คดีลอตเตอรี่ 30 ล้านส่อพลิก กองปราบฯได้หลักฐานเด็ดคลิปเสียงสนทนาแม่ค้าขายหวยกับครูปรีชา มั่นใจรู้ว่าใครเจ้าของตัวจริง พร้อมลงพื้นที่เมืองกาญจน์สอบ พยานที่ให้การว่าเป็นของอีกฝ่ายทั้งหมดแล้ว ผบช.ก. “ฐิติราช” กำชับพนักงานสอบสวนให้ใช้หลักฐานทางด้านนิติวิทยาศาสตร์เป็นหลัก อย่าใช้ความรู้สึกและความเชื่อมาเกี่ยวข้อง มิฉะนั้นคดีอาจเขวได้ พร้อมประสานอัยการร่วมเป็นทีมสอบด้วย ขณะที่ครูปรีชา-หมวดจรูญต่างก็ยืนยันลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เป็น ของตน

จากกรณีคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ข้อพิพาทระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ และนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูโรงเรียนเทพมงคลรังษี ที่ต่างแสดงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์สลากกินแบ่งฯดังกล่าว ต่อมา ผบช.ภ.7 ได้ออกมาแถลงว่าตามพยานหลักฐานก็น่าจะเป็นของนายปรีชา รวมทั้งยังเตรียมแจ้งข้อหากับ ร.ต.ท.จรูญ ในคดียักยอกทรัพย์ที่ตกหาย และรับของโจร กระทั่งพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งโอนคดีมาให้กองปราบปราม ดำเนินการเพื่อให้เกิดความโปร่งใสนั้น

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ก.พ. ที่กองบังคับ การปราบปราม ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการ ตำรวจ พร้อมด้วยทนายความ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รองผบช.ก. พล.ต.ต. ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. และพ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผบก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากไม่เชื่อว่าการสอบสวนของตำรวจในพื้นที่จะให้ความเป็นธรรมได้

ร.ต.ท.จรูญเปิดเผยว่า ครั้งนี้ตนมั่นใจว่ากองปราบปรามจะสามารถให้ความเป็นธรรมกับตนได้ เพราะที่ผ่านมาไม่มั่นใจในการทำงานของตำรวจ บช.ภ. 7 ในหลายๆเรื่อง ทั้งจากการแถลงข่าว ที่จะแจ้งข้อกล่าวหากับตนด้วย ซึ่งก็ทำให้ตนถูกกล่าวหาว่าเป็นคนผิด จนทำให้ไม่เชื่อใจในกระบวนการยุติธรรม อีกทั้งที่ตนก็ไม่มีพยานที่จะมาให้การยืนยันว่า สลากฯที่ถูกรางวัลเป็นของตน อีกทั้งคนขายก็จำตนไม่ได้ เพราะไม่ใช่ลูกค้าประจำ ก็จะทำให้ได้รับความเป็นธรรมได้อย่างไร ส่วนเรื่องที่ตำรวจ บก.ปอท. จะกู้ไฟล์คลิปวิดีโอ และแช็ตไลน์ของตนนั้น ก็ไม่รู้สึกหนักใจ เพราะตนสมัครใจและเป็นคนเสนอให้ทำด้วย ส่วนพยานฝ่ายตนทั้ง 3 ปากที่จะพามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนของกองปราบฯสอบปากคำนั้น ตนให้ทนายเป็นคนจัดการทั้งหมด

ด้านพล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า คดีนี้ทาง บช.ก.จะดำเนินการต่อ เพราะพนักงานสอบ สวนท้องที่เกิดเหตุ อาจจับแผนประทุษกรรมไม่ได้ ซึ่งหลังจากลงพื้นที่สอบสวนก็เริ่มมองอะไรได้ชัดพอสมควร แต่จะยังไม่ลงรายละเอียด แต่พอจะสรุปความผิดพลาดได้ก็คือ 1.เกิดจากผู้ขายลอตเตอรี่ และ 2.จากตัวผู้ซื้อลอตเตอรี่ ซึ่งเข้าใจว่าเชื่อว่าน่าจะมีบุคคลที่ 3 คือมีกลุ่มคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดี ซึ่งทั้ง หมดเราได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ ไว้หมดแล้ว

พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวต่อว่า คดีนี้เราเริ่มต้นจากพยานหลักฐานทั้งสิ้น ไม่ใช้เพียงความ เชื่อเข้ามากำหนดการทำงาน เพราะได้กำชับพนักงานสอบสวนทุกนาย ว่าจะใช้ความเชื่อมาผนวกกับข้อเท็จจริงไม่ได้เด็ดขาด เพราะจะทำให้ข้อมูลการสืบสวนมันเพี้ยน ทุกอย่างต้องเริ่มต้นจากพยานหลักฐานที่มีเท่านั้น เมื่อขั้นที่ 1 ถูก ขั้นที่ 2, 3 ก็ถูก แต่ถ้าเริ่มต้นแล้วไม่แน่ใจว่ามันถูก ต่อไปมันก็จะเลอะเทอะ จนนำไปสู่ความเสียหายในที่สุด

พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวต่อว่า บางทีการวินิจฉัยโรคพลาดก็ทำให้แพทย์ถูกฟ้องได้ เราจึงไม่ต้องการให้พยานหลักฐานมันปนเปื้อน ซึ่งก็ดำเนินการไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่ต้องการเปิดเผย ก็จะขอชี้แจงในบางส่วนก่อน น่าจะทำให้เกิดความสำนึกและคิดได้ ตนพูดรวมๆ ไม่ได้หมายถึงใคร ซึ่งไม่ควรจะต้องมาสาบาน แต่ควรต้องพึ่งกระบวนการยุติธรรมในชั้นศาล เพื่อให้มีคำพิพากษาตัดสินออกมาก่อน เพราะไม่ใช่มีเพียงแค่รายนี้ แต่ยังมีอีก 5-6 รายจากทั่วประเทศ ต่อไปนี้คดีหวยที่เกิดขึ้น ใครที่คิดจะทำไม่ดีจากเรื่องนี้ ก็จะจับกุมดำเนินคดีให้หมด

พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า สำหรับคดีนี้ที่มีพยานถึง 40 กว่าปาก จะให้เวลาพนักงานสอบสวนดำเนินการ ถ้ายังมีใครที่ได้รู้ได้เห็นก็จะเชิญตัวมาให้ปากคำให้หมด การสืบสวนจะต้องมีคำว่าศิลปะการซักถาม ซึ่งต่างจากการสอบสวนที่มานั่งพิมพ์ปากคำ แต่ไม่ได้ข้อเท็จจริงที่ได้จากการซักถามให้ต่อเนื่อง








Advertisement

พล.ต.ท.ฐิติราชยังกล่าวถึงกรณีของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรม ช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่เข้าให้ข้อมูลต่างๆ รวมทั้งคลิปเสียงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นว่า ตนไม่ทราบว่านายอัจฉริยะไปได้ข้อมูล ดังกล่าวจากที่ไหน แต่พยานหลักฐานต่างๆ ต้องอ้างจากสิ่งที่เป็นวิทยาศาสตร์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ สิ่งที่มันยังแกว่ง ไม่นิ่ง พนักงานสอบสวนต้องไม่ไปยึดถือ เพราะจะทำให้แกว่งตามไปด้วย เพราะวิทยาศาสตร์มันเป็นเรื่องที่เชื่อถือได้ ถูกก็คือถูก ผิดก็คือผิด ยืนยันว่าจะทำเรื่องนี้ให้จบและพร้อมจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ความเป็นธรรม ไม่ต้องร้องขอ

“เรื่องนี้จะมีบทลงโทษอย่างไรนั้น ใครทำผิดก็ต้องรับผิดไป บ้านเมืองมีกฎหมาย ก็ต้องใช้กฎหมาย และยังมีเรื่องกฎแห่งกรรม ต้องรู้ตัวเองว่าทำอะไรลงไป ทำแล้วก็ต้องรับผิดชอบ ทำไม่ดีก็ต้องรับผิดไป” ผบช.ก.กล่าว

พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวอีกว่า ตนยังไม่ทราบว่า วันนี้ร.ต.ท.จรูญ จะให้ข้อมูลหรือหลักฐานอะไรกับพนักงานสอบสวนบ้าง ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่ที่กล่าวมาก็คือหลักการรวบรวมหลักฐานต่างๆ จะน่าเชื่อถือหรือไม่ ก็น่าจะขึ้นอยู่กับหลักฐานที่เป็นวิทยาศาสตร์ รองลงมาก็หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ วัตถุพยาน พยานเอกสาร พยานบุคคล ก็ไล่เรียงลงไปว่าสิ่งไหนจะเชื่อถือได้มากที่สุด ส่วนที่ตำรวจ บช.ภ. 7 แถลงข่าวไปนั้น คงเป็นขั้นตอนการทำงานของตำรวจที่รับเรื่องไว้ตั้ง แต่แรก ซึ่งก็เป็นวิธีการทำงานอย่างหนึ่ง ไม่อยากจะตำหนิใครทั้งสิ้น เพราะเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะทุจริต แต่อาจเป็นเพราะความเชื่อก็เป็นได้

พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวด้วยว่า ตนไม่ได้รู้สึกหวั่นใจอะไรว่าคดีนี้ จะไปเหมือนกับกรณีของครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร แต่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก ท้าทายความรู้ความสามารถของคณะพนักงานสอบสวน ที่ต้องให้เวลาในการทำงานไปก่อน ส่วนจะลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี หรือไม่ ตนยังไม่ขอเปิดเผย สำหรับพยานสำคัญในคดีตนอาจสอบปากคำด้วยตนเอง ซึ่งก็ต้องมีพยานสำคัญในคดีนี้อย่างแน่นอน แต่จะเป็นครูปรีชา หรืออดีตข้าราชการหรือไม่ ยังไม่ขอเปิดเผย

ด้านนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่า จนถึงตอนนี้น่าจะหมดเวลาของครูแล้ว เพราะหลักฐานที่ตนนำมามอบให้กองบังคับการปราบปรามนั้นเป็นหลักฐานสำคัญ ที่สามารถจะเปิดเผยเบื้องหลังขบวนการนี้ลงได้ ซึ่งเป็นหลักฐานที่มีทั้งคลิปเสียง ภาพ และไทม์ไลน์ ที่ลำดับเหตุการณ์สำคัญๆ ของเรื่องได้ทั้งหมด รวมทั้งยังพยานปากสำคัญที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ

นายอัจฉริยะกล่าวว่า คลิปที่ตนนำมานั้นเป็นคลิปเสียงของนายปรีชา มีปากเสียงกับแม่ค้าขายลอตเตอรี่ ว่า “เธอไม่ได้เอามาให้ฉัน” ซึ่งทางแม่ค้าก็ตอบกลับไปว่า “หนูเอาให้ครูไปแล้ว” เป็นคลิปที่เกิดขึ้นหลังจากวันที่หวยออก นอกจากนี้ ตำรวจกองบังคับการปราบปราบการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรม ทางเทคโนโลยี ก็กำลังกู้ไฟล์กล้องวงจรปิด โดยในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะมีความชัดเจน เชื่อ ว่าหลังจากนี้ก็จะมีการเชิญครูปรีชา รวมทั้งแม่ค้าลอตเตอรี่มาเข้าเครื่องจับเท็จได้อีกด้วย โดยตนมั่นใจกับหลักฐานที่นำมานั้นถูกต้องและเป็นธรรมทุกอย่าง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การสรุปสำนวนการสอบสวนของตำรวจภูธรภาค 7 นั้น ไม่ได้นำรายละเอียดการสืบสวนสอบสวนของกองปราบฯไปรวมในสำนวนด้วย โดยเฉพาะประเด็นการแกะรอยทางเทคโนโลยีที่ พ.ต.อ. ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พร้อมทีมงานประสานการสืบสวนร่วมกับ พ.ต.อ. สุมรภูมิ ไทยเขียว ผกก.กลุ่มงานสนับสนุน บก.ปอท. ได้ร่วมกันสืบสวนไว้ ดังนั้นการสรุปสำนวนครั้งนี้ชุดสืบสวนสอบสวนของกองปราบฯ จะนำรายละเอียดทั้งสองส่วน คือทั้งของ บช.ภ.7 ที่ปรากฏพยานบุคคลรายใหม่ และของกองปราบฯ มารวมกันและหาข้อเท็จจริงอีกครั้งว่าคดีนี้ใครเป็นเจ้าของสลากที่แท้จริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ฐิติราชยังได้ประสานให้นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ สำนักงานชี้ขาดคดี สำนักงานอัยการสูงสุด เข้ามาเป็นที่ปรึกษากฎหมายของคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนด้วย เพื่อให้คดีเกิดความเป็นธรรมมากที่สุด ทั้งนี้ พล.ต.ท. ฐิติราช ยังได้ย้ำให้ชุดสืบสวนให้ความสำคัญกับข้อกฎหมายและหลักฐานที่ปรากฏทางนิติวิทยาศาสตร์มากกว่าพยานที่เพิ่มขึ้นมาภายหลัง อย่างไรก็ตาม หากได้รับสำนวนจากตำรวจภูธรภาค 7 มาอย่างเป็นทางการแล้ว ก็ให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบคำให้การของพยาน หากจะต้องสอบปากคำเพิ่มก็จะต้องเดินทางไปสอบอีกครั้ง เพราะหากพบว่าพยานให้การไม่ตรงกับความเป็นจริง อาจจะเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายได้

เมื่อเวลา 07.30 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าว เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 143/22 หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อขอพบนายปรีชา ใคร่ครวญ ขอสัมภาษณ์กรณีผบ.ตร. มีคำสั่งโอนคดีกรณีหวย 30 ล้านจากกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 ไปให้ตำรวจ กองปราบปรามดูแลคดีแทน เมื่อไปถึงพบว่าประตูเหล็กหน้าบ้านนั้นล็อกกุญแจเอาไว้ ส่วนกำแพงบ้านนั้นทาด้วยสีชมพู สำหรับตัวบ้านเป็นบ้านหลังขนาดใหญ่สูง 2 ชั้น ปลูกบนเนื้อที่ประมาณ 1-2 งาน ส่วนภายในบริเวณบ้านนั้นมีรถยนต์กระบะจอดอยู่จำนวน 2 คัน

นายปรีชากล่าวว่า กรณีผบ.ตร.มีคำสั่งโอนคดีไปให้กองบังคับการปราบปรามดูแลคดีแทนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นั้น ยินดีและยินดีทุกเรื่อง เพราะเป็นกระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งก็ยินดีที่จะไปทุกที่ เพราะเรามีความเชื่อมั่นในความจริง ดังนั้นไม่ว่าที่ไหนก็ไปได้ ขอยืนยันว่าไม่ได้มีความกังวลหรือหนักใจอะไรทั้งสิ้น แต่กลับรู้สึกสบายๆ และทำให้สบายใจด้วย ของจริงจะไปที่ไหนก็คือของจริงและของแท้ เราไม่ได้กลัวอะไรเลย และมั่นใจในสิ่งที่เรามีอยู่ มั่นใจ ในความเป็นจริง และจะเดินตามรอยความเป็นจริงไป

เมื่อถามว่ากรณีที่นายอัจฉริยะประกาศให้เวลาครูในการกลับใจ นายปรีชาตอบว่า “แล้วนายอัจฉริยะ เป็นใคร ถึงมาบอกว่าจะให้เวลาครู ฝากสื่อไปถามนายอัจฉริยะหน่อยว่า ทำไมต้องมาให้เวลาคุณครู นายอัจฉริยะเป็นศาลหรือ ขอให้เขาเตรียมหลักฐานของเขาที่มีอยู่เข้าสู่กระบวนการของศาลจะดีกว่า เพราะว่าตอนนี้ ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แถลงออกมาแล้วว่าลอตเตอรี่นั้นเป็นของครู ซึ่งเราต้องเคารพเรื่องของกฎหมาย ครูพูดถูกจริงไหมครับ”

นายปรีชากล่าวว่า ฝากสื่อมวลชนไปบอกนายอัจฉริยะด้วยว่า คุณครูไม่ได้มีอะไร แต่ว่าคุณครูเชื่อมั่นในสิ่งที่เรามี ถ้าเขามีอะไรก็ให้ไปพูดในกระบวนการของศาล และทำไมเขาต้องมายื่นโนติสว่า คุณครูต้องไปพบเขากี่โมง ขอฝากไปว่าตอนนี้กำลังเข้าสู่กระบวนการของศาลแล้ว เพราะว่าภาค 7 ก็ได้แถลงข่าวออกมาเรียบร้อยแล้ว และฝากบอกนายอัจฉริยะด้วยว่า ทำไมครูต้องไปแสดงตัวกับเขา และเมื่อเขาบอกว่าเขามีหลักฐานก็ขอให้แสดงออกมา ซึ่งครูก็ไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวถามว่าขวัญและกำลังใจขณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง นายปรีชาตอบว่าขวัญและกำลังใจก็ยังคงเป็นปกติ ของจริงต้องปกติ แต่ถ้าของไม่จริงก็คงจะต้องวิ่งไปวิ่งมา จริงไหมครับ และถามว่าหากวันข้างหน้าคดีพลิกกลับไปทางร.ต.ท.จรูญ จะทำอย่างไร ตอบว่าภาพในอนาคตไม่ต้องไปคิด เอาปัจจุบันนี้ ให้ดีก็พอ ให้เราเดินไปตามสิ่งที่เรามี และสิ่งที่เราเป็น ความเชื่อมั่น ความเชื่อถือกับสองหลักที่ครูเคยบอกคือความเชื่อ กับความจริง จึงขอให้สังคมได้แยกแยะระหว่างความเชื่อกับความจริง และถึงขณะนี้ครูก็ยังมีความเชื่อมั่นว่าลอตเตอรี่นั้นเป็นของครูอย่างแน่นอน 100%

รายงานข่าวระบุว่า สำหรับหลักฐานสำคัญที่ทีมสืบสวนกองปราบฯรวบรวมมาได้นั้น เป็นคลิปเสียงการสนทนากันระหว่างนาง รัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ อายุ 58 ปี แม่ค้า ขายสลากฯที่ถูกรางวัล โทรศัพท์ไปหานายปรีชา รวม 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. วันที่ 1 พ.ย.2560 ซึ่งเป็นวันและเวลาหลังจากที่ทราบผลสลากในงวดดังกล่าวแล้ว โดยในคลิปเสียงมีใจความสำคัญคือ นางรัตนาภรณ์ ได้โทร.ไปบอกนายปรีชา ด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริงว่า นายปรีชาถูกรางวัลที่ 1 เพราะจำได้ว่าบนแผงของตัวเองมีเลขรางวัลดังกล่าวอยู่ และนายปรีชาน่าจะเป็นคนซื้อไป แต่หลังจากรับโทรศัพท์แล้ว นายปรีชา ปฏิเสธว่าไม่ใช่เลขที่ซื้อ ตนซื้ออีกหมายเลขหนึ่ง ซึ่งในคลิปเสียง นายปรีชายังได้ระบุหมายเลขของตนอย่างชัดเจน

ส่วนหลักฐานคลิปเสียงที่ 2 เป็นคลิปเสียงที่นางรัตนาภรณ์ แม่ค้าสลากฯคนเดิมโทร.หานายปรีชาอีกครั้ง ในเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 2 พ.ย. 2560 ในลักษณะเดียวกัน ซึ่งใจ ความสำคัญคือ เป็นการย้ำว่านายปรีชาถูกสลากดังกล่าว แต่นายปรีชาก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ถูกรางวัลเช่นเดียวกับครั้งแรก อย่างไรก็ตาม นางรัตนาภรณ์ พยายามย้ำลักษณะยัดเยียดว่านายปรีชาเป็นคนถูกรางวัล แต่นายปรีชาก็ปฏิเสธมาตลอดพร้อมกับย้ำหมายเลขที่ตนเองเป็นคนซื้อมาด้วย ทั้งนี้ทั้งสองคลิปตำรวจกองปราบฯ จะนำเข้าสำนวนการสอบสวนเพื่อเป็นหลักฐานในการพิจารณาคดี เพราะเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่อาจปฏิเสธได้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ชุดสืบสวน กก.5 บก.ป. เริ่มตรวจสอบคำให้การของพยาน ในคดีที่เป็นพยานใหม่ในสำนวนที่ตำรวจภูธรภาค 7 รวบรวมไว้ โดยพยานดังกล่าวระบุว่า เห็นสลากหมายเลขดังกล่าวโผล่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อของนายปรีชา ขณะเดินสวนกันในตลาดเรดซิตี้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ใกล้แผงขายลอตเตอรี่และยังขอแบ่งซื้อสลากดังกล่าว แต่นายปรีชาไม่ยอมแบ่งขายให้นั้น ซึ่งก็เป็นพยานสำคัญที่ทำให้ตำรวจบช.ภ. 7 ให้น้ำหนัก จนนำไปสู่การสรุปว่านายปรีชา เป็นเจ้าของสลากที่แท้จริง

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า จากการตรวจสอบทางเทคนิคที่กองปราบฯ ร่วมกับตำรวจบก. ปอท. กลับพบว่า พยานคนดังกล่าวขับรถมาจอดที่ตลาดเรดซิตี้ ในเวลาประมาณ 16.48 น. วันที่ 1 พ.ย. 2560 ซึ่งเป็นเวลาหลังจากนายปรีชาออกจากบริเวณตลาดไปแล้ว โดยปรากฏ ตามหลักฐานที่นายปรีชาคุยโทรศัพท์กับนางรัตนาภรณ์ แม่ค้าขายสลากฯอย่างชัดเจน นอกจากนี้ นายปรีชายังให้การด้วยว่า หลังจากรู้ว่าถูกรางวัลที่ 1 ยังได้โทรศัพท์ไปหานางรัตนาภรณ์ด้วย แต่จากการตรวจสอบทางเทคโนโลยีกลับไม่พบว่านายปรีชาโทร.หานางรัตนาภรณ์ในช่วงดังกล่าวแต่อย่างใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน