CEO สาวโต้กลับ ลั่นไม่อยากได้สามีคืน แค่ออกมาปกป้องศักดิ์ศรีตัวเอง ยืนยันเป็นผู้หญิงทำงาน ทำงานจนมีทุกวันนี้ เราสร้างมาด้วยกัน

ดราม่าร้อนยังไม่จบ หลัง CEO สาว ร้องทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ถูกสามีที่คบกัน 13 ปี ไปจดทะเบียนสมรสกับหญิงอื่น ซึ่งต่อมาฝ่ายชาย และผู้ใหญ่บ้านสาว ออกมาโต้กลับ ร่ายยาว 16 ข้อ ยืนยันว่า “ไม่ได้คบซ้อน เลิกกันไปนานแล้ว ก่อนมาเจอรักใหม่”

ล่าสุดวันที่ 17 ม.ค.65 นางมนธิรา มูลกระแสน อายุ 43 ปี CEO สาวไทยบ้านทีวี เปิดใจกับข่าวสดออนไลน์ โต้กลับอดีตสามีว่า “ตอนแรกเห็นอดีตสามีโพสต์ รูปคู่กับผู้ใหญบ้าน พร้อมทะเบียนสมรส จึงนำรูปโพสต์ต่อ เพื่อแสดงความยินดี แต่ทางนั้นหาว่า นำรูปไปโพสต์โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งคิดว่าเขาโพสต์เป็นสาธารณะ เลยไม่ได้คิดว่าผิดอะไร อาจจะกระแหนะกระแหนบ้าง ตามภาษาลูกผู้หญิง และทางผู้ใหญ่บ้านไปแจ้งความก่อน ในข้อหา พรบ.คอมพิวเตอร์ ก็เลยเป็นข่าวใหญ่โตแบบนี้”

โดยความสัมพันธ์ ตนและอดีตสามี อยู่กินกันมา 13 ปี โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ก็มีความสุขกันดี เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.64 สามีไปจดทะเบียนสมรสกับผู้ใหญ่บ้าน ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านมาบอกว่า อดีตสามีแอบคบกับผู้ใหญ่บ้าน และฝ่ายหญิงเข้ามานอนในบ้าน ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ลูกอยู่ เพิ่งสร้างกันมา ขึ้นบ้านใหม่ไปวันที่ 21 พ.ค.64 ถ้าตนและอดีตสามีจะเลิกกัน คงจะไม่สร้างบ้านใหญ่โต บ้านหลังนี้เป็นชื่อของอดีตสามี แต่เราคุยกันว่าจะยกบ้านนี้ให้ลูก และวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนเข้าไปเคลียร์กับผู้ใหญ่บ้าน ในฐานะหัวอกผู้หญิงด้วยกัน พอเข้าไปถึงบ้าน ผู้ใหญ่บ้านก็เข้าไปหลบในห้องน้ำ ตนก็ปล่อยผ่านไป

จนกระทั่งวันที่ 27 ธ.ค.64 อดีตสามีกับผู้ใหญ่บ้าน แอบไปจดทะเบียนสมรสด้วยกัน จากนั้นผ่านไป 12 วัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็ไปแจ้งความดำเนินคดีกับตนในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

นางมนธิรา บอกอีกว่า ยืนยันตรงนี้ที่ออกมาพูด “ไม่ได้อยากได้สามีคืน” ส่วนเรื่องการแบ่งสมบัติ ก็ยืนยันว่าไม่ใช่การแบ่ง เพราะตนซื้อในชื่อผู้ชายอยู่แล้ว บางข่าวที่ออกมาบอกว่า ที่ตนไม่ยอมเลิก เพราะสามีรวย ตนอยากบอกว่า ตนก็เป็นผู้หญิงทำงาน ทำงานจนมีทุกวันนี้ เราสร้างมาด้วยกัน

ส่วนที่เขาโพสต์ว่าไม่ได้คบซ้อนนั้น ตนขอยืนยันผ่านสื่อว่า “คุณพ่อกับคุณแม่ฝ่ายหญิง ออกมาบอกว่าลูกสาวคบกันเป็นปีแล้ว”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน