อัยการสูงสุดสั่งเด้งกราวรูด 4 อัยการจังหวัดพัทยา ปมฟ้องมาเฟียไม่ทัน ก่อนถูกปล่อยตัว โดยเซ็นย้ายเข้ากรุงนั่งสำนักงานอาญา-ยาเสพติด มีผล 29 พ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 19 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุด ลงนามใน คำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุดที่ 1990/2564 เรื่องให้พนักงานอัยการช่วยราชการปฏิบัติราชการและรักษาการในตำแหน่ง โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 13,15และ27 แห่ง พรบ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ.2553 จึงมีคำสั่งให้พนักงานอัยการช่วยราชการปฏิบัติราชการและรักษาการในตำาแหน่งดังต่อไปนี้

1.นายสุวิทย์ เทพรินทร์ อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษสำนักงานอัยการภาค 2 พ้นจากปฏิบัติราชการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 2 และให้รักษาการในตำแหน่งอัยการจังหวัดพัทยา

2.น.ส.วรรณทนีย์ สุดสัตย์ อัยการผู้เชี่ยวชาญสำนักงานอัยการภาค 2 พ้นจากรักษาการในตำแหน่งอัยการจังหวัดพัทยา และให้ช่วยราชการสำนักงานคดียาเสพติดปฏิบัติราชการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดี

3.น.ส.วนิดา เศวตทิฆัมพร อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการจังหวัดพัทยา ช่วยราชการสำนักงานคดีอาญาปฏิบัติราชการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5

4.นายจิรัฏฐ์ เสรีกุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการจังหวัดพัทยา ช่วยราชการสำนักงานคดีอาญาปฏิบัติราชการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา

5.นายกิตติ นันทวงษ์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพัทยา ช่วยราชการสำนักงานอัยการจังหวัดพัทยาอีกหน้าที่หนึ่ง

6.นายธนกิจ โชติประดิษฐ์ รองอัยการจังหวัดพัทยาช่วยราชการสำนักงานคดียาเสพติด ปฏิบัติราชการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดียาเสพติด

7.นายคมสัน รักการดี รองอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพัทยา ช่วยราชการสํานักงานอัยการจังหวัดพัทยาอีกหน้าที่หนึ่ง

8.นายอารักษ์ บัวแก้ว อัยการจังหวัดผู้ช่วยสำนักงานอัยการคดี ศาลแขวงพัทยา ช่วยราชการสํานักงานอัยการจังหวัดพัทยา

9.นายภัทระ วัฒนชัย อัยการผู้ช่วยสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ พ้นจากช่วยราชการสํานักงานคดียาเสพติดและให้ช่วยราชการสำนักงานอัยการคดีศาลแขวงพัทยา ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. เป็นต้นไป

นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า การที่นายสิงห์ชัย มีคำสั่งย้ายในครั้งนี้ ไม่ได้สรุปว่าอัยการจังหวัดพัทยาและอัยการผู้รับผิดชอบคดีมีความผิด แต่เมื่อมีประเด็นฟ้องผู้ต้องหาไม่ทันภายในระยะเวลากำหนดฝากขัง จนผู้ต้องหาถูกศาลสั่งปล่อยและเกิดประเด็นที่สังคมและสื่อมวลชนมีคำถามและสงสัย อัยการสูงสุดจึงต้องมีคำสั่งให้ย้ายออกนอกพื้นที่ก่อน เพื่อตรวจสอบ ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของอัยการสูงสุดที่แถลงไว้ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งว่า การทำหน้าที่ของพนักงานอัยการและสำนักงานอัยการสูงสุด มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้เสมอ หากตรวจสอบแล้วไม่มีความผิดก็สามารถกลับไปปฏิบัติหน้าที่เหมือนเดิมได้ แต่ถ้ามีความผิดก็ต้องว่าไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำสั่งย้ายดังกล่าวมาจากกรณีที่พนักงานอัยการจังหวัดพัทยาสั่งฟ้องนายจั๋ง หยาง หรือลีโอ ผู้ต้องหาชาวต่างชาติกับพวก ในข้อหาอุกฉกรรจ์ใช้อาวุธปืนยิงตำรวจบาดเจ็บไม่ทัน เป็นเหตุให้ศาลหมดอำนาจคุมตัว 84 วัน จนผู้ต้องหาดังกล่าวต้องปล่อยตัวตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามในขั้นตอนทางอัยการสูงสุดจะตั้งกรรมการสอบสวนกรณีดังกล่าวต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน