เปิดใจสาว! โดนแก๊งคอลฯสุดเนียน แต่งชุดตร.หลอกโอนเงิน ทำฉากเหมือนโรงพัก เจอหลอกไป 3.4 แสนบาท เมื่อเช้ายังมีเบอร์มิจฉาชีพโทรมาอีก 2 ครั้ง

จากกรณีมีวัยรุ่นสาวโพสต์เตือนภัยบนโลกออนไลน์ ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกกันเป็นขบวนการ อ้างเป็นไปรษณีย์ไทย บอกว่ามีชื่อตัวเองถูกนำไปใช้ส่งพัสดุผิดกฎหมาย ก่อนให้ประสานตำรวจและหลอกว่าเกี่ยวพันกับคดีฟอกเงิน จากนั้นให้โอนเงินกว่า 3.4 แสนบาทไปตรวจสอบแล้วหนีหายไป จนมีคนแชร์เรื่องนี้ต่อกันเป็นวงกว้าง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ม.ค. น.ส.ณิชารี อายุ 24 ปี ผู้โพสต์เรื่องดังกล่าว เปิดเผยกับข่าวสดออนไลน์ว่า เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา มีโทรศัพท์เข้ามา ซึ่งตนเคยเจอเบอร์นี้เป็นเบอร์มิจฉาชีพก็ไม่ได้รับ สักพักมีอีกเบอร์โทรมาอีกครั้ง จึงรับสาย แล้วปลายสายบอกว่า โทรมาจากไปรษณีย์ไทย พบพัสดุผิดกฎหมายที่ส่งจาก จ.ชลบุรี มีปลายทาง จ.เชียงใหม่ โดยบอกข้อมูลอย่างละเอียดว่ามีชื่อตนถูกอ้างเป็นผู้ส่ง ภายในเป็นพาสปอร์ต 12 เล่ม สมุดบัญชีธนาคาร 9 เล่ม และบัตรเอทีเอ็ม 9 ใบ จึงแนะนำให้ตนไปแจ้งกับตำรวจที่ชลบุรีหรือตำรวจใกล้บ้าน ซึ่งตอนนั้นตนอยู่บ้านคนเดียวก็ช็อก ตกใจมากๆ แทบไม่รู้สึกเอะใจอะไรเพราะเขาบอกข้อมูลละเอียดมาก แต่เนื่องจากไม่ได้อยู่ชลบุรี จึงไม่สะดวก มิจฉาชีพก็โอนสายไปให้ตำรวจที่หนึ่ง อ้างเป็น สภ.แหลมฉบัง

น.ส.ณิชารี บอกอีกว่า ต่อมาตนได้คุยกับคนที่อ้างเป็นตำรวจหญิง บอกให้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก่อนจะขอชื่อนามสกุล และเลขบัตรประชาชนไปตรวจสอบ พร้อมทำทีเป็นวิทยุคุยกับตำรวจนายอื่น บอกว่าชื่อตนมีคดีความอะไร ก่อนจะบอกว่ามีคดีเปิดบัญชีปลอมไปใช้ฟอกเงินเป็นหลักล้าน แล้วตำรวจก็กลับมาบอกว่าชื่อตนอันตราย ถูกนำชื่อไปทำบัญชีปลอม ถ้าตนไม่ทำผิด จะต้องยืนยันความบริสุทธิ์และทำใบบริสุทธิ์ ตนก็ยืนยัน แล้วคนร้ายก็ทำทีเป็นเดิน ซึ่งตนได้ยินเสียง เหมือนเว้นระยะพอสมควรเหมือนอยู่ในโรงพักจริงๆ ก่อนจะไปเคาะประตู บอกว่าผู้กำกับว่างไหมให้มาคุยกับตน เขาบอกว่าไม่ว่างจึงขอไอดีไลน์จากตนแล้ววิดีโอคอลมา

น.ส.ณิชารี กล่าวอีกว่า ตนเห็นคนร้ายใส่ชุดตำรวจ มีเอกสารวางเต็ม ฉากหลังเหมือนอยู่ในโรงพักจริงๆ ก็ยิ่งเชื่อ และคนร้ายก็ส่งรูปกับชื่อผู้ต้องหา อ้างเป็นตัวการที่นำบัญชีตนไปใช้มา และบอกว่าคดีนี้ยังเป็นความลับ คนร้ายยังหลบหนีอยู่ อย่าเพิ่งไปบอกใคร จากนั้นคนร้ายให้ตนบอกเลขบัญชีของตัวเองทั้งหมดที่มี และให้โอนเงินจากทุกบัญชี ไปยังบัญชีของคนร้าย โดยอ้างว่าจะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ตรวจสอบประมาณ 3 ชั่วโมงจะโอนคืนให้ ระหว่างนั้นให้ตนคอยส่งสติ๊กเกอร์มาเป็นระยะ เพื่อเช็กความปลอดภัยของตนจนก็หลงเชื่อ กลัวไปหมด จึงโอนเงินทั้งหมดไป 3.4 แสนบาท

“ต่อมาผ่านไป 1 ชั่วโมง ก็รู้สึกว่านาน จึงเสิร์ชหาข่าวออนไลน์ที่เป็นพฤติกรรมลักษณะเดียวกันถึงรู้ว่าถูกหลอก จึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ในวันเดียวกัน และวันที่ 18 ม.ค.ถึงได้นำใบแจ้งความไปอายัดบัญชีปลายทางของคนร้ายที่ธนาคาร โดยธนาคารแจ้งว่าภายใน 7 วันนี้จะส่งข้อมูลต่างๆ ให้ตำรวจทั้งหมด ซึ่งปกติแล้ว ตัวเองก็มักสั่งของออนไลน์อยู่เป็นประจำ จึงจะมีเบอร์แปลกๆ โทรเข้ามาเสมอ แต่ล่าสุดเมื่อเช้ายังมีเบอร์มิจฉาชีพโทรเข้ามาอยู่ตั้ง 2 ครั้ง อยากบอกว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นข่าว ถ้าเห็นก่อนก็คงไม่เกิดเรื่องนี้คงขึ้น ถ้าใครเจอแบบนี้ก็อยากให้ช่วยๆ กันเตือนต่อๆ ไป” น.ส.ณิชารี กล่าวทิ้งท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน