ตะลึง! วิหารซานติอาโก โบราณสถานยุคอาณานิคม 400 ปี โผล่ขึ้นเหนือน้ำ เหตุภัยแล้งโจมตีเม็กซิโก
สำนักข่าวต่างประเทศ เกิดเหตุการณ์โบสถ์คาทอลิกที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 16 ปรากฏขึ้นกลางแม่น้ำในเม็กซิโก สร้างความตื่นตะลึงให้กับชาวบ้านและดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้มาเยี่ยมชม
เนื่องจากผลกระทบของความร้อนที่ยาวนาน หลายพื้นที่ของเม็กซิโกจึงอยู่ในภาวะแห้งแล้งอย่างรุนแรงทำให้น้ำในทะเลสาบลดลง เห็นวิหารแห่งซานติอาโกชัดเจนกว่าที่ผ่านมา โดยวิหารแห่งซานติอาโกเป็นอัญมณีทางสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 16 (พ.ศ. 2107) ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำกริยัลวา เมืองเคชูลา ในรัฐเชียปัสทางตอนใต้ของเม็กซิโก
ภาพจาก AFP
ตามรายงาน วิหารแห่งซานติอาโกแห่งนี้สร้างโดยนักบวชนิกายโดมินิกันซึ่งนำโดยนักบวชและบาทหลวงชาวสเปน บาร์โธโลเม เดอ ลาคาซาส (Bartolome de la Casas) ซึ่งมาถึงเมืองเคชูลาในช่วงกลางศตวรรษที่ 16 ด้วยกำแพงสูงประมาณ 9 ม. ยาวเกือบ 56 ม. และกว้าง 13 ม. หอระฆังสูงถึง 48 ฟุต และเป็นที่รู้จักในฐานะคริสตจักรเคชูลา
ในปี ค.ศ. 1966 มีการสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้วิหารซานติอาโกเกือบจมอยู่ใต้ทะเล แม้ว่าจะถูกน้ำท่วม แต่โบสถ์โบราณแห่งนี้ยังคงรักษาลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่ซับซ้อนได้อย่างน่าทึ่ง
ภาพจาก AFP
เช่น ซุ้มโค้งที่อ่อนช้อยทอดยาวเหนือทางเข้าอย่างสง่างาม แสดงถึงงานฝีมือที่มีรายละเอียด อิฐทำมือและการออกแบบประดับตกแต่งได้ยืนหยัดผ่านกาลเวลา นำเสนอประวัติศาสตร์อันยาวนานของภูมิภาคนี้ พร้อมมองเห็นส่วนที่สูงที่สุดของวิหารได้
ทว่าในช่วงไม่กี่วันมานี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ จู่ ๆ วิหารก็โผล่ขึ้นจากน้ำอย่างเห็นได้ชัดเจนจนสามารถสังเกตกำแพงที่ถูกซ่อนและเดินเข้าไปสำรวจภายในได้ เมื่อมีการเผยแพร่ความน้ำลดจนวิหารโผล่เหนือน้ำออกไปจึงดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมแน่นขนัด ทำให้ภาพถ่ายของผู้คนที่ขับรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ไปที่กลางทะเลสาบเพื่อชื่นชมวิหารนี้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก
ภาพจาก AFP
ดาริเนล กูตีเอร์เรซ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลในท้องถิ่นบอกกับเอเอฟพีว่า น้ำเริ่มลดลงมากเกินไปเมื่อประมาณ 5 เดือนก่อน ซึ่งวิหารซานติอาโกเป็นเครื่องเตือนใจถึงวิกฤตภัยแล้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นของเม็กซิโกในเดือนมีนาคม
