เผย ‘ต๊ะ-แนน-แอนนา’ เข้าข่ายฉ้อโกง-ฟอกเงิน ปมหวยทิพย์-เวียนขายซ้ำ จำหน่ายสลากที่ไม่มีอยู่จริง และขายเกินจำนวนในหลายแพลตฟอร์ม

เมื่อวันที่ 25 พ.ค.65 เพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว เผยถึงความคืบหน้าคดีหวยทิพย์ หลัง นอท กองสลากพลัส แจ้งความเอาผิดต๊ะ บอยสเกาท์ และนายวรินทร วัตรสังข์ หรือแอนนา

โดยระบุว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุมัติหมายจับผุ้ต้องหา 3 ราย จับกุมแล้ว 2 ราย อยู่ระหว่างติดตามตัว 1 ราย ดังนี้

1.นายวินรวีร์ ใหญ่เสมอ หรือต๊ะ บอยสเกาท์ อายุ 48 ปี ทำหน้าที่โฆษณาชักชวน โดยจับกุมได้ที่บ้านพักแขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม. 2.น.ส.มินตรา หรือแนน ขุนสวัสดิ์ อายุ 28 ปี เป็นกรรมการบริหาร โดยสามารถจับกุมที่บ้านพัก และ3.นายวรินทร วัตรสังข์ หรือแอนนา อายุ 37 ปี เป็นกรรมการบริหารและทำหน้าที่โฆษณาชักชวน อยู่ระหว่างติดตามตัว ทราบว่าพักอาศัยอยู่ต่างประเทศ

ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันลักลอบจัดให้มีการเล่นการพนันสลากกินรวบพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยไม่ได้รับอนุญาตโดยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ และข้อหาร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีการเข้าค้นทั้ง 14 แพลตฟอร์ม ที่มีพฤติกรรมจำหน่ายสลากเกินราคาและปิดบังบาร์โค้ด สัญลักษณ์ และสาระสำคัญของของสลากกินแบ่งรัฐบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพบว่ามีการนำสลากมาเวียนขายซ้ำ , จำหน่ายสลากที่ไม่มีอยู่จริง และขายเกินจำนวนในหลายแพลตฟอร์ม จึงเข้าจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มที่หลอกขายสลากที่ตนไม่มีอยู่จริง

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า พฤติการณ์ดังกล่าวมีความผิดตามมูลฐาน ‘ฟอกเงิน’ อีกด้วย โดยจะมีการอายัดทรัพย์สิน เพื่อตรวจสอบที่มาว่าเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายสลากดังกล่าวหรือไม่

ทั้งนี้ ยังมีอีกหลายแพลตฟอร์มที่กระทำความผิดในลักษณะเดียวกัน อยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีทุกราย ซึ่งจะเห็นได้ว่าการปิดบังสาระสำคัญของสลากฯ เป็นเจตนาทุจริต ที่จะปกปิดการกระทำผิด หลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ เพื่อที่จะจำหน่ายสลากเกินราคา นำสลากมาเวียนขายซ้ำ หลอกขายสลากที่ไม่มีจริง หรือขายเกินจำนวน ซึ่งเป็นการกระทำที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายให้กับประชาชนในวงกว้าง ขัดต่อศีลธรรมอันดี และ ความสงบเรียบร้อยของสังคม เจ้าหน้าที่จะได้เดินหน้าปราบปรามอย่างจริงจัง ต่อไป








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน