ตร.หอบสำนวน 2540 หน้า สั่งฟ้อง ผู้กำกับโจ้ อัยการมั่นใจยื่นฟ้องคดีทันแน่ แต่หากไม่ทัน 17 พ.ย. ก็จำเป็นต้องปล่อยตัว ผกก.โจ้ กับลูกน้องไปก่อน

3 พ.ย. 2564 – ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วย นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ นายปฏิพงษ์ สละสวัสดิ์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีกิจการอัยการสูงสุด ร่วมกับ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางรอง (ผบช.ก) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม

ร่วมกันแถลงข่าว การส่งสำนวนสอบสวนคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผกก.เมืองนครสวรคค์ หรือ “ผู้กำกับโจ้” และลูกน้องรวม 7 คน ใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนถึงแก่ความตาย

นายอิทธิพร เปิดเผยว่า วันนี้สำนักงานคดีอัยการสูงสุดได้รับสำนวนการสอบสวนจากพนักงานสอบสวน บก.ป. คดีระหว่าง น.ส.จันทร์จิรา ธนะพัฒน์ ผู้กล่าวหาที่ 1 พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผู้กล่าวหาที่ 2 กับ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น และ ส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว ผู้ต้องหาทั้ง 7 คน

ข้อหา เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด, เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด, ร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้ายร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นหรือผู้อื่นหรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้นไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมสิ่งนั้น

ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 91, 157, 309 วรรคสอง, 289 (5) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 เหตุเกิดระหว่างวันที่ 5 – 6 ส.ค. 2564 ที่ห้องทำงานชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองนครสวรรค์

โดยพนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้อง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวกรวม 7 คนตามข้อกล่าวหา ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดถูกควบคุมและฝากขังไว้ตามคำสั่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 4 จะครบฝากขังครั้งที่ 6 ในวันที่ 6 พ.ย. 2564 และผู้ต้องหาที่ 2, 3, 5, 6 และ 7 จะครบฝากขังครั้งที่ 6 ในวันที่ 5 พ.ย 2564 ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 143 วรรคท้ายผู้มีอำนาจสั่งพิจารณาคดีนี้คืออัยการสูงสุดโดยคำสั่งอัยการสูงสุดถือว่าเด็ดขาด

นายประยุทธ กล่าวว่า ประเด็นที่สังคมห่วงใยว่าอัยการจะยื่นฟ้องคดีไม่ทันตามกำหนดครบฝากขังรวม 84 วัน ในวันที่ 17 พ.ย.นี้ นั้น ไม่ต้องกังวล ตนเชื่อว่าความเชี่ยวชาญของทีมงานอัยการ จะสามารถสรุปสำนวนภายในเวลาที่กำหนด โดยจะมีการตั้งคณะทำงานอัยการขึ้นพิจารณา และเสนอความเห็น ให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่ง อย่างไรก็ตามหากอัยการไม่สามารถยื่นฟ้องคดีต่อศาลได้ทันภายในกำหนด ก็จำเป็นต้องปล่อยตัว ผกก.โจ้ กับลูกน้องไปก่อน แต่ทั้งนี้ตนมั่นใจว่า อัยการยื่นฟ้องคดีทันแน่นอน

พล.ต ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า วันนี้พนักงานสอบสวน ส่งสำนวนการสอบสวน อดีต ผกก.โจ้ กับลูกน้องข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ จำนวน 7 แฟ้ม รวม 2540 แผ่น ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนมีความมั่นใจในพยานหลักฐานที่รวบรวมมาทั้งหมด เนื่องจากพนักงานอัยการเข้าร่วมสอบสวนตั้งแต่แรกที่ จ.นครสวรรค์ กระทั่งโอนคดีเข้ามาที่กองปราบปราม เพราะตามกฎหมาย บัญญัติ ไว้ว่า หากเป็นการตายที่อยู่ระหว่างการควบคุมของพนักงาน หรือตายเพราะการกระ ทำของเจ้าพนักงาน ให้อัยการเข้าร่วมสอบสวนด้วย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน