เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่เต็นท์กองอำนวยการร่วม ภายในท้องสนามหลวง นายสนิท คงแก้ว วัย 42 ปี ผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่สามารถเดินได้ ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง มาจากบ้านฝาละมี อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง เพื่อถวายสักการะพระบรมศพ กล่าวว่า หลังจากกราบลาพ่อแม่ ตนได้ขี่รถจยย.พ่วงข้างที่เปรียบเสมือนอวัยวะส่วนหนึ่งในชีวิตออกจากบ้านมาตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา แม้พ่อแม่จะเป็นห่วงและกลัวจะยากลำบากเวลาเดินทาง แต่ด้วยความตั้งใจของตน เขาก็ไม่ได้ห้ามอะไร เพราะตั้งใจว่าออกจากบ้านแล้วชาตินี้มีบุญวาสนาจะมาไหว้พระบรมศพสักครั้ง เป็นบุญของคนพิการคนหนึ่ง
นายสนิท กล่าวต่อว่า ตลอดการเดินทางเมื่อถึงช่วงค่ำก็อาศัยนอนที่ป้อมตำรวจ หรือในปั๊มน้ำมันที่ใกล้ห้องน้ำ ไม่มีอุปสรรคทำให้การเดินทางยากลำบากเลย ฝนก็ไม่ค่อยตก หรือถ้าตกก็ตกในช่วงที่ตนถึงที่พักแล้ว ส่วนตัวเชื่อว่า เป็นเพราะพระบารมีของพระองค์ท่านที่ช่วยทำให้การเดินทางในครั้งนี้ราบรื่น และระหว่างทางก็มีชาวบ้านมาช่วยเหลืออยู่เป็นระยะ สำหรับค่าเดินทางตนใช้เงินส่วนตัวเติมน้ำมันไป 450 บาท และมีปั๊มน้ำมัน 4-5 แห่งที่ให้เติมน้ำมันฟรี แล้วจึงค่อยขี่รถมาจนมาถึงที่นี่ในวันนี้
“ตั้งใจไว้ 2 อย่างในการเดินทางมาครั้งนี้ 1.คือได้เคารพพระบรมศพของพระองค์ท่าน และ 2.คือได้รับเสด็จพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์อย่างใกล้ชิด ให้เป็นบุญตาสักครั้งในชีวิต ตอนที่เข้าไปอยู่หน้าพระบรมโกศใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แต่ได้ยกมือไหว้และอธิษฐานว่าถ้าหายจากความพิการจะบวชเป็นพระราชกุศลให้กับพระองค์ท่าน” หนุ่มพัทลุง กล่าวอย่างตื้นตัน
นายสนิท กล่าวต่อว่า ตั้งใจจะมาเคารพพระบรมศพพระองค์ท่าน แม้เป็นคนพิการแต่ใจไม่ได้พิการ และยังสู้เพื่อจะมาไหว้พระองค์ท่าน ระหว่างทางแม้จะกลัวว่าจะถูกรถใหญ่เฉี่ยวชน แต่ด้วยความปลาบปลื้มใจในคำสอนของพระองค์ท่านที่สอนให้เราเป็นคนดี และถ้ามุ่งมั่นทำอะไรแล้วให้ทำให้สำเร็จ เป็นคำที่ตนนำยึดถือในจิตใจ และนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นเหมือนแรงผลักให้ตนได้มาถึงกรุงเพท และถึงพระบรมมหาราชวังแม้ต้องใช้เวลาถึง 8 วันก็ตาม
ทั้งนี้ ตั้งใจจะนำเบี้ยยังชีพคนพิการ 800 บาท รวมกับเงินที่ชาวบ้านในหมู่บ้านฝากมา 1,300 บาท ทำบุญให้พระองค์ท่าน ซึ่งแม้จะเป็นเงินเดือนคนพิการของตนทั้งเดือน แต่ส่วนตัวยังพอมีเงินแหลือใช้อยู่บ้าง ประกอบกับตอนอยู่พัทลุงก็ได้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเปิดหอกระจายข่าวให้ชาวบ้านฟัง และมีเครื่องเสียงชุดเล็กๆให้เช่าคืนละ 800 บาท ก็พอมีเงินใช้อยู่บ้าง แม้ช่วงนี้ไม่ค่อยมีใครมาเช่าเครื่องเสียงก็ตาม หรือบางเดือนก็ไม่มีงานอะไรเลย
“คิดว่าจะอยู่กรุงเทพอีก 2 วัน และจะกลับในวันที่ 2 พ.ย. ที่จะถึงนี้ ส่วนคืนนี้มีคนแนะนำที่นอนให้แล้ว แต่ตนทิ้งรถไม่ได้ เพราะเป็นเหมือนแข้งกับขา จึงจะจอดรถและนอนให้ใกล้กับรถมากที่สุด โดยหลังจากนี้ถ้ามีโอกาสจะขึ้นมาที่กรุงเทพอีก แต่จะมาเองโดยขี่จยย.มาอย่างนี้แหละ ถ้ามีคนชวนขึ้นรถทัวร์มา ก็ไม่อยากมากับเขา กลัวเป็นภาระของพวกเขา” พี่สนิท กล่าวพร้อมทิ้งท้ายว่า ดีใจมาก ตอนนี้อยู่ที่กรุงเทพแล้ว อยู่ที่พระบรมมหาราชวังแล้ว
