ดราม่าร้านดังจดทะเบียน “ปังชา” สงวนสิทธิ์ห้ามลอกเลียนแบบ ร้านชื่อเหมือนโดนเรียก 102 ล้าน ถ้าไม่จ่ายมีบวกค่าปรับอีกวันละ 1 หมื่นบาท ผุดอีกรายโดนเรียก 7 แสน
วันนี้ (30 ส.ค. 66) เรียกได้ว่ายังคงเป็นดราม่าสุดร้อนระอุที่เดือดอย่างต่อเนื่อง จากกรณี ร้านดังโพสต์ภาพชี้แจงว่าทางแบรนด์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าแล้ว ทั้งยังเผยว่าผ่านการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ และจดทะเบียนสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พร้อมย้ำว่า สงวนสิทธิ์ห้ามลอกเลียนแบบ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข ยิ่งไปกว่านั้นยัง สงวนสิทธิ์ห้ามนำชื่อแบรนด์ที่มีข้อความว่า ‘ปังชา’ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ไปใช้เป็นชื่อร้านหรือใช้เป็นชื่อสินค้าเพื่อจำหน่าย สร้างการถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเชียล
ภาพประกอบ ประกาศชี้แจงจากร้านอาหารลูกไก่ทองและร้านปังชา จาก Facebook : Lukkaithong – ลูกไก่ทอง Thai Royal Restaurant
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (29 ส.ค. 66) เวลาประมาณ 17.30 น. ทางร้านดังก็ออกมาโพสต์ผ่านเพจ Facebook ‘Lukkaithong – ลูกไก่ทอง Thai Royal Restaurant’ โดยโพสต์ภาพและเขียนแคปชั่นว่า “ประกาศชี้แจงจากร้านอาหารลูกไก่ทองและร้านปังชา”
“ร้านอาหารลูกไก่ทอง และ ร้านปังชา ขอประกาศขอชี้แจงถึงกรณีข้อความในโพสต์ที่ได้มีการโพสต์ผ่านทางโซเชียลมีเดียของทางร้าน ทางร้านขออภัยที่มีการสื่อสารและทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
ภาพประกอบ จาก Facebook : Lukkaithong – ลูกไก่ทอง Thai Royal Restaurant
ภาพประกอบ จาก Facebook : Lukkaithong – ลูกไก่ทอง Thai Royal Restaurant
ทางร้านน้อมรับทุกคำติชม คำแนะนำ และจะปรับปรุง พัฒนาทั้งในการสื่อสาร การบริการ สินค้า ต่อไป
ขอขอบคุณกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่ได้ให้ข้อมูลและหาแนวทางร่วมกันในการชี้แจงเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจทางแบรนด์เป็นอย่างดีที่สุด
ที่สำคัญที่สุด กราบขอบพระคุณด้วยความเคารพจากใจในทุก ๆ ท่านที่ร่วมกันโพสต์แสดงความคิดเห็นให้แนวทาง อธิบายในข้อมูลที่มีเพื่อเป็นความรู้กับปังชาเป็นอย่างดีที่สุด ขอบพระคุณจริง ๆ ค่ะ
ที่ผ่านมาจากกระแสที่เกิดขึ้น ทางร้านลูกไก่ทองและปังชา มิได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด แต่ได้มีการสอบถามและหาปรึกษาแนวทางร่วมกัน ชี้แจงกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาจึงออกมาชี้แจง ณ ที่นี้พร้อมกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา”
ภาพประกอบ จาก Facebook : Lukkaithong – ลูกไก่ทอง Thai Royal Restaurant
ภาพประกอบ จาก Facebook : Lukkaithong – ลูกไก่ทอง Thai Royal Restaurant
ทว่ากรณีดราม่าดังกล่าวก็กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง จากกรณี ร้านขายขนมปังปิ้ง ชา และเครื่องดื่ม ณ จ. เชียงราย ชื่อร้านมีคำว่า “ปังชา” เปิดมาตั้งแต่ปี 64 มี 2 สาขา เผยว่ามีทนายส่งแจ้ง เรียกค่าเสียหาย 102 ล้านบาท ถ้าไม่จ่ายมีบวกค่าปรับอีกวันละ 1 หมื่นบาท ต่อ 1 ร้าน
ล่าสุด “ดร.พีรภัทร ฝอยทอง” ทนายความชื่อดัง ได้โพสต์ผ่านเพจ Facebook ‘Dr. Pete Peerapat’ ต่อกรณีดังกล่าวว่า “พอดีมีคนแท็กมาถามว่า เขาเป็นผู้เสียหายถูกแจ้งให้ หยุดการใช้ชื่อร้านว่า #ปังชา และเรียกค่าเสียหาย 102 ล้านบาท แบบนี้เค้าใช้ชื่อร้านว่าปังชาได้หรือไม่”
พร้อมเสริมว่า “คำตอบในเรื่องนี้จะอยู่ที่ มาตรา 6 (1) ของ พรบ. เครื่องหมายการค้าครับ มาตรา 6 เครื่องหมายการค้าอันพึงรับจดทะเบียนได้ ต้องประกอบด้วยลักษณะดังต่อไปนี้”
ภาพประกอบจาก Facebook : Dr. Pete Peerapat
ก่อนจะอธิบายต่อว่า “(1) เป็นเครื่องหมายการค้าที่มีลักษณะบ่งเฉพาะ คำว่า #ลักษณะบ่งเฉพาะ หมายถึง เครื่องหมายนั้นต้องไม่มีลักษณะธรรมดาสามัญของสินค้าหรือบริการนั้น ๆ
ถ้าเราทำ บิงซู หรือ น้ำแข็งใส แล้วใส่ขนมปัง ราดด้วยชาเย็น ลักษณะสามัญ ของมัน คือ ขนมปัง ชาเย็น น้ำแข็งใส แปลว่า ถ้าเราจะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ ต้องไม่มีลักษณะสามัญของสินค้าเหล่านั้น
แต่ถ้าเราจะจดโดยมีคำสามัญลงไปด้วย เราก็จะต้อง #สละสิทธิ คำดังกล่าว คือเราจะไปหวงกันไม่ให้คนอื่นใช้คำเหล่านั้นไม่ได้ครับ สิ่งที่จะจดเครื่องหมายการค้าได้ต้องเป็นพวกรูป ฟอนท์ ที่มีลักษณะเฉพาะของทางร้านเท่านั้น
ดังนั้น ในกรณีนี้ ผมเห็นว่า ทางร้านยังสามารถใช้ชื่อร้านเดิมต่อไปได้ ซึ่งวันนี้กรมทรัพย์สินทางปัญญาก็ออกมาช่วยให้ความรู้ในเรื่องด้วยเช่นกันครับ ส่วนเรื่องค่าเสียหาย ในเมื่อเรามีสิทธิใช้ชื่อร้านว่าปังชา เขาก็เรียกค่าเสียหายไม่ได้ครับ ถ้าถูกฟ้องจริง ก็สามารถไปต่อสู้ที่ศาลได้แน่นอนครับ”
ภาพประกอบ ร้าน ปังชา จ.เชียงราย จากเพจ Facebook : ปังชา
ทั้งนี้ทาง ‘กรมทรัพย์สินทางปัญญา’ ก็ออกมาโพสต์ แนะนำข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความรู้ในเรื่อง ทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งยังแนะนำผู้ประกอบการร้านอาหารที่มีเมนูลักษณะนี้อีกด้วย
ที่มา : Dr. Pete Peerapat, ปังชา, Lukkaithong – ลูกไก่ทอง Thai Royal Restaurant, กรมทรัพย์สินทางปัญญา
