‘คำผกา’ ติง แนวคิด ‘หมอริท’ คนจนไม่รักษาสุขภาพ ย้ำหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำให้ทุกคนมีศักดิ์ศรีเท่ากัน ชี้มีหลายเหตุผล-ปัจจัยที่ทำให้คนไม่ดูแลตัวเอง

วันที่ 25 ต.ค.65 รายการ “ข่าวจบ คนไม่จบ” อั๋น ภูวนาท และ แขก คำผกา พูดคุยในประเด็น จากว่ายข้ามโขง สู่ดราม่าคนไทยไม่ใส่ใจสุขภาพ หมอก้อง VS หมอริท

คำผกา แสดงความคิดเห็นว่า สิ่งที่ หมอริท ทวีตตอบโต้ โตโน่ กรณีว่ายน้ำข้ามโขงเพื่อหาเงินช่วยเหลือโรงพยาบาล มีประโยคหนึ่งที่บอกว่าสิ่งที่ทำให้หมอพยาบาล ทำงานหนักคือระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งจริงๆแล้วหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ออกแบบมาเพื่อแก้การสงเคราะห์ หรือให้บริการคนจนในลักษณะอนาถา หรือ เตียงอนาถา ซึ่งบริการสุขภาพเป็นหน้าที่ของรัฐ ที่พึงมอบให้กับประชาชนคนไทยทุกคนอย่างเสมอหน้ากัน ไม่ว่าจะรวยหมื่นล้าน หรือมีรายได้ขั้นต่ำ 300 บาท ทุกคนอยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทุกคนมีศักดิ์ศรีเท่ากัน

คำผกา ชี้ว่า ตอนแรกที่ให้จ่าย 30 บาท เพื่อให้รู้สึกว่าเขาเดินมาโรงพยาบาลไม่ได้เข้ามาเอาของฟรี การรักษาพยาบาลเป็นสิทธิ ส่วนตัวมองว่าเป็นการหลุดปากออกมาว่าการประกันสุขภาพถ้วนหน้าทำให้คนจนเข้าถึงการรักษา แต่ไม่เข้าใจว่าปรัชญาของมันคือการดึงให้มนุษย์มีศักดิ์ศรีเท่ากัน

“แต่สิ่งที่หมอริท บอกว่าทำให้คนจนเข้าถึงการรักษาโดยง่าย ทำให้ไม่ดูแลสุขภาพ ไปกินเหล้า ไปสูบบุหรี่ ทำให้จำนวนคนไข้เพิ่ม และทำให้หมอทำงานหนัก ถ้าใช้เหตุผลนี้ ข้าราชการที่รักษาพยาบาลฟรี จะพากันป่วยอย่างงั้นเหรอ กินของที่มีผลกระทบต่อร่างกายอย่างนั้นหรือไม่ ซึ่งเหตุผลนี้ใช้ไม่ได้”

คำผกา วิเคราะห์อีกว่า ต้องไปดูว่ามีปัจจัยอะไร ที่ทำให้คนไม่สามารถมีวินัยในการรักษาสุขภาพได้ เช่น งานวิจัยที่บอกว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ทำให้คนโสด และ อ้วน เพราะมีสวนสาธารณะน้อย เป็นเมืองที่คนเดินไม่ได้ ไม่สามารถทำให้การเคลื่อนย้ายของคนทำได้ด้วยการเดิน หรือ ปั่นจักรยาน คนก็เลยอ้วน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เขาอ้วน ไม่ได้มาจากเขาไม่รักษาสุขภาพ แต่มาจากสิ่งแวดล้อมไม่เอื้อ ให้เขามีสุขภาพที่ดีได้

หรือคนเป็นโรคทางเดินหายใจในช่วง 5 ปี หลังมาจากฝุ่น PM 2.5 ซึ่งปัจจัยที่ทำให้คนป่วยมันเยอะมาก คนรายได้น้อย ที่ไม่มีครัวทำอาหารต้องกินอาการที่มีโซเดียมสูง ซึ่งเสี่ยงต่อการเป็นโรคไต หรือคุณออกจากบ้านตี 5 แล้วกลับถึงบ้าน 5 ทุ่ม จะเอาเวลาที่ไหนไปออกกำลังกาย หรือว่าทำไมคนจนมีเงินแล้วต้องกินเหล้า เพราะเขาไปเที่ยวญี่ปุ่น ไปเที่ยวยุโรปแบบคุณไม่ได้ ไปเที่ยวเขาใหญ่ยังไม่ได้เลย เขาทำงานรายวันถ้าหยุดงาน 1 วันคือไม่มีกิน ดังนั้น 1 ชั่วโมงหลังเลิกงาน ก่อนจะมุดตัวไปนอนให้หลับๆไปก่อนที่พรุ่งนี้จะออกไปแบกหามใหม่ ก็คือสุราสักครึ่งขวดไหม ปัจจัยแบบนี้เคยเอามาคำนวนหรือไม่

คำผกา ชี้ว่า อย่างไรก็ตามหากเราไปก้าวก่ายการกินการอยู่ของคนอื่น คุณจะกลายเป็นฟาสซิสต์ บุคคลที่เที่ยวไปสั่งสอนคนอื่นว่าไม่รู้จักรักดี ไม่รักษาสุขภาพ มีอยู่คนเดียวในประวัติศาสตร์ คือ ฮิตเลอร์ ต่อให้คนคนนั้นเป็นคนไม่มีวินัยเลยแต่เราต้องยอมรับว่าเป็นประเทศเป็นหน่วยสังคมการเมืองที่ประกอบด้วยผู้คนอันหลากหลาย เราบังคับคน 70 ล้านคนไม่ได้








Advertisement

แต่สิ่งสำคัญคือการทำให้คน 70 ล้านคนอยู่ร่วมกันได้พอสัณฐานประมาณ มีสันติสุขประมาณหนึ่ง รักษาไว้ด้วยหลักนิติรัฐ นิติธรรม และเคารพความเป็นคนเท่ากัน และไม่พยายามก้าวก่าย และพิพากษาหรือคิดแทนคนอื่น เพราะเราไม่ใช่เขา ตระหนักไว้อยู่เสมอเพราะทุกคนมีรองเท้าเป็นของตัวเอง

”ทั้งนี้ถ้าเราปล่อยให้วาทกรรมแบบหมอริทขยายตัวออกไปในวงกว้าง ถือเป็นเรื่องอันตราย ที่จะไปสนับสนุนแนวคิดว่าเราไม่ควรมีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพราะสปอยประชาชน เนื่องจากบางคนไม่มีวินัย ปล่อยให้ตัวเองอ้วน ไม่ออกกำลังกาย ถึงเวลาก็กินเหล้า ซึ่งท้ายที่สุดมันมีขบวนการที่จะทำลายนโยบายนี้ได้จริงๆ อีกอย่างมันมีการเมืองมาเกี่ยวข้อง อย่าลืมว่าเรื่องนี้กำเนินขึ้นในยุคของ นายทักษิณ ชินวัตร คือมันเป็นเรื่องซับซ้อนในหลายมิติ พอมีวาทกรรมแบบนี้ออกมา คนเลยบอกว่าพูดแบบนี้ไม่ได้ เพราะผิดในเชิงตรรกะ” คำผกา ทิ้งท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน