จากกรณีนักเรียนเตรียมทหาร ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ “น้องเมย” ซึ่งเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ที่โรงเรียนเตรียมทหาร ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ได้เปิดเผยถึงเรื่องการชันสูตรศพนายภคพงศ์ ว่าทางสถาบันฯ ได้มอบรายงานการตรวจศพให้กับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และญาติของน้องเมยเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ผลชันสูตรการเสียชีวิตของ น.ต.ท.ภคพงศ์ พบว่ามีรอยช้ำตามร่างกายหลายแห่ง รวมทั้งซี่โครง ซี่ที่สี่ ที่หักนั้นไม่ได้เกิดจากการทำซีพีอาร์ ส่วนการชันสูตรอวัยวะนั้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์ อ่านข่าว : ผลชันสูตร ‘น้องเมย’ พบรอยช้ำตามร่างกาย ซี่โครงหัก ไม่ได้เกิดจากการทำ ‘ซีพีอาร์’

ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีรายงานข่าวเปิดเผยว่า พล.อ.อ.ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหาร ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนขอเท็จจริงการเสียชีวิตของ นักเรียนเตรียมทหาร ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมยนักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ได้ประชุมสรุปผลก่อนส่งให้ พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ไปเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา

โดยในรายงานระบุว่า จากการลงพื้นที่ของคณะกรรมการฯ ได้สอบถามข้อเท็จจริงจากผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 41 ปาก อาทิ เพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนเตรียมทหารของน้องเมย รุ่นพี่ทุกชั้นปี เจ้าหน้าที่ผู้เห็นเหตุการณ์ ครู นักเรียนบังคับบัญชา ทหารปกครอง ทหารเสนารักษ์ และกองแพทย์ พร้อมขอประวัติการรักษาทางการแพทย์ จากทางกองแพทย์ วัน เวลา การเข้าห้องพยาบาล ในช่วงที่ไม่สบาย สรุปว่า น้องเมยเสียชีวิต เกิดจากปัญหาสุขภาพหลายสาเหตุ ส่งผลให้หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

ล่าสุด พล.อ.อ.ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหาร ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผลสอบยังไม่สมบูรณ์ คืบหน้าไปประมาณ 90 เปอร์เซ็น ซึ่งก็ไม่ทราบว่ามีการนำเสนอข่าวออกไปเช่นนั้นได้อย่างไร ซึ่งยังเหลืออีกบางประเด็น ที่จะต้องทำให้เกิดความสมบูรณ์และคลายความสงสัย ตนคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันนี้ และจะสรุปให้เป็นรูปเล่มที่สมบูรณ์ในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ พร้อมทั้งนำเรียนผู้บัญชาการทหารสูงสุด และหลังจากผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้รับผลสอบสวนจากคณะกรรมการฯแล้ว ถือเป็นดุลพินิจของท่านว่าจะแถลงข่าวหรือไม่

เมื่อถามว่า ผลสอบของคณะกรรมการฯที่คืบหน้า 90 เปอร์เซ็น เป็นไปในทิศทางเดียวกับของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์หรือไม่ พล.อ.อ.ชวรัตน์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบผลการตรวจสอบของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ที่ส่งให้ทางญาติของผู้เสียชีวิต เนื่องจากมีการปกปิดข้อมูลไม่เปิดเผย ซึ่งอาจจะเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องว่าเกิดอะไรกับร่างกายของน้องเมยตามหลักการแพทย์ ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่าผลตรงนั้นเป็นอย่างไร แต่ในส่วนของคณะกรรมการฯ มีรายละเอียดเรื่องของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ว่าเกิดอะไรช่วงไหน มีหลักฐานพยาน สนับสนุนการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามช่วงเวลาก่อนที่น้องเมยจะเสียชีวิต และจนถึงช่วงที่น้องเมยเสียชีวิต

เมื่อถามว่า สรุปแล้วน้องเมยเสียชีวิตเพราะเรื่องสุขภาพหรือมีบุคคลเข้าไปเกี่ยวข้อง พล.อ.อ.ชวรัตน์ กล่าวว่า ยังตอบตรงนี้ไม่ได้ เพราะเป็นข้อมูลที่ตนจะต้องนำสรุปเรียนผู้บัญชาการทหารสูงสุดก่อน และทางผู้บัญชาการทหารสูงสุดจะพิจารณาสั่งการเอง ว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรจะแจ้งให้สื่อมวลชน แจ้งญาติผู้เสียชีวิตให้รับทราบ หรือจะมอบหมายให้ใครเป็นผู้ชี้แจง

เมื่อถามว่า หากผลสอบออกมาแล้วไม่เป็นที่พอใจกับทางญาติผู้เสียชีวิตและมีการฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย พล.อ.อ.ชวรัตน์ กล่าวว่า ญาติผู้เสียชีวิตสามารถดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมายได้ ซึ่งถือเป็นสิทธิตามกฏหมาย

“ทางคณะกรรมการฯ กองบัญชาการกองทัพไทย หรือแม้แต่โรงเรียนเตรียมทหาร ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปแทรกแซงสิทธิตามกฏหมายของผู้ปกครอง หากผู้ปกครองเห็นว่ายังมีความคลางแคลงใจ สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้ แต่เราก็มีความสมบูรณ์ในหลักฐาน พยาน ที่อยู่ในระดับที่น่าจะชี้แจงต่อศาลในการดำเนินการตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมได้อย่างพอเพียง” พล.อ.อ.ชวรัตน์ กล่าว

พล.อ.อ.ชวรัตน์ ยังระบุอีกว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับทางครอบครัวของผู้เสียหายและทางครอบครัวของผู้เสียหายก็ไม่ได้ติดต่อให้ข้อมูลกับคณะกรรมการฯ แต่คณะกรรมการจะทราบข้อมูลในส่วนที่ผู้ปกครองแถลงข่าวผ่านสื่อ ในข้อที่ยังคลางแคลงใจ เท่านั้น ซึ่งเราก็ใช้ข้อมูลจากตรงนี้มาประกอบการพิจารณาบ้างในบางประเด็น

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน