เตือนใจสายฉีด! น้องมะลิ เน็ตไอดอลสาว เปิดใจ หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มกับหมอกระเป๋า ทำอักเสบทั้งหน้า หวิดดับ-ตาบอด ใครคิดจะทำต้องเช็กให้ดี

ความสวยความงามมักอยู่คู่กับผู้หญิงเสมอ ยิ่งอาชีพที่ต้องใช้หน้าตาเป็นส่วนเกี่ยวข้อง หมั่นดูแลความสวยอยู่เสมอ หลายคนพึ่งพาการฉีดสารตกแต่งใบหน้า เพื่อความงามที่เห็นผลเร็ว อย่างไรก็ตาม เราควรศึกษาข้อมูลและเลือกสถานที่ที่ไว้ใจได้ ไม่เช่นนั้นอาจมีผลเสียตามมาอย่างเช่นเน็ตไอดอลสาวสาวคนนี้

เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 66 น้องมะลิ เน็ตไอดอลสาวได้ออกมาเผยภาพใบหน้าของเธอที่อักเสบ บวม แดง บางส่วนลอก บางส่วนก็อักเสบจนมีลักษณะคล้ายสิว ซึ่งบริเวณที่อักเสบลามไปจนเกือบครึ่งหน้า ทำให้ใบหน้าเสียโฉมอย่างหนัก

โดยมะลิได้เล่าถึงที่มาของอาการครั้งนี้ว่า ในวันที่ 17 มี.ค. เธอได้ฉีดฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้มทั้งสองข้าง หลังฉีดเสร็จไม่ถึงชั่วโมง เริ่มมีรอยช้ำขึ้นที่หน้าแก้มฝั่งขวา และแสบโพรงจมูกขวา น้ำมูกไหลไม่หยุด

ต่อมา เธอเดินทางไปโรงพยาบาลให้แพทย์ดูอาการ เพราะแสบโพรงจมูกมากขึ้น น้ำมูก-น้ำตาด้านขวาไหลไม่หยุด แพทย์ให้ยาทานตามอาการ เพราะไม่สามารถระบุสาเหตุได้ และวันรุ่งขึ้น อาการแย่ลงกว่าเดิม ใบหน้าเริ่มบวม ปากบวม มีแผลในปากหลายจุด และเหมือนมีสิวขึ้นเล็กน้อย

เช้าวันที่ 20 มี.ค. เธอรีบพบแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังที่รู้จัก ชื่อว่า หมอลิงค์ ซึ่งทันทีที่หมอลิงค์เห็น ก็ทราบทันทีว่าอาการที่เป็นทั้งหมดคือ “ฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด” ซึ่งอันตรายมาก ๆ เนื่องจากฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันเส้นเลือด ทำให้เลือดไม่ไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงจุดต่าง ๆ ได้

นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงฟิลเลอร์จะไหลเข้าตาสูง เนื้อเยื่อตายบริเวณที่เลือดไม่ไปเลี้ยง และส่วนที่เธอมองว่าเป็น “สิว” ที่แท้คือ “หนอง” ที่เกิดจากการอักเสบขั้นรุนแรง เธอได้ทำการรักษาฉีดสลายฟิลเลอร์ ฉายแสงลดการอักเสบและสมานแผลบนผิว ให้ยาฆ่าเชื้อทางหลอดเลือด และถูกส่งเคสไปให้ทางโรงพยาบาลรามาธิบดีดูแลต่อ

การฉีดฟิลเลอร์ครั้งนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ เธอเคยฉีดฟิลเลอร์มาหลายครั้ง แต่ฉีดสลายฟิลเลอร์นั้นเจ็บกว่ามาก ช่วงแรกที่เกิดอาการอักเสบส่งผลต่อสภาพจิตใจมาก ๆ ยอมรับว่ามีคิดสั้นบ่อยครั้ง เพื่อที่จะไม่ต้องทนเจ็บต่อไปอีกแล้ว

ส่วนคนที่ฉีดฟิลเลอร์ให้กับเธอนั้น ไม่ใช่หมอแต่เป็นพยาบาล ซึ่งหากเธอรักษาอาการของตัวเองเรียบร้อยจะรีบดำเนินคดีทันที เธอจึงแชร์ประสบการณ์ของตัวเอง เพื่อเตือนเป็นอุทาหรณ์ ผู้ที่รับฉีดฟิลเลอร์ต้องเป็นหมอจริง ๆ เช็กให้มั่นใจ อย่าชะล่าใจเด็ดขาด เพราะเวลาพลาดจะเจ็บหนักอย่างที่เธอเป็น

ต่อมา มะลิ ได้เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ว่า ตนไปฉีดฟีลเลอร์บริเวณร่องแก้มทั้ง 2 ข้าง กับหมอที่สนิท ในราคาไม่ถึง 20,000 บาท เธอยอมรับว่าตอนแรกไม่ทราบว่าคนที่ฉีดนั้น เป็นเพียงแค่พยาบาล หรือหมอกระเป๋า แต่ก่อนหน้านี้เคยฉีดกับหมอกระเป๋าคนนี้อยู่หลายครั้งแล้วไม่มีปัญหาอะไร จึงฉีดต่อมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งครั้งล่าสุดที่เจอแจ็กพอต

สำหรับค่าเสียหายในการรักษาหน้าครั้งนี้ เธอหมดไป 3 แสนบาท ซึ่งกว่าจะหาย สภาพจิตใจก็ย่ำแย่มาก จึงอยากให้สาว ๆ ที่รักสวยรักงามดูเคสของตัวเองเป็นกรณีตัวอย่างว่า อย่าตัดสินใจทำสวยเพียงเพราะราคามันถูก อย่างกรณีของตนรู้ทั้งรู้ว่าเป็นหมอกระเป๋าก็ยังชะล่าใจให้ฉีดมาเรื่อย ๆ จนเกิดผลเสียแบบนี้

“เรารักษาใบหน้าของตัวเองไปทั้งหมด 3 แสนบาท ซึ่งกว่าจะหาย สภาพจิตใจก็ย่ำแย่มาก เกือบฆ่าตัวตายในช่วงแรก เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าไม่สามารถไปพบเจอใครได้ไม่สามารถทำงานได้เหมือนเดิม เพราะงานของตัวเองต้องใช้ใบหน้าในการทำงาน แต่โชคดีที่คนรอบข้างให้กำลังใจดี

เราก็รักษามาเรื่อย ๆ แต่ไม่รู้ว่าใบหน้าจะกลับมาหายเป็นปกติเหมือนเดิมหรือไม่ ซึ่งเราก็ได้คุยกับหมอกระเป๋าที่ฉีด ว่าจะต้องจ่ายเงินชดเชยให้ทั้งหมด 5 แสนบาท โดยเขาก็บอกว่าจะผ่อนจ่าย เพราะเขาเองก็มีภาระเยอะเหมือนกัน ตอนนี้เราจึง เตรียมทนายความ ร่างสัญญาการจ่ายเงินค่าชดเชยไว้แล้ว “

ขอบคุณที่มา Mali Kanjanaphuping

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน