อีกแล้ว แท็กซี่ ตรอกข้าวสาร เปิดไฟว่างแต่ไม่รับผู้โดยสาร ซ้ำ เปิดกระจกมาด่าด้วย สาว เผย โบกเรียกกว่า 20 คัน แต่ไม่คันไหนรับเลย
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชวนงงและสงสัย เมื่อมีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง โพสต์เรื่องราวที่แท็กซี่ไม่รับ พร้อมระบุว่า “ทำใจ ตรอกข้าวสาร เมาไม่ขับ กลับบ้านไม่ได้แท็กซี่ไม่รับ แถมด่าด้วย บอกกลับบ้านแต่เปิดไฟเขียว 55 เขาเปิดไฟเขียวรออะไรกันเพื่อน ๆ ลองทายมา” หลังจากคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไปต่างมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
แท็กซี่ ตรอกข้าวสาร เปิดไฟว่างแต่ไม่รับผู้โดยสาร ซ้ำ เปิดกระจกมาด่าด้วย สาว เผย โบกเรียกกว่า 20 คัน
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 29 พ.ค.2566 น.ส.รัตติยา (ขอสงวนนามสกุล) เปิดเผยกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ ว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้นัดกับเพื่อนไปดื่มแถวตรอกข้าวสาร จึงไม่ได้เอารถไป ตอนกลับจึงออกมาเรียกรถแท็กซี่ตรงหน้าซอยเพื่อจะนั่งรถกลับไปแถวเดอะมอล์งามวงศ์วาน ซึ่งบริเวณนั้นมีแท็กซี่จอดอยู่หลายคันและสังเกตเห็นว่าส่วนมากจะเป็นไฟว่างทั้งหมด แต่ตนเรียกรถมากกว่า 20 คัน แต่ไม่มีคันไหนรับเลยทั้งที่เปิดไฟว่างอยู่
น.ส.รัตติยา กล่าวต่อว่า จึงตัดสินใจถ่ายคลิปวิดีโอไว้เพื่อให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่คิดกำลังจะมาบริเวณนี้ จะได้เตรียมตัวเรียกใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน เพราะว่าแท็กซี่บริเวณนี้ไม่รับเลย อีกทั้งตอนที่ตนเรียกมีแท็กซี่เปิดกระจกมาด่าว่า “ถ่ายคลิปวิดีโอทำควายอะไร” พูดจาไม่สุภาพ
น.ส.รัตติยา กล่าวอีกว่า ซึ่งเรื่องการไม่รับตนไม่ได้คิดมากอะไร แต่ที่เปิดกระจกแล้วมาด่า ตนไม่เข้าใจว่าการทำงานบริการถ้าไม่อยากรับลูกค้า ก็ควรที่จะปิดไฟไปเลยว่าไม่ว่าง ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าแท็กซี่แถวนี้มีระบบจัดการการบริการกันยังไง แต่ก็อยากให้เขาปรับปรุงตัว
น.ส.รัตติยา กล่าวว่า หลังจากนั้น ตนจึงเดินไปตรงถนนใหญ่ เพื่อจะไปเรียกรถแท็กซี่ที่คิดว่าน่าจะไป แต่พอเดินมาถึงถนนใหญ่ก็มาเจอกลุ่มแท็กซี่จอดอยู่ จึงเดินเข้าไปสอบถามพบว่า แท็กซี่กลุ่มนี้จะคิดค่าบริการเป็นคน ไม่กดมิเตอร์ ซึ่งขณะนั้นตนไปกับเพื่อน 3 คน คิดราคาคนละ 100 บาท ตนจึงไม่ไปและเดินต่อไปอีกเพื่อจะดูแท็กซี่คันอื่น
น.ส.รัตติยา กล่าวด้วยว่า ขณะนั้นมีแท็กซี่มาส่งผู้โดยสารใกล้ ๆ ตนจึงถามแท็กซี่คันดังกล่าวว่า จะให้ไปส่งที่เดอะมอลล์งามวงศ์วานไปไหม ซึ่งแท็กซี่คันดังกล่าวก็บอกว่าไป ตนกับเพื่อน ๆ จึงมีรถกลับมาในคืนนั้น ขณะที่กำลังนั่งรถกลับ ตนได้เล่าให้เหตุการณ์ทั้งหมดให้พี่แท็กซี่ฟัง พี่แท็กซี่จึงบอกว่าขนาดตัวเขาเองก็ไม่ค่อยอยากจะเข้ามารับผู้โดยสารแถวนี้ เพราะถ้าเกิดว่าเข้ามารับก็จะมีปัญหากับแท็กซี่ที่จอดรออยู่
น.ส.รัตติยา กล่าวต่อว่า พอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้มันทำให้ตนไม่อยากขึ้นแท็กซี่อีก ทั้งเรื่องความปลอดภัย ซึ่งคนดี ๆ ก็น่าจะมีแต่ที่ตนเจอมาคือมันทำให้ตนรู้สึกเสียความรู้สึก แต่ต้องขอบคุณพี่คนที่รับตนกลับมา ที่กดมิเตอร์มาปกติแล้วพูดจาดี อาจจะมีแค่บางส่วนที่ทำให้เสียหาย ขอไม่เหมารวม
“อยากให้คำนึงถึงเรื่องการบริการ อยากให้นึกถึงตอนที่ไม่มีลูกค้า ตอนที่เลือกรับไม่ได้ ถ้ารู้สึกว่ามันไม่คุ้มจริง ๆ ที่จะวิ่งไปตรงจุดนี้ ก็อยากให้ไปปรึกษาคมนาคมหรือหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่จะทำให้ระบบดีขึ้น ไม่ใช่คิดว่ามันไม่คุ้มก็เหมาดีกว่า มันควรจะเป็นระบบเดียวกันหมด ซึ่งคนที่ต้องมารับความรู้สึกแย่ ก็เป็นผู้ที่ใช้บริการที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ” น.ส.รัตติยา กล่าว
