถอนตัวเพียง เพราะการจัดสรรวัคซีนที่สาธารณสุขและโรงเรียนได้มีครบตามจำนวน

นอกจากนี้ยังมีนักเรียนมัธยมต้นบางรายก็ได้ออกมาเล่าเรื่องราวว่า ในตอนแรกได้รับการนัดหมายจากทางโรงเรียน ว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ช่วงกลางเดือนที่จะถึง ทว่ากลับต้องเสียสละให้นักเรียน ม.ปลายได้ฉีดก่อน เพราะว่าวัคซีนที่จัดสรรมาให้นั้นมีไม่เพียงพอด้วยนั่นเอง

และอีกประเด็นนั่นก็คือ คนที่ได้ฉีดกลับไม่ยอมฉีด ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะจู่ ๆ ก็ได้เกิดเทรนด์ไม่อยากฉีดวัคซีนกัน เนื่องจากเกิดกระแสข่าวปลอมต่าง ๆ ขึ้น อาทิ ผลข้างเคียงของวัคซีน บ้างก็ให้คำแนะนำผิด ๆ ว่าต้องดื่มแอลกอฮอล์ไปก่อนฉีด บ้างก็ไม่อยากฉีดตามเพื่อน บ้างไม่อยากฉีดเพราะมีโรคประจำตัว และบ้างผู้ปกครองก็ไม่ยอมให้ฉีด

โดยเทรนด์ดังกล่าวนั่นเกิดขึ้นกันเป็นวงกว้างในกลุ่มวัยรุ่นที่ เล่นติ๊กต็อก เป็นเสียส่วนใหญ่ซึ่งจะเห็นได้จากการอัดคลิปต่าง ๆ จนนำมาซึ่งเทรนด์และความเชื่อที่ผิด ๆ จนทำให้ชาวเน็ตรู้สึกไม่พอใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และออกมาตำหนิการกระทำดังกล่าว ว่าเด็กสมัยนี้สามารถเข้าถึงข้อมูล และข่าวสารได้ง่ายเพียงแค่เข้าไปหาข้อมูลในโลกออนไลน์ ไม่ควรจะเกิดเรื่องราวดังกล่าวขึ้น ทั้งยังมีงานวิจัยออกมาให้เห็นว่ายิ่งฉีดได้เร็วเท่าไร โรงเรียนก็จะเปิดได้ไวมากขึ้นเท่านั้น

ที่มา : ทวิตเตอร์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน