โอละพ่อ สาวเลือดท่วมกายแจ้งตำรวจถูกแท็กซี่ทำ ร้ายและชิงทรัพย์ ตำรวจเช็ก กล้องวงจรปิดไม่พบเหตุการณ์ตามที่แจ้ง สอบเค้นจนยอมรับสารภาพว่าที่แท้กุเรื่องหนีหนี้เพื่อน แถมเครียดกับปัญหาชีวิตที่รุมประดังประเด เลยคิดไม่ตก หาทางออกไม่เจอจึงทำไป เพราะอารมณ์ชั่ววูบ ด้านพนักงานสอบสวนเตรียมดำเนินคดี 2 ข้อหา แจ้งความเท็จกับความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มีโทษถึงจำคุกและปรับ

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 ก.พ. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต. ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ภาสกร รัตนปนัดดา ผกก.สน.ลาดพร้าว พ.ต.ท.ธีรยุทธ ใหม่แปง รอง ผกก.สส.สน.ลาดพร้าว พ.ต.ท.ไอยรา อากาศวิภาต สว.สส.สน.ลาดพร้าว แถลงผลการสืบสวนสอบสวนพิสูจน์ความจริงในกรณีที่ น.ส.ทองประกาย สุขศรีราษฎร์ อายุ 26 ปี มาแจ้งความที่ สน.ลาดพร้าวว่า ถูกผู้ขับขี่รถแท็กซี่ชิงทรัพย์และใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกาย

พล.ต.ต.ธีระพงษ์ เปิดเผยว่าฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต้องสงสัยว่าเป็นสถานที่เกิดเหตุแล้ว ไม่พบรถแท็กซี่ ต้องสงสัย ตามที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความไว้ อีกทั้งเมื่อไล่ภาพจากจุดที่ขึ้นรถไปยังที่พักคอนโดมิเนียมย่านถนนเสรีไทย พบว่า ผู้เสียหายได้โดยสารมากับรถแท็กซี่จริง แต่ตรงไปยังที่พัก ไม่ได้แวะพักจอดรถที่ใดทั้งสิ้น อีกทั้งหลังลงจากรถผู้เสียหายก็เดินเข้าไปในที่พักเพียงคนเดียว จากนั้นประมาณ 30 นาที จึงปรากฏมีเพื่อนของผู้เสียหาย เดินตามเข้าไป ก่อนพากันมาแจ้งความกับตำรวจ

ขณะที่ผลการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ เสียหายยอมรับแล้วว่าเป็นคนกุเรื่องขึ้นมา ส่วนบาดแผลที่เกิดขึ้นเกิดจากการทำร้ายตัวเองด้วยที่ถอนคิ้ว ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น พนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว เตรียมแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จและเจ้าหน้าที่สืบสวน สน.ลาดพร้าว ได้สืบค้นข้อเท็จจริงและสอบสวน น.ส. ทองประกายยอมรับว่าการแจ้งความที่ สน. ลาดพร้าว ว่าถูกแท็กซี่ชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกายนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เนื่องจากตนเองมีปัญหาครอบครัวและเกิดความเครียดจึงได้สร้างเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

พ.ต.อ.ภาสกรกล่าวว่าเหตุการณ์ตามที่ แจ้งความดังกล่าวนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจริง ประกอบกับมีพยานหลักฐานและพยานบุคคล การพูดคุยกับน.ส.ทองประกายแล้วก็ให้การยอมรับว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งทางพนักงานสอบสวนสน.ลาดพร้าว จะดำเนินคดีรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับ 5,000 บาท และนำข้อความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตามพ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท

น.ส.ทองประกายกล่าวว่า เหตุผลที่ทำ ลงไปเพราะเกิดจากความเครียด ไม่อยากอยู่คนเดียว เครียดเรื่องครอบครัวยายขาหักเข้าโรงพยาบาล แม่ต้องดูแลยาย เครียดเรื่องลูก เพราะไม่มีใครดูแล และเครียดเรื่องเงินต้องดูแลลูกไม่มีใครจะหาเงินให้ลูก ไม่สามารถระบายให้แม่ฟังได้ กลัวจะเครียด และก็หลายๆ เรื่องที่เข้ามา บางเรื่องพูดได้ บางเรื่องก็พูดไม่ได้ ไม่รู้จะระบายให้ใครฟัง วันนั้นที่ไปเที่ยวไม่ได้กินเหล้าและไม่ได้อัพยาอย่างที่เป็นข่าว โดยกลุ่มเพื่อนก็หารค่าใช้จ่ายกัน

“ส่วนบาดแผลนั้นลงมือทำตัวเอง สาเหตุที่ใช้วิธีนี้ตอนนั้นคิดเพียงแค่ว่าหาทางออก ไม่ได้ เป็นหนี้เพื่อนที่จะโอนเงินให้แต่ก็คุย กับเพื่อนที่เป็นหนี้มาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ทำงานขายเครื่องสำอางและเคยเป็นพีอาร์ ร้านอาหารอาลาดิน กรณีที่แจ้งความเราก็บอกเพื่อนไปโดยที่เพื่อนคิดว่าเป็นเรื่องจริงจึงได้แจ้งความ ตอนนั้นรู้สึกเครียดไม่รู้ตัวเองว่า คิดอะไรอยู่ ไม่คิดถึงผลกระทบที่ตามมา อยากจะขอโทษสังคมขอโทษแท็กซี่ที่ทำ ให้เสียหาย รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องด้วย” น.ส.ทองประกายกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมยกมือไหว้ขอโทษกับกรณีที่เกิดขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน