เพจดัง วิจารณ์ปม ครูกล้อนผม ชี้ทรงผมนักเรียน ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ย้ำไม่ได้มีผลกับการศึกษา ไม่ได้ทำให้ใครโง่หรือฉลาด

เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อมีคลิปวิดีโอครูรายหนึ่ง ในจ.เพชรบูรณ์ กล้อนผมนักเรียนระหว่างเข้าแถว ว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม

ต่อมา น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ว่า เห็นคลิปแล้ว ยอมรับว่าการกระทำดังกล่าวมีความไม่เหมาะสม พร้อมสั่งการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงในการกระทำของผู้อำนวยการโรงเรียนและครูชายรายดังกล่าว หากพบว่าไม่ถูกต้อง ก็จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยด่วนต่อไป

ด้าน เพจ เลี้ยงลูกนอกบ้าน แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ว่า กระทรวงศึกษากับเรื่องทรงผม ปัจจุบันกระทรวงศึกษาได้ออกมายกเลิกกฎกระทรวงเกี่ยวกับทรงผมนักเรียน แต่โยนไปให้เป็นการตัดสินใจของแต่ละโรงเรียน

ซึ่งฟังดูเหมือนจะดี ที่กระทรวงศึกษากำลังทำให้เห็นว่า ไม่ได้ให้ความใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องทรงผมแล้ว
แต่ปัญหาคือกระทรวงศึกษากำลัง “โยนอำนาจ” การตัดสินใจ ไปให้ที่โรงเรียน

ซึ่งโรงเรียนหลายที่ ไม่ได้มีการ “รับฟังความคิดเห็นของเด็ก” อยู่ในสมการ ของการออกกฏกติกา
ปัญหาการใช้ “อำนาจนิยม” บนทรงผมของนักเรียน โดยไม่มีกฎกระทรวงรองรับ อาจจะกำลังกลับมา

เวลาที่พูดกันเรื่องทรงผมในโรงเรียน ครูหลายคนอาจจะเข้าใจว่า ผมทรงนักเรียน = มีวินัยที่ดี เพราะเราก็เติบโตมากับความเชื่อที่เป็นแบบนั้น

แต่จริงๆแล้ว วินัยที่ดี คือ การควบคุมตนเอง “จากภายใน” เพื่อจะทำสิ่งที่ควรทำ และไม่ทำสิ่งที่ไม่ควรทำ ด้วยความเข้าใจถึงความสำคัญของกฏ กติกา ที่สร้างขึ้นมาให้เราอยู่ร่วมกัน

กฏ กติกาที่ดี คือ กฏที่ช่วยทำให้เราไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ไม่ละเมิดสิทธิใคร ทั้งกับตัวเอง ผู้อื่น หรือสังคม

วินัยที่ถูกควบคุมโดยความรุนแรงภายนอก ไม่ว่าจะเป็นการตี การดุด่า การจับกล้อนผม เป็นวินัยที่สร้างด้วยความหวาดกลัว ซึ่งนั่น เราไม่เรียกมันว่า “วินัยที่แท้จริง”

การฝึกวินัยในโรงเรียน ฝึกได้ในหลายอย่าง ทั้งการมาเรียนตรงเวลา การเข้าแถวซื้ออาหาร การไม่รบกวนกันในห้องเรียน การส่งการบ้านที่ได้รับมอบหมาย การไม่ล้อ แกล้ง รังแก เพื่อน ฯลฯ

การฝึกวินัยเหล่านี้ สร้างขึ้นด้วยการทำให้เด็กๆ เข้าใจ ว่ากฏกติกาเหล่านี้ เกิดขึ้นด้วยเหตุผลอะไร และให้พื้นที่เด็กๆ ฝึกการ “ควบคุมตนเอง”

ทรงผมของนักเรียน เอาจริงๆ ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ไม่ได้มีผลอะไรกับการศึกษา ไม่ได้เป็นเครื่องบอกเรื่องวินัย ไม่ได้ทำให้ใครโง่หรือฉลาด

ทรงผมของนักเรียน จริงๆ คือ “สิทธิ” ในเนื้อตัวร่างกายของนักเรียน ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของการเป็นมนุษย์

ทรงผมของนักเรียน ทำให้นักเรียนรู้จักตัวเอง ว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เราคือใคร และเรารักตัวเองในรูปแบบไหน

กฏระเบียบที่มากมายเรื่องทรงผม ไม่ได้ทำให้เกิดวินัย แต่ทำให้เกิดการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมในโรงเรียน

ปัญหาเรื่องการบังคับตัดผมนักเรียน ไม่ใช่ปัญหาเล็ก เพราะนอกจากจะบั่นทอนตัวตน ทำให้เกิดความอับอาย ทำให้รู้สึกไร้อำนาจ ส่งผลกับสุขภาพจิตของนักเรียน มันยังส่งเมสเสจสำคัญ “การใช้อำนาจเหนือเนื้อตัวร่างกายของผู้อื่น” และนั่น… คืออำนาจนิยม ที่บ่มเพาะปัญหาความรุนแรงการแกล้ง รังแกกัน รวมไปถึงการต่อต้านผู้ใหญ่ในรั้วโรงเรียน

“การรับฟัง” ในความต้องการของกันและกัน
“การตั้งคำถาม” ในเรื่องบางอย่างที่เรายึดถือ
“การเปิดพื้นที่ทดลอง” เพื่อมองหาทางออกร่วมกัน
“การเคารพ” ในสิทธิเนื้อตัวร่างกาย และสิทธิมนุษยชน

และ กระทรวงศึกษา ที่ออกกฏกติกาชัดเจน ว่าจะ “ไม่ยอมรับ” กับการละเมิดในสิทธิเนื้อตัวร่างกายของนักเรียน จึงมีความสำคัญ ต่อการแก้ปัญหาเรื่องระเบียบทรงผม ในรั้วโรงเรียน

เพราะโรงเรียนควรเป็นที่ๆ เด็กๆ มีความสุขในการเรียนรู้ การได้รู้จัก รักและเคารพตัวเอง ซึ่งสามารถเริ่มจากเรื่องง่ายๆ “การไม่ละเมิดสิทธิในร่างกายของกันและกัน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน